เพชรบูรณ์-ผอ.รร.คลิปฉาวปฏิเสธ อ้างไม่ได้ทำอนาจารเด็กนร.หญิง คณะพม.จังหวัดยื่นมือช่วยด.ญ.เหยื่ออนาจารแล้ว (มีคลิป)
วันที่ 21 เมษายน ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้ากรณีคลิปฉาว! ผู้อำนวยการโรงเรียน อนาจารเด็กนักเรียนหญิงโผล่ว่อนเน็ต กระทั่งถูกชาวโซเชียลรุมประณามพร้อมกล่าวหาเป็นภัยสังคม และจี้ให้นำตัวมาลงโทษนั้น ล่าสุดผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบปะผู้อำนวยการโรงเรียนคลิปฉาวรายนี้ เพื่อสอบถามรายข้อมูลรายละเอียด ขณะเดียวกันยังเปิดคลิปฉาวดังกล่าวที่ถูกแชร์ว่อนบนสังคมโซเชียลมีเดียให้ชมดูอีกด้วย
จากนั้นผู้อำนวยการโรงเรียนคลิปฉาวเปิดปากให้สัมภาษณ์ โดยยอมรับว่าชายในคลิปวีดีโอซึ่งดูแล้วก็น่าจะใช่ตนจริงๆ แต่ปฏิเสธไม่ได้ทำอะไรหรือลวนลามเด็กอย่างที่เข้าใจกัน โดยผู้อำนวยการโรงเรียนชี้แจงโดยเล่าให้ฟังด้วยว่า ภาพในคลิปที่เห็นเป็นบริเวณโต๊ะคอมพิวเตอร์ เด็กรายนี้เปิดคอมพิวเตอร์และดูคอมฯด้วยความสงสัย ตนจึงเดินไปบอกเด็กและกลับมานั้งโต๊ะไม่มีออะไรมากกว่านี้
ข่าวน่าสนใจ:
- "Gmm Show"แจ้งเตือนระวังมิจฉาชีพ หลอกขายบัตรทิพย์ คอนเสิร์ต Rock Mountain เขาค้อ
- เพชรบูรณ์-จับลักลอบใช้แบ็กโฮขุดดิน ถมแม่น้ำป่าสักในเขตอ.หล่มเก่า
- เพชรบูรณ์-ผปส.มูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ฯ จี้ผู้จัดคอนเสิร์ต-จนท.เข้มบุหรี่ไฟฟ้า
- จัดกิจกรรมวิ่งการกุศล UNITHAI-CUEL Run for Charity 2025 ครั้งที่ 3 วิ่งด้วยใจ ในสวนสวย ช่วยผู้ป่วยมะเร็ง
“เหตุการณ์ในคลิปนี้เกิดขึ้นเมื่อราว 2 ปีแล้ว ปัจจุบันเด็กรายนี้ก็ไปเรียนที่โรงเรียนอื่นแล้ว ก็ไม่เข้าใจว่าเป็นฝีมือใครและสงสัยว่าเขามีเจตนาอะไร และหากรู้ว่าเป็นใครก็จะปรึกษาทนายและต้องแจ้งความให้ดำเนินคดีด้วย”ผู้อำนวยการโรงเรียนคลิปฉาวกล่าว
ข่าวแจ้งว่า สำหรับผอ.รร.คลิปฉาวรายนี้ จะเกษียณราชการในเดือนกันยายนที่จะถึงนี้ ส่วนความคืบหน้าทางคดีความล่าสุดทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่เกิดเหตุยังไม่ได้ตั้งข้อหาหรืดำเนินคดีผอ.รร.แต่อย่างไร และเมื่อช่วงเย็นวานนี้ (20เม.ย.) ทางคณะเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และบ้านเด็กและครอบครัวจังหสัดรวมทั้งนักสังคมสงเคราะห์ ลงพื้นที่พบครอบครัวเด็กนร.หญิงเหยื่อถูกทำอนาจาร เพื่อยื่นมือให้ความช่วยเหลือ พร้อมช่วยนำตัวไปตรวจร่างกายและจิจใจที่โรงพยาบาลหล่มสัก รวมทั้งนำตัวทั้งเด็กและญาติไปให้ข้อมูลกับพนักงานสอบสวนในท้องที่ สภ.เกิดเหตุ
ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ พม.จังหวัดยังขอความร่วมมือทุกฝ่าย รวมทั้งสื่อโซเชียลมีเดียและสื่อมวลชน ให้คำนึงถึงการปฏิบัติต่อเด็กอย่างเหมาะสม และให้เป็นไปตาม พรบ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เพื่อป้องกันการกระทำซ้ำและละเมิดสิทธิของเด็ก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: