X

มติคปป.เพชรบูรณ์ปัดไม่พิจารณา บ.อัคราฯขออนุญาตใช้ป่า ยึดคำสั่ง คสช.ที่ 72/59 สั่งระงับ (ชมคลิป)

เพชรบูรณ์-มติคปป.จังหวัดฯปัดไม่พิจารณา บ.อัคราฯขออนุญาตใช้ป่า ยึดคำสั่ง คสช.ที่ 72/59 สั่งระงับจนกว่ามติคณะกก.จะเปลี่ยนแปลง(ชมคลิป)

วันที่ 7 พฤษภาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะอนุกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า(คปป.) ระดับจังหวัด ครั้งที่ 1/2563  ผ่านระบบ Application ZOOM มีนายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์เป็นประธานฯ ซึ่งมีวาระสำคัญการพิจารณากรณีบริษัทอัครารีซอร์สเซสจำกัด(มหาชน) ขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในเขตป่าตามมาตรา 54 แห่งพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ป่าไม้ พ.ศ.2484  เพื่อทำเหมืองแร่อุตสาหกรรมชนิดหินปูน เพื่ออุตสาหกรรมก่อสร้างภายในเขตป่ามาตรา 4(1) แห่ง พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ท้องที่หมู่ที่ 8 ตำบลท้ายดง อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์ จำนวน 4 แปลง ได้แก่ 1. เนื้อที่ 49 ไร่ 1 งาน 19 ตร.วา 2.เนื้อที่ 93 ไร่ 1 งาน 37 ตร.วา 3.เนื้อที่ 9 ไร่ 2 งาน 02 ตร.วา 4.เนื้อที่ 19 ไร่ 2 งาน 47 ตร.วา

ซึ่งปรากฎที่ประชุมได้มีการหยิบยกคำสังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 72/2559 ข้อ 2 ให้ผู้มีอำนาจในการออกอาชญาบัตร ประทานบัตร และใบอนุญาตประกอบโลหกรรมตามกฎหมายว่าด้วยแร่ ระงับการอนุญาตให้สำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำ รวมถึงการต่ออายุประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำและการต่ออายุใบอนุญาตประกอบโลหกรรมแร่ทองคำไว้ จนกว่าคณะกรรมการจะมีมติเป็นอย่างอื่น กระทั่งนายสืบศักดิ์แจ้งในที่ประชุมว่าคำสั่ง คสช.ถือว่าเป็นกฎหมายและจากข้อ 2 มีความชัดเจนว่าสั่งให้ระงับสำรวจและทำเหมืองแร่ฯ เพราะฉะนั้นจังหวัดไม่มีอำนาจ เพราะฉะนั้นที่ประชุมไม่สามารถดำเนินการได้ ฉะนั้นมติที่ประชุมจึงจบไม่ต้องไปดำเนินการอะไรทั้งสิ้นแล้ว และให้ส่งเรื่องคืนทางอำเภอ รวมทั้งรายงานไปยังส่วนกลางว่าจังหวัดไม่รับเรื่องโดยอ้างถึงคำสั่งคสช.จะมีข้อขัดข้องหรือไม่

ข่าวแจ้งว่า ก่อนที่ประชุมจึงมีมติดังกล่าว นายสืบศักดิ์ต้องหารือกับอัยการจังหวัดเพชรบูรณ์และทางที่คณะปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ซึ่งมีการแสดงความเห็นว่า ตามคำสั่งคสช.ถือเป็นกฎหมาย และประเด็นคือคสช.สั่งให้ระงับการพิจารณา เพราะฉะนั้นพื้นที่ประกอบอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของบริษัทอัคราฯมีหลายแปลงมากเนื้อที่ 3000 กว่าไร่โดยอยู่ในเขตพื้นที่ 2 จังหวัดได้แก่จังหวัดพิจิตรและเพชรบูรณ์ส่วนที่มีการยื่นขออยู่กลางแปลง แต่เนื่องจากในแปลงอื่นก็กำลังมีปัญหาที่สำคัญรัฐบาลใชัอำนาจทางกฎหมายให้ระงับและชะลอ หาก มีการพิจารณาเฉพาะความเห็นในเรื่องนี้อาจไม่จะสอดคล้องกันก็ควรจะเห็นชะลอไว้ก่อน ที่สำคัญเรื่องยังอยู่การพิจารณาของคณะอนุญาโตตุลากรและไม่แน่ใจล่าสุดขั้นตอนนี้ยุติอย่างไรและเมื่อยังไม่มีการปลดล็อกยังเห็นว่าควรชะลอไว้ก่อน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน