เพชรบูรณ์-โครงการขยายประปา 1,300 ล้านบาทสะดุด อบต.น้ำชุนหวงที่ดินสร้างสถานีน้ำ ผจก.ประปาฯแจงขอเช่ากรมธนารักษ์แล้ว ขยับเมื่อไหร่เกรงงบฯไม่ผ่าน ผู้ว่าฯ ให้แบ่งพื้นที่กันแต่ยังตกลงกันไม่ได้ ตัดบทโครงการจะล้มหรือไม่อยู่ที่คนเพชรบูรณ์
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ นายธีระยุทธ ทองสุก ผู้จัดการการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเพชรบูรณ์ กล่าวระหว่างการประชุมวาระยามเช้าเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ถึงโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาคสาขาเพชรบูรณ์-หล่มสัก-เมืองเพชรบูรณ์-หล่มสัก-หล่มเก่า จังหวัดเพชรบูรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแหล่งน้ำดิบ เพื่อผลิตประปาอันเนื่องจากปัญหาภัยแล้ง ซึ่งในระยะแรกจะมีการก่อสร้างสถานีห้วยขอนแก่นและส่งน้ำมาสถานีน้ำอ้อม ระยะที่ 2 สร้างสถานีน้ำก้อส่งน้ำมาที่สถานีน้ำอ้อมและน้ำชุนและส่งน้ำมาที่อ.เมืองโดยใช้งบฯก่อสร้างราว 1300 ล้านบาท ทางการประปาฯ ได้เสนอเรื่องไปที่สภาพัฒน์แล้ว แต่ติดขัดเรื่องที่ดินที่โรงเรียนน้ำอ้อมเนื้อที่ 5 ไร่เศษซึ่งอยู่ในการดูแลของกรมธนารักษ์ แต่ยังไม่สามารถเข้าไปใช้ได้แม้จะมีการทำเรื่องเช่าที่ดินอย่างถูกต้องแล้วก็ตาม
“ปัญหาขณะนี้ก็คือมีการล็อคงบฯ ไว้ที่ 1,300 ล้านบาทแล้ว หากเปลี่ยนแปลงไปเป็นสถานที่อื่นตามที่อบต.น้ำชุนเสนอ งบฯจะเพิ่มขึ้นราว 50 ล้านบาทก็จะเป็นปัญหาทันที ที่สำคัญพื้นที่บริเวณนี้อยู่ติดทางหลวงและเป็นจุดศูนย์รวมของน้ำทั้งน้ำก้อและห้วยขอนแก่น โดยเป็นน้ำสะอาดที่จะจ่ายลงมา และสามารถกระจายน้ำไปยังอ.หล่มสัก,อ.หล่มเก่าและส่งน้ำเข้าเขตพื้นที่อ.เมืองเพื่อป้อนให้ผลิตประปาได้อย่างพอเพียงและยังเป็นการรองรับการเติบโตของชุมชนในภายภาคหน้าอีกด้วย”นายธีรยุทธกล่าว
ด้านนายวิสาล ทาจวง ธนารักษ์จังหวัดเพชรบูรณ์แจ้งว่า ทางการประปาได้ขอเช่าที่ดินบริเวณนี้ซึ่งทางเขตพื้นที่การศึกษาก็ได้ส่งคืนที่ดินแล้วเมื่อวันที่ 31 มกราคมที่ผ่านมา และจากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบอาคารเรียนค่อนข้างทรุดโทรม และมีอาคารของอบต.น้ำชุนซึ่งเป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชน 1 หลังก่อสร้างโดยไม่ได้ระบอนุญาตและมีการใช้ประโยชน์ไปแล้ว ทางอบต.ต้องมาใช้ให้ถูกต้อง
ในขณะที่นางภรภัทร เทืองน้อย นายกอบต.น้ำชุน กล่าวยืนยันว่า ที่ดินบริเวณนี้ทางชาวบ้านยังมีความจำเป็นต้องใช้ และในอนาคตข้างหน้าทางอบต.จะไปใช้เป็นศูนย์เด็กหรือสนามกีฬา ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานสาธารณสุขได้มาใช้เช่นกัน แต่ชาวบ้านหมู่ 16และหมู่ 5 ไม่ยินยอม ต่อมาทางการประปาได้มาประสานงานกับทางปลัดฯก็มีการแจ้งว่าขอคุยกับชาวบ้านก่อน เพราะทั้งสองหมู่บ้านไม่มีที่ดินสาธารณะเผื่ออนาคตจะได้ใช้พื้นที่ตรงนี้ แต่ก็เสนอให้ทางการประปาพิจารณาใช้พื้นที่อื่นๆ ซึ่งยังมีโรงเรียนที่ถูกยุบเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามนายสืบศักดิ์จึงเสนอให้แบ่งพื้นที่กันละครึ่ง โดยให้เหตุผลว่าทางอบต.น้ำชุนไม่ได้ทำเรื่องขอเช่าที่ดินทางธนารักษ์ไว้ก่อน และก่อนหน้านี้ได้กล่าวย้ำในที่ประชุมกันทั้งปีให้ยื่นขอใช้พื้นที่จากกรมธนารักษ์หากท้องถิ่นไหนต้องการใช้พื้นที่ และถึงเวลามีคนอื่นจะมาใช้ประโยชน์ก็มีปัญหาขึ้น ในขณะที่นายกอบต.น้ำชุนยอมรับว่าไม่ได้ยื่นขอจากนั้นบอกปัดโดยอ้างว่าขอเวลาไปสอบถามชาวบ้านก่อน นายสืบศักดิ์จึงตัดบทโดยมอบให้ทางอำเภอหล่มสัก,ท้องถิ่นจังหวัด, ธนารักษ์จังหวัด,การประปาฯและอบต.น้ำชุนไปพูดคุยกันให้รู้เรื่องและในการประชุมคราวหน้าให้นำมารายงานให้ทราบ
“โครงการนี้เป็นของคนเพชรบูรณ์บอกได้เลยว่าจะล้มหรือไม่ก็แล้วแต่คนเพชรบูรณ์ เพราะผู้ว่าฯถึงเวลาก็ต้องเกษียณ เพราะฉะนั้นจะเอาหรือไม่เอาก็ไปคุยกันเอง จะแบ่งพื้นที่กันเท่าไหร่หากไม่ทำโครงการฯก็ต้องล้มงบฯ 1, 300 ล้านบาทก็ตกไป”นายสืบศักดิ์กล่าว
