เพชรบูรณ์-ภาคปชช.-สื่อจี้ผู้ว่าฯถึงมาตรการเร่งด่วนลดเผาอ้อย หลังปชช.เดือดร้อนหนัก ตั้งข้อสงสัยเป็นมติครม.ให้รง.รับอ้อยเผาจริงหรือไม่ อุตฯจังหวัดแจงแค่มติ กอน.
วันที่ 23 ม.ค.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมวาระยามเช้า ซึ่งมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธานเมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ตัวแทนภาคประชาชนและตัวแทนสื่อมวลชน ได้ติดตามการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 จากปัจจัยการเผาไร่อ้อย ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ยื่นข้อเสนอและมาตรการจี้ให้จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข แต่ตลอดช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมานอกจากการเผาอ้อยจะไม่ลดลงแล้ว ตรงกันข้ามสถานการณ์การเผาอ้อยในหลายอำเภอยิ่งรุนแรงมากขึ้น จนทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนหนัก ในขณะที่ในสังคมโซเซียลมีเดียเพชรบูรณ์มีการเรียกร้องให้ใช้ยาแรง โดยนายปัณฑัต ปานเงิน แกนนำกลุ่มรักษ์บ้านเกิด รวมทั้งนายสุนทร คงวราคม ตัวแทนสื่อมวลชน จึงจี้ถามถึงมาตรการเร่งด่วนในการลดเผาอ้อย พร้อมยังซักถามถึงกรณีที่ผู้ว่าฯอ้าง ครม.มีมติไฟเขียวให้โรงงานรับอ้อยเผาไม่เกินร้อยละ 50 มีจริงหรือไม่ โดยยกจังหวัดใกล้เคียงซึ่งมีมาตรการห้ามเผาอ้อยขึ้นเปรียบเทียบ พร้อมตั้งข้อสงสัยหากเป็นมติครม.ทำไมแนวปฏิบัติจึงไม่เหมือนกัน
นายสืบศักดิ์จึงให้นายดุสิต จันทรกานต์ อุตสาหกรรมจังหวัดฯชี้แจง พร้อมยังถามย้ำด้วยว่า “มติครม.ให้โรงงานฯรับอ้อยเผาทำไมที่อื่นไม่มี แต่จังหวัดเราต้องทำ” พร้อมระบุด้วยว่า “ตอนนี้เขาบอกว่าประชาชนไม่ได้กินหญ้า ก็เหมือนตำหนิทั้งผู้ว่าฯและข้าราชการ” จนนายดุสิตกล่าวชี้แจงโดยรับว่า “ยังไม่ใช่มติ ครม. เป็นมติของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย(กอน.) ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 7 ธันวาคม กำหนดให้มีอ้อยไฟไหม้เข้าสู่โรงงานฯ ในฤดูกาลผลิต 62/63 ได้ไม่เกินร้อยละ 50 และให้ทบทวนแนวทางและมาตรการแก้ไขปัญหาอ้อยไฟไหม้เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลผลิต โดยมติตรงนี้อยู่ระหว่างการเสนอร่างระเบียบของ กอน.ที่จะเสนอต่อ รมว.ผู้รักษาการตามพ.ร.บ.อ้อยและน้ำตาลทรายให้ความเห็นชอบต่อไป”
จากนั้นในที่ประชุมมีการแจ้งว่า จะมีการประชุมเตรียมการป้องกันแกีไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันปี พ.ศ.2562-2563 และปัญหา PM2.5 ในช่วงบ่ายวันที่ 23 มกราคมนี้ โดยมีการเชิญตัวแทนเจ้าของโรงงานน้ำตาล ตัวแทนสมาคมชาวไร่อ้อย และส่วนราขการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม นายสืบศักดิ์จึงกำชับให้มีการเชิญภาคประชาชนรวมทั้งสื่อมวลชนเข้าร่วมด้วย เพื่อให้ซักถามกันตรงๆเลยว่าจะทำอย่างไร ทั้งนี้นายสืบศักดิ์กล่าวย้ำด้วยว่า ไม่อยากแก้ปัญหาแบบเซ็นหนังสือแล้วไม่รับผิดชอบ อยากให้แก้แบบที่เป็นไปได้ และให้เกิดผลการปฏิบัติจริงๆ ไม่ใช่ประกาศห้ามเผาแต่ยังเผากันทุกอำเภอ
ข่าวแจ้งว่า บนเฟสบุ๊กของนักวิชาการและนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อม ยังคงออกมาแสดงความคิดเห็นต่อการแก้ไขปัญหา PM2.5 และเผาอ้อยไม่หยุดหย่อน โดยเฟสบุ๊กของ อจ.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ ที่ใช้ชื่อว่า “Chainarong Setthachua” ซึ่งโพสต์ข้อความถึงมาตรการแก้ปัญหาควันพิษจากการเผาอ้อย โดยระบุว่า “ปัญหาควันพิษในภูมิภาคเป็นปัญหาที่ไกลตัวจากส่วนกลางมาก จึงยังไม่มีมาตรการป้องกันและแก้ไขที่เป็นรูปธรรมนอกจากระบุกว้างๆ ว่าห้ามเผาในที่โล่ง แต่อีกด้านหนึ่ง ยังผ่อนผันให้โรงงานน้ำตาลรับซื้ออ้อยเผา ที่เท่ากับว่าเป็นใบเบิกทางให้เผา เขาตกลงกันไว้แล้วนะ รู้ยัง”
นอกจากนี้ อจ.ไชยณรงค์ เศรษฐเชื้อ ยังโพสต์ต่อเนื่องด้วยว่า รัฐที่ปกป้องสิทธิของประชาชนและสิ่งแวดล้อมเขามีกฎหมายห้ามผาอ้อย ที่รัฐฟลอริดา เขาเอาบิ๊กในอุตสาหกรรมน้ำตาลขึ้นศาล เพราะการเผาอ้อย และทำให้เกิดผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชน และก่อมลพิษทางอากาศโดยเฉพาะหิมะดำ (black snow) แต่ประเทศที่รัฐไม่สนใจใยดีสุขภาพของประชาชนและสิ่งแวดล้อม เขาผ่อนผันให้ทุนน้ำตาลซื้ออ้อยเผาได้
