เพชรบูรณ์-“ศรีสุวรรณ”รับลูกเจ้าของรีสอร์ท จี้เจ้ากระทรวงที่เกี่ยวข้อง จัดการโรงแรมรีสอร์ทเขาค้อรุกป่า ตาม”ปารีณาโมเดล” (ชมคลิป)
เวลา 14.00 น.วันที่ 10 ธ.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนายประสม ประคุณสุขใจ กรรมการผู้จัดการบริษัทเมาเทนพาร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล กอล์ฟแอนด์รีสอร์ทจำกัด สร้างความฮือฮาโดยการขึ้นป้ายยักษ์ใหม่แซะ”ลุงตู่ บิ๊กป็อก ลูกท็อป” ปล่อยให้โรงแรมรีสอร์ทเถื่อนและบุกรุกป่าเขาค้อผุดเต็มพื้นที่เกือบ 1000 แห่ง พร้อมจี้ให้เร่งบังคับใช้กฎหมาย ล่าสุดนายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน ลงพื้นที่อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อรับฟังข้อมูลพร้อมรับเรื่องร้องเรียนและสำเนาเอกสารต่างๆจากนายประสม
โดยนายศรีสุวรรณกล่าวว่า หลังจากได้รับเอกสารจากผู้ประกอบการโรงแรมที่ถูกกฎหมายบนเขาค้อแล้ว ก็คฝต้องเร่งรีบนำเรื่องนี้ไปดำเนินการยื่นให้หน่วานในส่วนกลาง ไม่ว่าจะเป็น รมว.ทส. รมว.มท.,อธิบดีกรมป่าไม้, อธิบดีกรมปกครอง ดำเนินการเรื่องนี้เป็นการด่วน เพราะมีประเด็นปารีณาโมเดลเกิดขึ้นแล้ว เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องไม่เป็นสองมาตรฐาน การเอาพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไปเอื้อให้กลุ่มทุนสร้างรีสอร์ท ณ วันนี้มี 600 กว่ารีสอร์ท
ข่าวน่าสนใจ:
นอกจากนั้นการกระทำลักษณะนี้ยอกจากจะพ.ร.บ.ป่าสงวนฯแล้วยังผิดพ.ร.บ.โรงแรม ซึ่งเรื่องนี้หน่วยงานภาครัฐในจังหวัดเพชรบูรณ์รับรู้เรื่องนี้โดยตลอดแล้ว เพียงแต่ว่าหลับตาไม่ใช่ข้างเดียวแต่หลับตาทั้งสองข้างทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ซึ่งเรื่องนี้คงปล่อยให้เป็นเรื่องคาราคาซังแบบนี้ต่อไปไม่ได้ สมาคมต้องทำหน้าที่ต้องไปจี้และกระตุ้นให้ หน่วยงานที่มีหน้าที่โดยตรงตามกฎหมายให้เร่งรีบดำเนินการตามปารีณาโมเดลให้เร็วที่สุด หากหน่วยงานเหล่านี้ไม่ดำเนินการอะไรก็จะนำเรื่องขึ้นฟ้องศาล เพื่อเล่นงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่ทางสมาคมและผู้ประกอบการร้องเรียนไป
นายประสมกล่าวว่า ทางจังหวัดมักจะอ้างคำสั่งคสชที่ 6/2562 ซึ่งไม่มีผลกับโรงแรมที่สร้างอยู่ในป่า มีการนำมาเป็นข้ออ้าง เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถ ดำเนินธุรกิจอยู่ได้จนถึงทุกวันนี้ โดยไม่มีการเสียภาษีไม่มีความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว นอกจากยี้ยังเป็นการเอาเปรียบผู้ประกอบการที่ถูกกฎหมายแล้ว ยังเป็นการปล้นที่ดินหรือพื้นที่ป่าของคนไทยทั้งประเทศ โดยมีข้าราชการบางคนบางกลุ่มอยู่เบื้องหลัง
ข่าวแจ้งว่า ระหว่างนายประสมให้ข้อมูลกับนายศรีสุวรรณนั้น ยังมีอดีต รอส.เขาค้อบางรายให้ข้อมูลเรื่องการฮุบพื้นที่ปลูกป่าตามพระราชเสาวณีย์เมื่อปี 2554 ที่ ต.หนองแม่นา โดยทางกรมสืบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)รับเป็นคดีพิเศษแต่ปัจจุบันเงียบหายไปเฉยๆ และการสำรวจอดีต รอส.และทายาทจำนวน 559 รายเพื่อเตรียมชง คทช.ให้สิทธิ์ทำกินในพื้นที่ป่าเขาค้อ ซึ่งมีทั้งนอนิมิและกลุ่มทุนถือครอง นอกจากนี้ยังมีการแฉว่ามีเจ้าหน้าที่และผู้ใหญ่บ้านบางรายไปเตี้ยมกับชาวบ้าน เพื่อให้ข้อมูลไหในทิศทางเดียวกันว่าถือครองที่ดินมาก่อนปี 2557
นอกจากนี้แหล่งข่าวอดีต รอส.รายนี้ยืนยันการซื้อขายที่ดินใน 4 ตำบลของอ.เขาค้อ นอกจากยังไม่ลดลงแล้ว ในทางตรงกันข้ามเวลานี้ยังกลับมาคึกคักขึ้นอีก เพราะการท่องเที่ยวบูมมากและมีการปล่อยข่าววในทำนองว่ามีโอกาสและควาทเป็นไปได้ที่โรงแรมรีสอร์ทบนเขาค้อ จะได้รับการผ่อนปรนให้ได้รับอนุญาตให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าบนเขาค้อเพื่อทำธุรกิจต่อไป ขณะเดียวกันการก่อสร้างบ้านพักตากอากาศและสิ่งปลูกสร้างอื่นยังมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่องโดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: