เพชรบูรณ์-อ้างเด็กนร.ถูกติดป้ายค้างค่าเทอมป่วย ผู้ปกครองไม่พาไปโรงเรียน รรท.ผอ.โรงเรียนเผยแรงกดดันสังคมเริ่มผ่อนคลาย โรงเรียนปิดเฟสบุ๊กหนีนักเลงคีย์บอร์ดรุมด่า
วันที่ 25 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณีครูเทศบาลฯแปะป้ายประจานเด็กนักเรียนติดค้างค่าเทอม จนผู้ปกครองไม่พอใจครูนำภาพไปเผยแพร่ทางสื่อโซเชียล กระทั่งกลายเป็นประเด็นฮือฮาจนชาวโซเซียลต่างพากันแห่ประณามการกระทำของครูรายนี้กันกระจาย ล่าสุดในวันนี้ที่โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านในเมือง) ซึ่งเป็นวันเปิดเรียนวันแรกในรอบสัปดาห์ เด็กนักเรียนที่ถูกครูเขียนสก็อตเทปแปะหน้ายังไม่ชำระค่าเทอม 700 บาท ทางผู้ปกครองไม่ได้พาไปโรงเรียน ในขณะที่ห้องเรียนของเด็กนักเรียนรายนี้ ได้มีครูประจำชั้นคนใหม่มาช่วยทำการเรียนการสอนแทนครูที่ถูกสั่งย้ายไปยังโรงเรียนข้างเคียง
โดยนางอริศรา พัฒนากูล รอง ผอ.โรงเรียนเทศบาล 1 (บ้านในเมือง) รักษาราชการแทน(รรท.) ผอ.โรงเรียนฯ กล่าวชี้แจงถึงสถานการณ์ภายในโรงเรียนล่าสุดภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวว่า สถานการณ์เริ่มสงบขึ้นเพราะคลายแรงกดดันจากสังคมไปมาก ส่วนผู้ปกครองเด็กเข้าใจและพอใจหลังมีการลงโทษครูในเบื้องต้น และทางนายกเทศมนตรีฯรวมทั้ง เจ้าหน้าที่พม.ได้ยื่นมือไปช่วยเยียวยา
นายอริศรากล่าวว่า ส่วนเด็กนักเรียนที่มีปัญหาวันนี้ทางผู้ปกครองไม่ได้พามาโรงเรียน ซึ่งได้รับแจ้งจากผู้ปกครองแล้วในขณะที่เด็กเองก็มีปัญหาด้านสุขภาพเป็นโรคหืดหอบด้วย ส่วนห้องเรียนดังกล่าวได้มอบหมายให้ครูท่านอื่นไปเป็นครูประจำชั้นแทน นอกจากนี้ในช่วงเย็นวันนี้จะเชิญครูและบุคลากรทั้งหมดร่วมประชุมเพื่อสรุปสถานการณ์และถอดเป็นบทเรียนด้วย
ข่าวน่าสนใจ:
นายอริศรากล่าวย้ำว่า จริงๆคุณครูที่มีปัญหารายนี้ในด้านการทำงานเป็นที่ยอมรับของผู้ปกครองและเพื่อนร่วมงาน เพราะเป็นคนทำงานจริงจัง แต่ต้องเข้าใจว่าคนที่มีเป้าหมายสูงก็จะมีวิธีการไปให้ถึงเป้าหมายมากกว่าคนอื่น อาทิ เด็กไม่อ่านก็จะหาวิธีหรือหนทางอื่นทำให้เด็กสนใจมาอ่านมาเขียนเป็นต้น โดยผู้ปกครองจะยอมรับว่าหากผ่านครูท่านนี้ลูกหลานของเขาจะมีระเบียบวินัย และการที่ครูเข้มงวดบางครั้งเด็กก็จะถูกดันบ้าง หากผู้ปกครองเข้าใจก็จะยอมรับ อย่างกรณีพ่อของเด็กเรียนที่เกิดปัญหารายนี้ก็เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้นางอริศรายังชี้แจงถึงการปิดเฟสบุ๊กโรงเรียนด้วยว่า หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้นได้มีผู้เข้ามาใช้บริการและแสดงความคิดเห็นไม่สุภาพ มีการด่าทอโรงเรียนและครูจนเกินขอบเขต เมื่อหารือกันหลายๆฝ่ายแล้วจึงตัดสินใจปิดเฟสบุ๊กดังกล่าวเป็นการชั่วคราว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: