เพชรบูรณ์-สธ.เพชรบูรณ์แจ้งผลแล็ปยัน! หนุ่มหล่มสักไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ เตรียมปล่อยผู้ป่วยกลัยบ้าน ยันเพชรบูรณ์ยังไม่พบผู้ต้อวสงสัยติดไวรัสโคโรนาเพิ่มเติม
วันที่ 29 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้มีเอกสารเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แจ้งความคืบหน้า กรณีผลการตรวจสอบหนุ่มที่อ.หล่มสัก ซึ่งต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือ “ไวรัสอู่ฮั่น” หลังจากกลับประเทศจีนและเกิดอาการป่วยมีไข้ ไอ เจ็บคอมีเสมหะ กระทั่งเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลหล่มสัก แต่ภายหลังซักถามประวัติพบว่าไปประเทศจีน ทำให้แพทย์และพยาบาลต้องกักตัวไว้เพื่อเฝ้าระวังโรค พร้อมเก็บตัวอย่างส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ ตามมาตรการการเฝ้าระวังโรค ของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการเฝ้าระวังโรคปอดอักเสปจากเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019
สำหรับผลการตรวจวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการเมื่อวันที่ 28 มกราคมที่ผ่านมา พบว่าสาเหตุของการเจ็บป่วยของผู้ป่วยรายนี้เกิดจากเชื้อไวรัส RSV (Repiratory Syncytal Virus) ไม่ใช่เชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ 2019 จึงขอเรียนชี้แจงเพื่อให้ประชาชนเกิดความเข้าใจในเหตุการณ์ดังกล่าวต่อไป
ในขณะที่นพ.ชัยวัฒน์ ทองไหม นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ ชี้แจงเพิ่มเติมว่า จากผลตรวจทางแล็ปเป็นที่ยืนยันแน่นอนแล้วว่า ผู้ป่วยรายที่อ.หล่มสักไม่ได้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งในวันนี้ทางโรงพยาบาลหล่มสักก็จะให้ผู้ป่วยรายนี้กลับบ้านไปใช้ชีวิตได้ตามปกติ เพราะอาการป่วยได้รับการรักษาจนทุเลาเป็นปกติแล้ว เพียงแต่กักตัวไว้เนื่องจากเป็นมาตรการเฝ้าระวังโรค ส่วนเชื้อไวรัส RSV เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งทีทำให้เกิดโรคหวัดซึ่งเป็นสายพันธุ์ประจำถิ่นอยู่แล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
นพ.ชัยวัฒน์ยังตอบข้อถามถึงข้อมูลนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เดินทางเข้ามาที่จ.เพชรบูรณ์หล้งวันที่ 15 มกราคมซึ่งมีจำนวนราว 30 คนว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่สาธารณสุขได้เข้าพบและพยายามชี้แจงสร้างความเข้าใจกับนักท่องเที่ยวเหล่านี้แล้ว โดยเฉพาะขอความร่วมมือหากพบมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอและมีเสมหะ ขอให้เข้าพบแพทย์เพื่อตรวจอาการโดยทันที ซึ่งก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดี เพราะทุกคนต่างก็เข้าใจถึงสถานการณ์ในช่วงนี้เป็นอย่างดี ส่วนสถานการณ์ล่าสุดที่จ.เพชรบูรณ์ยังไม่มีรายงานการพบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เพิ่มเติมแต่อย่างใด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: