เพชรบูรณ์-อธิบดีกรมป่าไม้ชี้หาก DSI รับคดีนายทุนรุกป่าเขาค้อ กำชับ.ผอ.สจป.ที่ 4 กวดขันนายทุน-ผู้ประกอบการ เริ่มขยับเร่งก่อสร้างทั้งที่เขาค้อ-ภูทับเบิก
ความคืบหน้ากรณีคณะเจ้าหน้าที่บุกจับการบุกรุกป่าของ 2 นายทุนที่เขาค้อ พร้อมยึดที่ดินซึ่งเป็นพื้นที่ป่าที่ถูกรุกป่าจำนวน 436 ไร่เพื่อดำเนินคดี ล่าสุดในวันนี้(4 พ.ค.63) พฤษภาคม นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าวว่า ถือว่าเป็นความคืบหน้าในการสืบสวนของคณะเจ้าหน้าที่ โดยเฉพาะการจะดำเนินคดีผู้กระทำผิดจะมีต้องมีหลักฐานที่ขัดเจนและมีการเชื่อมโยง และเมื่อมีการพบเบาะแสและหลักฐานที่เชื่อมโยงได้ก็จะจำไปสู่การแจ้งความดำเนินคดี ที่สำคัญพื้นที่บริเวณนี้แม้จะมีการเสนอจัดที่คทช.แล้วพบว่าบุคคลดังกล่าวไม่มีคุณสมบัติและยังไปมีส่วนรู้เห็นกับนายทุน เราก็ต้องบังคับใช้กฎหมายเหมือนเดิม ไม่ใช่หมายความว่าเมื่อจัดที่ดิน คทช.ไปแล้วและบุคคลที่มีชื่อจะได้สิทธิครอบครองไปเลยคงไม่ใช่
นายอรรถพลกล่าวย้ำว่า ฉะนั้นจึงจะได้ต้องมีการคัดกรองโดยตลอด ซึ่งหมายความว่าผู้ที่ได้รับสิทธิตาม คทช. และทำผิดเงื่อนไขก็จะถูกถอนถอนได้ตลอดเช่นกัน นอกจากนี้ยังต้องมาดูด้วยว่าผิดตั้งแต่เมื่อไหร่ หากผิดมาตั้งแต่ก่อนจัดคทช.ถือว่ามีเจตนาจะยึดถือครอบครองอันนี้ก็ต้องดำเนินคดีอยู่แล้ว จึงหมายความว่าคนที่ได้รับสิทธิ คทช.ไปแล้วไม่ใช่หมายความว่า ทางกรมป่าไม้ไม่ได้เข้ามาดูแลควบคุมซึ่งคงไม่ใช่เรายังต้องควบคุมและดูแลตลอด บางครั้งการจัด คทช.อาจจะมีหลุดไปบ้างหรืออาจมีข้อมูลหลักฐานไม่ชัดเจน ที่ยังไม่สามารถดำเนินคดีได้เจ้าหน้าที่ต้องสืบสวนไปก่อน
อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า ส่วนกรณีการจับกุมครั้งนี้พบว่ามีนายทุน 2 รายซึ่งเป็นอดีต ผู้สมัครส.ส.และเสี่ยเจ้าของร้านทองชื่อดังในเพชรบูรณ์ แม้อาจจะเป็นบุคคลที่กว้างขวางก็ตามแต่เราไม่หนักใจ เพราะหากเรามั่นใจว่ามีการรวบรวมพยานหลักฐานที่ชัดเจนก็ดำเนินการไปตามนั้น เพียงแต่ในชั้นสอบสวนทางกรมป่าไม้อาจต้องจัดเจ้าหน้าที่ ที่มีความเชี่ยวชาญในทางด้านคดี เข้าไปช่วยดูแลเพิ่มเติมเพื่อให้คดีนี้มีความรัดกุมมากขึ้น
นายอรรถพลยังกล่าวถึงกรณีทางชุดจับกุมมีการประสานงาน ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI)รับคดีนี้เป็นคดีพิเศษว่า หากทางกรมสอบสวนคดีพิเศษเข้ามารับคดีไปดำเนินการก็ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากขึ้น เพราะบางคดีที่ทำในพื้นที่บางครั้งก็อาจจะติดอุปสรรคหลายด้าน การที่ DSI รับคดีไปดำเนินการได้ก็จะเป็นผลดีกับทางกรมป่าไม้และเป็นผลดีในทางคดีด้วย คงไม่มีปัญหาทางเราพร้อมอยู่แล้ว เพียงแต่ทางดีเอสไอจะรับหรือเปล่า แต่หากไม่รับทางเราก็ต้องประสานพนักงานสอบสวนอย่างใกล้ชิด เพราะคดีเกี่ยวกับเรื่องป่าไม้ต้องใช้ผู้มีที่มีความรู้ความสามารถโดยตรง
นายอรรถพลกล่าวว่า ส่วนการแก้ไขปัญหาบุกรุกป่าและการใช้ประโยชน์ที่ดินของเขาค้อ ซึ่งทางจังหวัดเพชรบูรณ์มีการเสนอแนวทางไปแล้ว โดยเฉพาะรีสอร์ทโรงแรมที่อยู่ในเขตป่าจะได้รับการพิจารณาหรือไม่ว่า ข้อมูลทั้งหมดคงจะเข้าสู่ขบวนการตัดสินใจโดยใช้กลไกของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ(คทช.) ตอนนี้ตนจะไประบุชัดเจนไม่ได้ในเมื่อทุกคนมีความเดือดร้อนและความจำเป็น เราก็จะรวบรวมเหตุผลทั้งหมดนำเข้าไปตัดสินใจใจขบวนการ คทช. ฉะนั้นจึงให้คำตอบยังไม่ได้ เพราะจะเหมือนเป็นการปฏิเสธไปทั้งหมดก็คงไม่ได้ ฉะนั้นจึงต้องหาแนวทางทีเหมาะสมที่สุดในการแก้ไขปัญหา แต่ทั้งนี้หลักการก็คือที่ดินยังเป็นของรัฐอยู่
นายอรรถพลกล่าวอีกว่า หลักการเดิมคือยังเป็นที่ดินของรัฐ และหลักการเดิมก็คือคนที่เหมาะสมที่สุดและมีคุณสมบัติที่สุด ที่สมควรจะได้รับสิทธินั้นจึงต้องมาดูว่า ใครหรือกลุ่มบุคคลไหนที่เข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินและสมควรจะรับสิทธินั้นหรือเปล่า ซึ่งเป็นกลไกที่ต้องไปตัดสินใจใน คทช.
อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า สำหรับรายที่มีการบุกรุกใหม่หลังปี 2557 ตรงนี้ไม่มีละเว้นแน่นอนไม่ว่าจะมีข้ออ้างยากจนหรือเป็นใครก็แล้วแต่ หากบุกรุกหลังปี 2557 ต้องถูกดำเนินคดีแน่นอน ส่วนที่มีรายงานว่ามีนายทุนและผู้ประกอบการบางราย เริ่มขยับพัฒนาที่ดินและเร่งก่อสร้างทั้งในเขตพื้นที่เขาค้อและภูทับเบิก ได้สั่งกำชับทางผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก (ผอ.สจป.ที่ 4 พิษณุโลก) ให้ไปตรวจสอบแล้ว หากพบตรงไหนทำไปไม่เหมาะสมและทำไปเกินกว่าที่พูดคุยตกลงกันไว้ ก็ให้แจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนในพื้นที่ได้เลย หรือพื้นที่บริเวณนั้นยังไม่ได้ข้อยุติและอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหาอยู่ โดยไม่รับฟังการขอความร่วมมือจากทางเจ้าหน้าที่ ก็ต้องนำไปสู่การบังคับใช้กฎหมายเช่นเดียวกัน
