ถนนแคบ ชาวบ้านบางปะกงรุมชี้ผู้เช่าที่ดินเอกชนรุกล้ำปักหลักเขตขวางที่ดินสาธารณะ วอนขยายเส้นทางการสัญจรรับเปิดเทอม เผยทั้งแออัดทั้งเดินทางผ่านรถสวนกันลำบาก หลังเคยรวมตัวเดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเกือบหนึ่งเดือนแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า หวั่นช่วงหลังเปิดเทอมสัปดาห์หน้าการจราจรในชุมชนอัมพาต
วันที่ 22 ต.ค.62 ชาวบ้านชุมชนหน้าตลาดบูรพา พื้นที่หมู่ 7 และหมู่ 12 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา จำนวนกว่า 60 คน ได้รวมตัวเดินนำพากันไปชี้จุดให้ผู้สื่อข่าวดูหลักแนวเขตที่ดินเอกชนขวางถนนสาธารณะ หลังเคยเดินทางเข้าไปยื่นหนังสือร้องเรียนผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรามาเป็นเวลาถึงเกือบ 1 เดือนแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้า
โดย นายดำรง ลิขิตทรัพย์ อายุ 78 ปี อยู่บ้านเลขที่ 83 ม.12 ต.บางวัว อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา กล่าวว่า จากกรณีที่มีผู้เช่าที่ดินเอกชนรายหนึ่งเพื่อทำเป็นบ่อเลี้ยงปลา ได้นำหลักเขตแท่งคอนกรีตมาปักขวางถนน ในซอยจรัญยานนท์ ซ.2 หรือถนนลิขิตทรัพย์ ซึ่งเป็นเส้นทางการสัญจรของชาวบ้าน ที่เชื่อมระหว่างถนนจรัญยานนท์ บริเวณด้านหน้าตลาดบูรพา ไปยังถนนสาย บางนา-ตราด (เทพรัตน) กม.43
ซึ่งเป็นเส้นทางลัดที่ชาวบ้านและคนงานในโรงงานอุตสาหกรรมในพื้นที่ ตลอดจนนักเรียนใช้ในการสัญจรเดินทางผ่านกันเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นเส้นทางลัดที่ไม่ต้องออกไปยังถนนสายใหญ่ และต้องเสียเวลาไปวนหาจุดกลับรถที่อยู่ห่างไกลอีกหลาย กม. จึงทำให้เส้นทางสายนี้มีการจราจรหนาแน่น เนื่องจากเป็นเส้นทางที่ลัดใกล้ที่สุด ในการเดินทางเชื่อมต่อไปยังชุมชนอื่นๆ และอีกหลายพื้นที่
โดยผู้เช่าที่ดินเอกชนรายนี้ ได้นำหลักเขตแบบแท่งคอนกรีตมาปักขวางไว้บนเส้นทางการสัญจร ซึ่งเป็นที่ดินสาธารณะรุกล้ำเข้ามาในเขตถนนมากถึงเกือบ 4 เมตร จนทำให้การสัญจรของผู้ใช้เส้นทางผ่านบนถนนสายนี้ขับรถสวนทางกันได้อย่างยากลำบาก และเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ทั้งยานพาหนะยังอาจไปเฉี่ยวชนเข้ากับหลักเขตแท่งคอนกรีตทั้ง 3 ต้นที่ถูกนำมาปักโผล่เรียงรายขวางทางไว้ตลอดความยาวกว่า 300 เมตร
จึงอยากวิงวอนให้หน่วยงานราชการเร่งรัดเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาให้แก่ชาวบ้านด้วย โดยการเข้ามาทำการรังวัดตรวจสอบชี้ชัดถึงแนวเขตของการรุกล้ำที่ดินสาธารณะแห่งนี้ เพื่อให้สามารถขยายถนนให้กว้างขึ้นได้ต่อไป เนื่องจากทางโรงเรียนเอกชนชื่อดังในพื้นที่ ซึ่งตั้งอยู่ริมเส้นทางสายนี้ใกล้ที่จะเปิดภาคเรียนแล้ว จะยิ่งทวีปัญหาทำให้การจราจรติดขัดหนาแน่นอย่างหนักเพิ่มมากขึ้นต่อไปอีก ทั้งช่วงเช้าและเย็น
ด้าน นายวันชัย ทองมาลัย อายุ 61 ปี อดีตผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.12 กล่าวว่า ตนเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านมานานถึงกว่า 25 ปี จนเกษียณอายุราชการ ยืนยันว่าที่ดินบริเวณดังกล่าวที่ถูกผู้เช่าที่ดินเอกชนรายนี้ปักหลักเขตรุกล้ำเข้ามานั้น เป็นที่ดินสาธารณะ ซึ่งเดิมเคยเป็นคลองซอยเก่าแก่แยกออกมาจากคลองสำโรง แต่ไม่ได้ถูกใช้ประโยชน์แล้ว จึงได้นำมาถมใช้เป็นถนนเส้นทางการสัญจรแทน
ส่วนแนวเขตที่ดินส่วนบุคคลของผู้บุกรุกนั้น อยู่ลึกออกไปจากแนวถนนในปัจจุบันนี้อีก อย่างน้อยประมาณ 4 เมตร เนื่องจากลำคลองสายเดิมนั้นมีขนาดใหญ่กว้างมากถึง 15 วา (30 ม.) จึงอยากให้ทางราชการเร่งเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาเพื่อให้ชาวบ้านได้ใช้ประโยชน์บนที่ดินสาธารณะร่วมกัน นายวันชัย กล่าว
