เพชรบูรณ์-หนุนสู้โควิด! 5 ส.ส.มอบเงินเดือน 1 เดือน หนุน รพ.เพชรบูรณ์สร้างห้องแยกโรคกักผู้ป่วยเพิ่ม ช่วยค่าใช้จ่ายตั้ง 2 ด่านคัดกรอง ด้านนายก อบจ.เพชรบูรณ์จ่อระดมเงินทีมบริหาร-สจ.สร้างห้องแยกโรคให้อีก 10 โรงพยาบาลทั่วจังหวัด (มีคลิป)
เวลา 11.00 น.วันที่ 27 มีนาคม ที่ศาลากลางจังหวัดเพชรบูรณ์ นายเอี่ยม ทองใจสด, นายสุรศักดิ์ อนรรฆพันธุ์, นางวันเพ็ญ พร้อมพัฒน์, นายจักรัตน์ พั้วช่วย, นส.พิมพ์พร พฤฒิพันธุ์ 5 ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ พร้อมนายอัครเดช ทองใจสด นายกอบจ.เพชรบูรณ์ มอบเงินเดือน ส.ส.1 เดือนรวม 500,000 บาท เพื่อสนับสนุนการสร้างห้องแยกโรคของโรงพยาบาลเพชรบูรณ์จำนวน 400,000 บาท และสนับสนุนค่าใช้จ่ายการตั้ง 2 ด่านตรวจคัดกรองผู้เสี่ยงติดโควิดจำนวน 100,000 บาท โดยมีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ นพ.ชัยวัฒน์ ทองไทย นพ.สาธารณสุขจังหวัดฯและพญ.ฤทัย วรรธนวินิจ ผอ.โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ร่วมกันรับมอบ
นอกจากนี้ ส.ส.เพชรบูรณ์ทั้งหมดยังติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จงเพชรบูรณ์ ซึ่งนายสืบศักดิ์และนพ.ชัยวัฒน์รวมทั้งพญ.ฤทัย ได้ชี้แจงถึงมาตรการต่างๆในการรองรับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าว และมาตรการการเฝ้าระวังรวมทั้งศักยภาพของโรงพยาบาลและทีมแพทย์พยาบาลในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ และการปรับแผนโรงพยาบาลในการตรวจรักษาและคัดกรองผู้อยู่ในข่ายเสี่ยงติดเชื้อ และการเตรียมขยายเตียงผู้ป่วยกรณีจำเป็นต้องแยกแยกกักผู้ป่วยเข้าข่าย PUI รอผลตรวจสอบ รวมทั้งมาตรการป้องกันบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ
ในขณะที่นายอัครเดชแจ้งว่า ทางทีมผู้บริหารและสมาชิกสภา อบจ.เพชรบูรณ์เตรียมสละเงินเดือน 1 เดือน เพื่อสนับสนุนโรงพยาบาลอำเภออีก 10 แห่งๆละ 50,000 บาท ในการสร้างห้องแยกโรคเช่นเดียวกัน ล่าสุดอยู่ระหว่างการรวบรวมเงินก้อนนี้อยู่และจะนำมามอบให้ในภายหลัง นอกจากนี้ยังเล็งที่จะสนับสนุนตู้ฆ่าเชื้อไวรัสโควิด หลังได้ทดสอบตู้ฆ่าเชื้อที่มีบริษัทเอกชนนำมาบริจาคให้ทางจังหวัดจำนวน 2 ตู้ โดยมีการติดตั้งเพื่อให้บริการแก่ข้าราชการและประชาชน ที่บริเวณทางเข้า-ออกอาคารศูนย์ราชการโดยเห็นว่ามีมาตรฐานน่าพอใจ
“นอกจากนี้จากการปรึกษาทางผู้ว่าฯและนพ.สธ.รวมทั้งผอ.รพ.เพชรบูรณ์ ก็เห็นว่ามีความจำเป็นโดยเฉพาะหากนำไปติดตั้งที่โรงพยาบาลทุกแห่ง และสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วจังหวัด ก็จะสามารถสกัดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้อีกทาง”นายอัครเดชกล่าว
