เพชรบูรณ์-ลูกชายเจ้าของรีสอร์ทภูทับเบิกรอดคุก ศาลให้รอลงอาญาคดีเมาแล้วขับ 2 ปี แต่ไม่มีเงินจ่ายค่าปรับถูกกักขังแทน ตร.ออกหมายเรียก 2 นทท.รุมตื๊บแล้ว
วันที่ 9 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีลูกชายเจ้าของรีสอร์ทภูทับเบิกอายุ 21 ปี เมาแล้วซ่ากระทั่งก่อเหตุทุบรถนักท่องเที่ยวบริเวณลานจอดรถยอดภูทับเบิก หมู่ที่ 16 ต.วังบาล อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ จนถูกกลุ่มนักท่องเที่ยวติดตามไปรุมสกรัมถึงบ้านพัก ต่อมาทางพนักงานสอบสวนสภ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ได้ดำเนินคดีลูกชายเจ้าของรีสอร์ทรายนี้ ข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และข้อหาเมาแล้วขับ จากนั้นได้มีการส่งฟ้องต่อศาลจังหวัดหล่มสักเมื่อวานนี้ (8 มิถุนายน) ล่าสุดมีรายงานว่า ศาลจังหวัดหล่มสักได้ตัดสินลงโทษลูกชายเจ้าของรีสอร์ทรายนี้ ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉินโดยปรับ 2,500 บาท และข้อหาเมาแล้วขับ ศาลฯ ตัดสินสั่งจำคุก 1 เดือน ปรับ 6,500 บาท โดยโทษจำคุกให้รอลงอาญาเป็นเวลา 2 ปี
ส่วนความคืบหน้าคดีเจ้าของรีสอร์ท ซึ่งเป็นพ่อของวัยรุ่นที่ถูกนักท่องเที่ยวรุมตื้บรายนี้ ได้เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หล่มเก่า โดยกล่าวหากลุ่มนักท่องเที่ยวบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล และยังทำลายทรัพย์สินจนได้รับความเสียหาย นอกจากนี้ยังก่อเหตุทำร้ายร่างกายลูกชายต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เข้าไประงับเหตุอีกด้วย อย่างไรก็ตามล่าสุดทางพนักงานสอบสวนสภ.หล่มเก่า ได้ออกหมายเรียกให้นักท่องเที่ยวที่ก่อเหตุดังกล่าว ให้มารับทราบข้อกล่าวไปแล้ว 2 ราย โดย 1 ในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวที่ได้ไปออกรายการให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับสื่อทีวีในบางรายการด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ธีรพงศ์ ผลนาค ผกก.สภ.หล่มเก่า กล่าวว่า คดีในส่วนของลูกชายเจ้าของรีสอร์ทนั้น ศาลจังหวัดหล่มสักได้ตัดสินโทษไปเรียบร้อยแล้ว แต่ในส่วนการดำเนินคดีกับกลุ่มนักท่องเที่ยวนั้น ขณะนี้อยู่ในชั้นรวบรวมพยานหลักฐานเนื่องจากทราบว่ามีนักท่องเที่ยวด้วยกันหลายกลุ่มที่ถูกกล่าวหา ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบรายชื่อว่าเป็นใครบ้าง รวมทั้งสอบปากคำทั้งผู้ได้รับความเสียหายและผู้เกี่ยวข้องมา กระทั่งล่าสุดเมื่อวานนี้ทางพนักงานสอบสวนฯ ได้ออกหมายเรียกนักท่องเที่ยวจำนวน 2 รายมารับทราบข้อหาไปแล้ว ส่วนรายอื่นๆ อยู่ระหว่างตรวจสอบกับทางรีสอร์ทที่นักท่องเที่ยวเหล่านี้เข้าพัก จากนั้นก็จะทยอยออกหมายเรียกให้มารับข้อกล่าวหาเช่นเดียวกัน สำหรับคดีนี้ทางผู้บังคับบัญชาได้กำชับต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยให้ดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน
ข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า หลังศาลฯมีคำตัดสินโทษแล้ว แต่เนื่องจากลูกชายเจ้าของรีสอร์ทฯไม่มีเงอนจ่ายค่าปรับตามคำสั่งศาลฯ ในขณะที่ทางพ่อและแม่รวมทั้งญาติไม่ยอมจ่ายเงินค่าปรับให้ ทำให้ลูกชายเจ้าของรีสอร์ทรายนี้ต้องถูกกักขังแทนค่าปรับ
