เพชรบูรณ์-เกษตรกรร้องศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ ถูกกองทุนฟื้นฟูเกษตรกรฯ ทวงหนี้สินนับล้าน ทั้งที่ไม่เคยกู้ยืมมาก่อน จี้ตรวจสอบการทำงานกองทุนฯส่อทุจริตไม่โปร่งใส
วันที่ 9 กรกฎาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาราว 11.00 น. ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ กลุ่มเกษตรกรซึ่งสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรฯ ในเขตพื้นที่ ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จำนวนราว 10 ราย โดยการนำของนายยุพราช บัวอินทร์ อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ ได้รุดเข้าร้องเรียนต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีนายสมบูรณ์ ศรีไพศาลเจริญ หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมฯพร้อมเจ้าหน้าที่รับเรื่อง โดยเกษตรกรอ้างว่าถูกกองทุนฟื้นฟูฯทวงหนี้สินทั้งที่ไม่ได้ทำเรื่องกู้ยืม และบางส่วนกู้ยืมจริงแค่ 5,000 บาทแต่กลับถูกแจ้งเป็นหนี้สินตั้งแต่ 1 แสนบาทจนถึง 1 ล้านบาท จนสร้างความเดือดร้อนให้แก่เกษตรกร โดยขอให้ตรวจสอบข้อมูลว่าเกษตรกรที่ถูกอ้างชื่อไปกู้เงินกองทุนฟื้นฟูฯปัจจุบันมีหนี้สินอยู่เท่าไหร่ และให้ตรวจสอบการทำงานของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรฯซึ่งส่อทุจริตไม่โปร่งใส
โดยนายยุพราชกล่าวอีกว่า ตั้งข้อสังเกตว่าหากเป็นเรื่องจริงจะมีการปลอมแปลงเอกสารหรือใช้เอกสารปลอมหรือไม่ และพฤติการณ์เช่นนี้ส่อไปในแนวทางฉ้อโกงเกษตรกร โดยเกษตรกรที่มายื่นร้องเรียนและรับผลกระทบมี 2 กลุ่ม โดยกลุ่มแรกกู้จริงแต่ได้รับเงิน 5,000 บาทเท่านั้น กับอีกกลุ่มไม่รู้เรื่องและไม่เคยกู้ยืมเงินกองทุนฟื้นฟูเลยแต่ถูกนำชื่อไปยื่นกู้ โดยเกษตรกรทั้ง 2 กลุ่มนี้เกิดความกังวลใจ เพราะถ้าหากเกษตรกรไปยอมรับสภาพหนี้สินตามที่ตัวแทนกองทุนฯรายนี้เจรจา หากเกิดปัญหาขึ้นเกษตรกรจะต้องรับสภาพหนี้ที่ไม่ก่อขึ้นในภายหลังหรือไม่ และเชื่อว่ายังมีเกษตรกรที่ตกเป็นเหยื่อแบบเดียวกันนี้อีกหลายรายที่จะส่งชื่อมาสมทบในภายหลัง
ทั้งนี้เกษตรกรที่ตกเป็นหนี้สินกองทุนฯ กล่าวว่า เมื่อปี 2553 ทางกองทุนฟื้นฟูฯจัดอบรมเกษตรกรจึงเข้าร่วม โดยมีเจ้าหน้าที่กองทุนฯบางรายแจ้งให้เกษตรกรกู้ยืมเงินกองทุนดอกเบี้ยต่ำรายละ 5,000 บาทใช้คืนภายใน 5 ปี จึงได้มอบเอกสารต่างๆไปให้ ภายหลังได้รับเงินก้อนนี้จริงและทยอยใช้คืนหนี้สินให้กองทุนฯปีละ 1,000 บาทและดอกเบี้ยอีก 100 บาท โดยส่วนใหญ่ชดใช้เกือบหมดหนี้สินแล้ว แต่จู่ๆมีหนังสือจากกองทุนมาทวงหนี้สินโดยแจ้งยอดหนี้ตั้งแต่ 1 แสนบาทจนถึง 1 ล้านบาท จนทำให้เกษตรกรตกใจเพราะเป็นหนี้สินที่ไม่ก่อขึ้น ที่สำคัญบางรายไม่ได้ทำเรื่องกู้ยืมกลับตกเป็นหนี้และถูกทวงถามจากกองทุนเช่นกัน และก่อนหน้านี้มีเจ้าหน้าที่กองทุนฯมาเจรจาให้ช่วยรับสภาพหนี้หากมีใครมาตรวจสอบ จึงกังวลว่าอาจต้องมาแบกรับหนี้สินทั้งที่ไม่มีก่อ
โดยนายสมบูรณ์รับปากว่าเร่งประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ตรวจสอบข้อเท็จจริง หลังจากนั้นจะแจ้งให้กลุ่มเกษตรกรดังกล่าวดีรับทราบในภายหลัง และก่อนเดินทางกลับกลุ่มเกษตรดังกล่าวได้มอบหลักฐานที่กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรฯได้แจ้งหนี้สินแก่เกษตรกรจำนวน 8 ราย รวมมูลหนี้ทั้งสิ้น 5.1 ล้านบาทเศษ เพื่อดำเนินการตรวจสอบ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: