เพชรบูรณ์-ผู้ค้าข้าวสวดยับ! กรมการค้าข้าว เข็น พ.ร.บ.ค้าข้าวฉบับใหม่ แก้ปัญหาเกาไม่ถูกที่คัน กฎเกณฑ์และเพิ่มโทษ ทำให้ผู้ประกอบการขยาดไม่กล้าซื้อข้าวคุณภาพต่ำ
วันที่ 30 ก.ค.2561 ผู้สื่อข่าวรายงาน นางวิจิตรา จงทัน ผู้ประกอบการท่าข้าวในเขตอ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ ได้โพสต์บนเฟสบุ๊กส่วนตัวที่ใช้ชื่อ “วิจิตรา จงทัน” ถึงสาระสำคัญในร่าง พ.ร.บ.การค้าข้าว ฉบับใหม่ พร้อมตั้งข้อสังเกตและตั้งคำถามฝากไปถึงหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องและกรมค้าข้าวว่า “ถึงสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตร กรมการค้าข้าว ผู้ประกอบการโรงสี ท่าข้าว พ่อค้าข้าวและเกษตรกรชาวนาทุกท่าน เนื่องด้วย วันที่ 8 สิงหาคม 2561 กรมการค้าข้าวจะมีมติออกร่าง พ.ร.บ.การค้าข้าว ฉบับใหม่ เพื่อเกิดความยุติธรรมและช่วยทำให้ราคาข้าวไม่ตกต่ำ สามารถตรวจสอบย้อนหลังได้ ด้วยการมีบทลงโทษ ตามแต่ละมาตราประมวลของกฎหมายตามข้อนั้นๆ
โดยบังคับให้ผู้ประกอบการค้าข้าวเปลือกทุกราย ไปขึ้นทะเบียนกับ กรมการค้าข้าว
ถาม….ซึ่งมันเป็นการทำงานซ้ำซ้อนกับกระทรวงพาณิชย์หรือป่าวค่ะ เพราะปกติเราก็ไปทำใบอนุญาตค้าข้าวกับพาณิชย์อยู่แล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
-ให้ผู้ประกอบการค้าข้าวเปลือกทุกคนต้องผ่านการอบรม วิธีการซื้อข้าวเปลือก ด้วยขบวนการที่ถูกต้อง
ถาม….แล้วท่านจะส่งใครที่เก่งกว่าหรือมีความชำนาญและเชี่ยวชาญ มากกว่าพ่อค้าตัวจริงที่มีประสบการณ์สูงละค่ะท่าน
-ให้ผู้ประกอบการทำเอกสารประกอบให้กับเกษตรกรทุกรายเกี่ยวกับการใช้เมล็ดพันธ์ข้าว คุณภาพ ปริมาณ ขายได้ราคาเท่าไหร่และอื่นๆบลาๆๆ และให้เก็บไว้อย่างน้อย 5 ปี
ถาม…..หน่อยเถอะ ใบก็อปปี้มันจะจืดก่อนหรือค่ะ ปกติงานก็ยุ่งมากพอแล้ว ยังต้องทำเอกสารกำกับและต้องเก็บไว้ถึง 5 ปี นี่อิฉันจำเป็นต้องสร้างโกดังไว้เก็บเอกสารโดยเฉพาะหรือป่าวค่ะท่าน
-การที่ท่านจะออกนโยบายอะไรต่างๆขอร้องเถอะให้คำนึงถึงความเป็นไปได้สักนิด ท่านลองมาลงสนามจริงสักหน่อยมั้ย หากจะให้ครบถ้วนขบวนการ ตรวจเทสน้ำยาข้าวหอมมะลิจากชาวนาทุกรถ ต้องใช้เวลาเท่าไหร่ถึงจะเสร็จ ข้าวที่เกี่ยวสดมา จะไม่เน่าก่อนหรือค่ะท่าน
และยังมีอีกหลายประเด็น อ่านแล้วเจ็บตามาก ขอความกรุณา ให้ท่านไปสรุปเนื้อหาเอาแบบเนื้อๆเน้นๆและเข้าใจง่ายจะได้มั้ย ด้วยความเคารพ
สุดท้ายนี้ ราคาข้าวจะขึ้นหรือลง จะถูกหรือแพง มันไม่ได้ขึ้นกับกฎหมายฉบับนี้เลย มีแต่จะทำให้ผู้ประกอบการไม่กล้าซื้อข้าวคุณภาพต่ำ เอ๊าะอะ ก็จะลงโทษ ท่านรับผิดชอบไหวมั้ย หากผู้ประกอบการเลือกซื้อแต่ข้าวคุณภาพดี ให้ราคาสูงๆ ส่วนข้าวเขียว ดำ ล้มจมน้ำไม่มีใครกล้าซื้อ เพราะกลัวร้องเรียน ด้วยการตีราคาต่ำ ไปหาวิธีให้ เกาให้ถูกที่คัน อย่าสร้างภาพ เพียงเพื่อเสนอบทบาท โดยไม่เข้าใจถึงหน้างานขบวนการอย่างถ่องแท้ ทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณ จากภาษีประชาชนโดยใช่เหตุ อีกทั้งยังสร้างปัญหาที่กำลังจะตามมาอีกมากมาย
นางวิจิตรายังให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมด้วยว่า พ.ร.บ.ฉบับนี้จะเป็นสร้างนโยบายใหม่และสร้างเงื่อนไขกฎเกณฑ์ขึ้นมาเยอะมาก ซึ่งข้ออ้างก็คือ ต้องการผลักดันให้ราคาข้าวสูงขึ้น ซึ่งในความเป็นจริงก็ทำได้ยาก และยังทำให้เกิดขึ้นตอนที่ยุ่งยาก ยกตัวอย่าง กรณีชาวนามาขายข้าวและตีองมีใบชั่งกิโลและใบเสร็จรับเงิน ต้องกรอกประวัติและเก็บไว้ 5 ปี หากถูกร้องเรียนรับซื้อไม่เป็นไปตามกลไกตลาดจะเอาอะไรมาวัด และข้าวเปียก ข้าวดำ ข้าวเขียว ข้าวล้ม ใครจะกล้าซื้อ เพราะผู้ประกอบการก็ต้องซื้อแต่ของดี ข้าวด้อยคุณภาพเหล่านี้ใครจะกล้าซื้อ เพราะหากซื้อแล้วจะต้องถูกร้องเรียนและถูกอายัดใบประกอบการแถมมีบทลงโทษอีกใครจะอยากทำ และการจะให้ผู้ประกอบการไปขึ้นทะเบียนและขอใบประกาบการค้าข้างก็จะไปซ้ำซ้อนกับทางกระทรวงพาณิชย์อีก
“ตอนนี้กำลังพูดคุยหรือกับทางนายกสมาคมโรงสี เพราะหากไม่มีการคัดค้านท้วงติงถ้ากฎหมายฉบับนี้ประกาศใช้ จะสร้างผลกระทบให้แก่วงการค้าข้าวและผู้ได้รับผลกระทบไม่ใช่แค่เพียงผู้ประกอบการ แต่ยังมรเกษตรกนชาวนาในวงกว้างอีกด้วย”นางวิจิตรากล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: