เพชรบูรณ์-ครูเปิดใจ! เผยติดป้ายทวงค่าเทอมลูกศิษย์ เจตนาแค่ต้องการสื่อสารถึงผู้ปกครอง รับวิธีการอาจไม่เหมาะสมแต่เจตนาดี ผู้ปกครองเด็กนัดเคลียร์แต่เบี้ยวให้ครูรอเก้อ
เวลา 08.00 น.วันที่ 27 มิถุนายน ที่โรงเรียนเทศบาล 1 บ้านในเมือง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ครูติดป้ายลูกศิษย์ค้างค่าเทอมพร้อมสามีซึ่งเป็นข้าราชการตำรวจชั้นประทวนสภ.เมืองเพชรบูรณ์ นัดพบผู้ปกครองของเด็กนักเรียนฯเพื่อปรับความเข้าใจภายหลังผู้ปกครองรายนี้ซึ่งเป็นอดีตลูกศิษย์ ได้โทรศัพท์ไปขอโทษพร้อมแสดงความเสียใจที่เหตุการณ์บานปลายแบไม่คาดคิด อย่างไรก็ตามทางครูและสามีตำรวจฯได้นั่งรอจนเวลาผ่านไปราว 1 ชั่วโมง ปรากฏว่าไร้เงาผู้ปกครองรายนี้แม้ทางครูจะพยายามติดต่อทางโทรศัพท์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จากนั้นทั้งสองจึงเดินทางกลับ โดยทางครูฯแจ้งว่า เวลา 11.00 น.ของวันนี้ทางคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงได้นัดสอบปากคำที่เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์
อย่างไรก็ตามก่อนเดินออกจากโรงเรียนฯ คุณครูได้ชี้แจงแบบเปิดใจกับสื่อที่ไปติดตามเสนอข่าว ถึงสาเหตุที่จำเป็นต้องเขียนสก๊อตเทปแปะอกลูกศิษย์ โดยยอมรับว่าวิธีการอาจไม่เหมาะสมแต่เจตนาดี เพียงแค่ต้องการสื่อสารไปยังผู้ปกครอง เนื่องจากเกรงว่าประกันชีวิตจะขาดทำให้ลูกศิษย์ไม่ได้รับการคุ้มครอง และเมื่อวันประชุมทางผู้ปกครองเด็กทั้งพ่อและแม่ก็ไม่ได้มาร่วม ซึ่งทางฝ่ายธุรการคัดแบกเด็กที่ค้างชำระเงินค่าบำรุงการศึกษาที่ยังติดค้างมาให้จำนวน 14 คน ครูเลยใช้วิธีติดป้ายทุกคน โดยผู้ปกครองจะเข้าใจและเมื่อมาพบเห็นก็จะดึงป้ายออก จากนั้นจึงชำระเงิน
“ส่วนกรณีลูกศิษย์รายนี้ในวันพฤหัสที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนจะเลิกเรียนและก่อนถึงชั่วโมงกิจกรรมลูกเสือ ได้เขียนป้ายติดแปะอีกครั้งและกำชับเด็กอย่าดึงออก กระทั่งผู้ปกครองมาเห็นคงไม่เข้าใจและโกรธ กระทั่งเกิดเหตุตามมาอย่างที่เป็นข่าว”ครูรายนี้กล่าว
ครูติดป้ายลูกศิษย์กล่าวอีกว่า ความรู้สึกตอนแรกก็เหมือนน้ำตาตกใน แต่ก็คิดว่าเราทำดีที่สุดแล้วและได้กำลังใจจากครอบครัว ตนเองรับราชการครูมา 28 ปี ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งวันนี้แม้ผู้ปกครองเด็กจะไม่มาก็ไม่ว่าอะไร ครูก็พร้อมให้ติดต่อได้เสมอ เพราะครูก็ยังเป็นครูเป็นแม่คนที่สองเหมือนที่ผู้ปกครองคนนี้เรียกมาตลอด อยากฝากชาวโซเชียลว่า ท่านมีสิทธิ์ที่จะออกความคิดได้แต่ควรไตร่ตรองด้วยว่าจริงหรือไม่ ไม่ควรคิดว่าไม่ใช่รูปหน้าของท่าน ก็วิจารณ์จนครูเสียหายไปเยอะ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: