ช้างป่า ไล่กระทืบคนงานตัดไม้ยูคาฯ ชาวกัมพูชาดับคาที่หนึ่งราย ส่วนเพื่อนคนงานอีก 8 ชีวิตพร้อมเด็กชาย-หญิง 2 คน วิ่งหนีกระเจิงเอาตัวรอดเข้าป่าหายตัวไปอย่างลึกลับ เย้ยไล่หลังผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา ลงพื้นที่แก้ปัญหาช้างป่ารอยต่อห้าจังหวัดภาคตะวันออกเมื่อวานก่อน
วันที่ 31 ต.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 09.00 น.วันนี้ เจ้าหน้าที่จากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าตะเกียบ ทหารพรานที่ 1306 และฝ่ายปกครอง ได้ร่วมกันเดินทางเข้าไปตรวจสอบยังในที่เกิดเหตุ บริเวณภายในไร่มันสำปะหลังและป่ายูลิปตัส ที่หมู่บ้านเนินกระบก ม.12 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา หลังได้รับแจ้งเหตุคนงานชาวกัมพูชาถูกช้างป่าเหยียบทำร้ายจนเสียชีวิต จำนวน 1 ราย
ที่เกิดเหตุพบเพิงที่พักคนงานตัดไม้ยูคาลิปตัส ถูกช้างป่ารื้อค้นจนข้าวของกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นไปทั่วบริเวณ ห่างจากเพิงพักคนงานออกไปประมาณ 70 เมตร พบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวกัมพูชาจำนวน 1 ราย สภาพถูกช้างกระทืบทำร้ายร่างกายจนเสียชีวิต ในสภาพกะโหลกศีรษะแตกละเอียดจนเหลือแต่ต้นคอ แขนขาหัก นอนจมพื้นดินทรายจนเนื้อตัวเต็มไปด้วยเศษฝุ่น
ส่วนคนงานชายอีก 6 คน หญิง 1 คน และเด็กชาย-หญิง วัย 11 และ 12 ปีอีก 2 คน หนีกระเจิงหายตัวเข้าไปในป่าจนหมด ซึ่งล่าสุดยังหาตัวไม่พบอีก 2 คนเป็นคนงานชายชาวกัมพูชา
สอบถามเพื่อนคนงานชาวกัมพูชาที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทราบว่าเมื่อเวลาประมาณเที่ยงคืนเศษที่ผ่านมา ได้มีโขลงช้างป่าประมาณ 20-30 ตัว เดินผ่านมายังบริเวณเพิงพักคนงาน โดยครั้งแรกช้างป่าได้เดินเข้าไปใช้งวงแกว่งเปลนอนของผู้ตายก่อน แต่ผู้ตายเข้าใจว่าเป็นเพื่อนคนงานตัดไม้ด้วยกัน ที่เข้ามาแกล้งหยอกล้อเล่น จึงได้ร้องด่าต่อว่าออกไป
จึงทำให้ช้างป่าได้ยินเสียง และใช้งวงกระชากเปลนอนจนตัวผู้ตายตกลงมาจากเปล ก่อนที่จะมีช้างป่าอีกหลายตัวพากันเข้ามาช่วยกันรุมทำร้ายจนผู้ตายเสียชีวิต ส่วนคนงานคนอื่นๆ ที่พักอยู่ด้วยกันต่างพากันวิ่งหนีแตกกระเจิงออกไปจากที่เกิดเหตุเพื่อเอาตัวรอด จนถึงช่วงรุ่งเช้าจึงได้แจ้งให้แก่ทางเจ้าหน้าที่ และเจ้าของไร่ยูคาลิปตัสทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว
โดย นายอเนก วงศ์ษา ผู้ช่วยหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน กล่าวว่า จากการสอบถามชาวบ้านทราบว่า คนงานต่างด้าวที่เสียชีวิตพร้อมกับพวก ได้เข้ามาตั้งเพิงพักเพื่อรับจ้างตัดไม้ยูคาลิปตัสนานกว่า 10 วันแล้ว โดยมีชาวบ้านในพื้นที่ได้ออกมาเตือนแล้วว่าตรงจุดบริเวณที่คนงานตั้งเพิงที่พักอยู่นั้น เป็นจุดที่มีช้างป่าจำนวนกว่า 30 ตัวเดินผ่านอยู่เป็นประจำ
แต่กลุ่มของผู้ตายไม่เชื่อ จนเมื่อคืนที่ผ่านมาผู้ตายได้ผูกเปลนอน และมีโขลงช้างจำนวนกว่า 30 ตัวเดินผ่านเข้ามาจริงๆ และพบว่ามีเพิงที่พักของคนงานขวางอยู่ในเส้นทาง ประกอบกับมีสุนัขจำนวน 2 ตัวที่คนงานเลี้ยงไว้เห่าไล่ จึงเป็นสาเหตุทำให้ช้างเกิดอาการเครียด จึงได้เข้าพังทำลายเพิงพักของคนงาน พร้อมเข้าทำร้ายจนถึงขั้นเสียชีวิตดังกล่าว
ส่วนคนงานที่ยังหาตัวไม่พบจำนวน 2 คนนั้น ขณะนี้ทางหน่วยทหารพรานที่ 1306 (หนองคอก) ได้สนธิกำลังร่วมกับกองร้อย อส. อ.ท่าตะเกียบ เจ้าหน้าที่อนุรักษ์ฯ ออกติดตามหาในป่าแล้ว นายอเนก กล่าว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า จากเหตุการณ์ช้างป่าทำร้ายคนจนเสียชีวิตที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังจาก นายระพี ผ่องบุพกิจ ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พร้อมด้วยส่วนราชการระดับจังหวัด ลงพื้นที่ไปติดตามการแก้ไขปัญหาช้างป่า และหาแนวทางการพัฒนา เพื่อการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับช้าง เมื่อช่วงเวลา 14.00-17.30 น. ของวันที่ 29 ต.ค.62 ที่ผ่านมา
ยังที่บ้านเนินน้อย หมู่ที่ 20 และบ้านคลองมะหาด หมู่ 14 ต.ท่าตะเกียบ ท่ามกลาง กลุ่มชาวบ้านในพื้นที่ กำนันผู้ใหญ่บ้าน ส่วนราชการระดับอำเภอ และยังได้เข้าเยี่ยมชุดเฝ้าระวังช้างป่า ประจำอำเภอท่าตะเกียบ และอำเภอสนามชัยเขต ที่มาคอยให้การต้อนรับได้เพียงไม่ถึง 48 ชม. แต่ปัญหาความรุนแรงระหว่างคนกับช้างป่า ที่เคยเกิดขึ้นมาอย่างยาวนานก็ยังคงเกิดขึ้นติดตามมาในทันที ภายหลังจากส่วนราชการระดับจังหวัดคล้อยหลังกลับไปได้ไม่นาน
