เพชรบูรณ์-อนุกก.คทช.จังหวัด มีมติชงปลดล็อค โรงแรมรีสอร์ทรุกป่า-ที่สาธารณะ-สปก.กว่า 1000 แห่ง เห็นควรใช้ม.16 พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ อ้างหากจับกุมดำเนินคดีทำให้ยุ่งยากและไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจสังคม
วันที่ 20 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจังหวัดเพชรบูรณ์(คทช.จังหวัด) โดยมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธาน ซึ่งมีการหยิบยกเรื่องการรวบรวมข้อเท็จจริง สภาพปัญหาและแนวทางแก้ไข การประกอบธุรกิจโรงแรมหรือธุรกิจสถานที่พักตามกฎกระทรวงกำหนดประเภทและหลักเกณฑ์การประกอบธุรกิจโรงแรม พ.ศ.2551 ที่ไม่สามารถดำเนินการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย เนื่องจากมีข้อจำกัดเรื่องการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อนำเสนอคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) ตามคำสั่ง คสช.ที่ 6/2562 ขึ้นมาพิจารณา
โดยผลปรากฎว่าที่ประชุมมีมติเห็นควรนำเสนอคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) พิจารณาเสนอต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)ให้ความเห็นชอบ ให้กรมป่าไม้สามารถพิจารณาอนุญาตให้ผู้ประกอบการโรงแรมหรือรีสอร์ทที่อยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้ ที่ได้มาจดแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นตาม คำสั่ง คสช.ที่ 6/2562 วันที่ 12 มิถุนายน 2561 และมายื่นขออนุญาตเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในเขตป่าสงวนแห่งชาติหรือพื้นที่ป่าไม้ ภายในระยะเวลาที่กำหนด โดยดำเนินการทำนองเดียวกับราษฎรที่ได้รับการแก้ไขเรื่องที่อยู่อาศัยและทำกินตามมติ ครม.เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมเห็นควรให้ใช้แผนที่ภาพถ่ายทางอากาศในปีที่ใกล้เคียง ในการตรวจสอบและพิสูจน์สิทธิการถือครองที่ดินเช่นเดียวกับราษฏร ในการนี้กำหนดให้ผู้ได้รับอนุญาตต้องปฏิบัติตามระเบียบ กฎกระทรวง ซึ่งออกตามความใน พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป่าสงวนฯ(ฉบับที่ 4) พ.ศ.2559
ข่าวน่าสนใจ:
- สกลนคร เปิดงาน “วันถ่ายทอดเทคโนโลยีเพื่อเริ่มต้นฤดูกาลใหม่ FIELD DAY” มุ่งเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลังเฉลี่ยต่อไร่
- เพชรบูรณ์ - นอภ.เขาค้อเขาค้อ ชี้วันหยุดสัปดาห์แรกหลังเข้าฤดูท่องเที่ยว นทท.ไม่ต่ำ 20,000 คน แห่เที่ยว-ชมคอนเสิร์ต คาดเงินสะพัด 30 ล้าน
- ททท. ผนึกพันธมิตร จัดงาน "เหนือพร้อม..เที่ยว" Kick off แคมเปญ "แอ่วเหนือ...คนละครึ่ง" เริ่ม 1 พ.ย.นี้
- ศาลฏีกาพิพากษายืน!! คดีผอ.ตุ๊ก่อเหตุฆ่า"น้องหลิว"ทิ้งศพนิรนามป่าอ้อย 12 ปี จำคุกตลอดชีวิตและชดใช้เงิน 1.7 ล้านบาท
สำหรับจำนวนโรงแรมที่มาจดแจ้งในเบื้องต้นและเห็นควรนำเสนอต่อ คทช.ได้แก่ อ.เขาค้อ 457 แห่ง, อ.หล่มเก่า 150 แห่ง, อ.หล่มสัก 5 แห่ง, อ.น้ำหนาว 18 แห่ง, อ.วังโป่ง 2 แห่ง, อ.ชนแดน 2 แห่ง, อ.บึงสามพัน 6 แห่ง, อ.เมือง 30 แห่ง โดยนายสืบศักดิ์ได้กำชับให้ทุกอำเภอตรวจสอบว่าโรงแรมดังกล่าวอยู่ในพื้นที่ชนิดใดภายในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้ หลังมีการรายงานว่าโรงแรมรีสอร์ทเหล่านี้อยู่ในเขตพื้นที่ป่า, ที่ดินสาธารณะประโยชน์, เขตห้ามล่าฯ, สปก. โดยให้แยกประเภทให้ชัดเจน นอกจากนี้ยังเห็นควรให้ทำหนังสือแจ้งหน่วยงานต่างๆ เพื่อทราบและพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง อาทิ ประธาน คทช.ผ่านเลขานุการ คทช., อธิบดีกรมป่าไม้, อธิบดีกรมปกครอง, อธิบดีอัยการภาค 6, ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6
ขณะเดียวกันที่ประชุมยังเห็นควรให้ดำเนินการในส่วนกลุ่มผู้ประกอบการที่ไม่ได้จดแจ้ง โดยให้ถือว่าเป็นการฝ่าฝืนคำสั่ง คสช.และกฎหมาย ให้อำเภอดำเนินการตามอำนาจหน้าที่และกฎหมายโดยด่วน และในกรณีที่ตรวจสอบแล้วไม่พบผู้ประกอบการหรือเจ้าของ ให้ทำการตรวจยึดจับกุมดำเนินคดีตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง อาทิ กฎหมายว่าด้วยป่าไม้, กฎหมายโรงแรม, กฎหมายควบคุมอาคารโดยเคร่งครัดทุกราย
ข่าวแจ้งว่า นายเวทิน พุ่มอินทร์ ผู้อำนวยการสำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัด(ทสจ.)เพชรบูรณ์ ให้เหตุผลถึงการนำเสนอตามแนวทางดังกล่าวว่า ในการแจ้งการครอบครองตามคำสั่ง คสช.ที่ 6/2562 หากดำเนินการบังคับใช้กฎหมายก็คงจะยุ่งยากและขึ้นศาลกันสนุกสนาน เนื่องจากการไปรื้อถอนและการไปจับกุมไม่เกิดผลดี จริงๆแล้วรัฐบาลให้ความสำค้ญจึงเป็นที่มาของคำสั่ง คสช.ที่ 6/2562 แนวทางจะต้องให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ได้ใช้สิทธิและเข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยหรือก่อสร้างดำเนินธุรกิจต่อไปได้ จากการตรวจสอบแล้วเป็นพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จึงเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้กฎหมายป่าสงวนฯ
นายเวทินกล่าวด้วยว่า จึงเห็นสมควรเสนอต่อ คทช.เพื่อให้ครม.เห็นชอบ โดยให้กรมป่าไม้อนุญาตให้ผู้ประกอบธุรกิจโรงแรมรีสอร์ทอยู่ในเขตพื้นที่ป่าไม้และได้มาจดแจ้งคำสั่งที่ 6/2562 และมายื่นคำขอเพื่อขอใช้ทำประโยชน์ ให้กรมป่าไม้สามารถพิจารณาให้ได้ซึ่งกรณีทั่วไปการเข้าทำประโยชน์ในเขตพื้นที่ป่าก่อนได้รับอนุญาตต้องถูกจับกุมดำเนินคดีและบังคับคดีเรียบร้อยถึงจะสามารถยื่นได้ แต่ตอนนี้ถ้าจับกุมดำเนินคดีก่อนก็คือการรื้อ ซึ่งคงไม่จำเป็นใช้เหตุผลถึงครม.แต่อย่างใด เพราะจับเรียบร้อยรื้อเสร็จแล้วมาขออนุญาตสร้างใหม่ ไม่สมเหตุสมผลกับเกิดความสูญเสียทั้งทางเศรษฐกิจสังคม รวมทั้งผลกระทบต่อประชาชนทั้งทางตรงและทางอ้อม
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: