ฉะเชิงเทรา – รำปลายข้าว เพื่อนบ้านทะลักเข้าไทย ตำรวจสนามชัยเขตสกัดจับไว้ได้เกือบ 100 ตัน ขณะ รอง ผบช. ภ.2 รุดแถลง เผยเตรียมนำส่งเข้าโรงงานอาหารสัตว์ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ก่อนส่งตัวคนขับรถบรรทุกพ่วงดำเนินคดีในข้อหาบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฎหมายกำหนด และนำเข้าสินค้าควบคุมโดยไม่ผ่านกระบวนการศุลกากร
วันที่ 2 พ.ย.62 เวลา 18.30 น. พล.ต.ต.ธีรพล จินดาหลวง รอง ผบช. ภ.2 ได้เดินทางมาแถลงข่าวการสกัดจับกุมรถยนต์บรรทุกสินค้าผิดกฎหมายโดยไม่ผ่านกระบวนการด้านศุลกากรจากประเทศเพื่อนบ้าน และบรรทุกน้ำหนักเกินต่อสื่อมวลชน ยังที่ สภ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา โดยมีของกลางเป็นรถยนต์บรรทุกพ่วง พร้อมรำและปลายข้าวที่บรรทุกมาบนรถเกือบเต็มคัน น้ำหนักรวมเกือบ 100 ตัน
โดย พล.ต.ต.ธีรพล กล่าวว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สนามชัยเขต ได้นำกำลังไปตั้งด่านจุดสกัดบนถนนสาย ชำป่างาม-สนามชัยเขต บริเวณบ้านลมโชย พื้นที่ ม.1 ต.คู้ยายหมี อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา เพื่อสกัดจับขบวนการลักลอบขนรำข้าว และข้าวสารหลีกเลี่ยงภาษี ต่อมาเมื่อเวลา 04.00 น. ได้มีรถยนต์บรรทุกพ่วง 22 ล้อแบบสองตอน หมายเลขทะเบียนหัวลาก 70-2035 จันทบุรี หมายเลขทะเบียนหางพ่วง 70-2036 จันทบุรี ขับผ่านเข้ามา
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้พยายามเรียกให้คนขับหยุดรถ แต่คนขับได้พยายามที่จะขับหลบหนีด่านตรวจ ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการไล่ติดตามจนสามารถหยุดรถไว้ได้ในที่สุด โดยพบว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวได้บรรทุกปลายข้าว และรำข้าว ที่ถูกนำเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน ทางชายแดนด้าน อ.สอยดาว จ.จันทบุรี จากนั้นจึงได้ขอทำการตรวจสอบเอกสารการขนย้ายรำ ข้าวและปลายข้าว เอกสารเกี่ยวกับการนำเข้าและกระบวนการทางด้านภาษีศุลกากร แต่คนขับรถไม่สามารถที่จะนำมาแสดงได้
จึงได้ทำการควบคุมตัว นายจำนาน ปรือปรัง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69 ม.2 ต.ปรือใหญ่ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ คนขับรถมาทำการสอบสวนดำเนินคดียังที่ สภ.สนามชัยเขต และตั้งข้อกล่าวหาว่า “ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรมการกลาง ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการกรณีเรื่องกำหนดท้องที่ หรือระยะเวลาในการใช้บังคับประกาศของคณะกรรมการ และห้ามหรืออนุญาตให้มีการส่งออกหรือนำเข้ามาในท้องที่ใดท้องที่หนึ่งซึ่งสินค้าควบคุม
และผู้ใดนำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรซึ่งของที่ยังมิได้ผ่านพิธีการศุลกากร หรือเคลื่อนย้ายของออกไปจากยานพาหนะ คลังสินค้า ทัณฑ์บน โรงพักสินค้าที่มั่นคง ท่าเรือรับอนุญาต หรือเขตปลอดอากร โดยไม่ได้รับอนุญาตจากศุลกากร”
และเมื่อนำรถบรรทุกไปชั่งน้ำหนัก ยังพบว่ามีการบรรทุกน้ำหนักเกินอัตรากว่าที่กฎหมายกำหนด โดยชั่งน้ำหนักตัวรถส่วนหัวลากได้ 48,565 กก. ส่วนหางพ่วงได้ 50,600 กก. รวมมูลค่าสินค้าประมาณ 730,000 บาท จึงได้ตั้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกว่า “ใช้ยานพาหนะบรรทุกน้ำหนักเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด” ส่ง พ.ต.ท.นุรัตน์ จันทะคุณ พนักงานสอบสวน สภ.สนามชัยเขต ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
