เพชรบูรณ์-“ชีวะภาพ”เผย จนท.เตรียมรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างผาหัวสิงห์ภูทับเบิกเอง หลังเจ้าของเพิกเฉย อึ้ง!กลุ่มทุนเดิมกลับเข้าทำประโยชน์พื้นที่ตรวจยึด
วันที่ 4 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานถคงความคืบหน้ากรณีผาหัวสิงห์ภูทับเบิก อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ หลังถูกคณะเจ้าหน้าที่ป่าไม้ติดประกาศคำสั่ง คสช.ที่ 35/59 ให้ผู้ประกอบการและผู้ครอบครองที่ดินรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างเองภายใน 15 วัน และจับกุมดำเนินคดีเจ้าของข้อหารุกป่าและฝ่าฝืนคำสั่งคสช. ล่าสุดแม้จะครบกำหนดรื้อถอนแล้วก็ตาม แต่พบว่าสิ่งปลูกสร้างบริเวณดังกล่าวยังไม่มีการรื้อถอนแต่อย่างใด โดยนายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้อำนวยการสำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ กล่าวว่า เมื่อไม่มีการรื้อถอนตามประกาศคำสั่ง คสช. ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่จึงทำแผนเพื่อจะดำเนินการรื้อถอนให้เอง โดยมีการประมาณการณ์ทั้งค่าใช้จ่ายและการใช้กำลังเจ้าหน้าที่เท่าไหร่ รวมถึงต้องใช้เครื่องจักรรื้อถอนอะไรบ้าง เพราะมีอาคารคอนกรีตในพื้นที่ด้วย หลังเสร็จขั้นตอนนี้ก็คงจะเดินหน้าลงมือริ้อถอนสิ่งปลูกสร้างโดยทันที ส่วนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นทั้งหมดก็จะไปฟ้องร้องเรียกคืนจากผู้ครอบครองที่ดินเพราะคดีนี้ก็มีผู้ต้องหาอยู่แล้ว
นายชีวะภาพกล่าวว่า นอกจากนี้ยังจะมีการประมวลเหตุการณ์ทั้งหมดเพื่อใช้เป็นหลักฐานประกอบคดีด้วย เพื่อจะชี้ให้เห็นว่าผู้ต้องหามีเจตนาทำผิดกฎหมายและมีเจตนาไม่ให้ความร่วมมือในการบังคับใช้กฎหมายหรือประกาศคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้สำหรับภูทับเบิกระยะหลังนายทุนเริ่มไม่เกรงกลัวการบังคับใช้กฎหมาย โดยหลายรายถูกศาลลงโทษตัดสินให้รอลงอาญาและให้ออกจากที่ดิน แต่ก็ยังกลับเข้าไปดำเนินการใหม่ บางรายยังทำมากกว่าเดิมและชัดเจนมาก ฉะนั้นจึงหน้าที่ของพนักงานเจ้าหน้าที่จะต้องทำอย่างไรให้ศาลลงโทษให้สถานหนัก และเท่าที่รู้คนกลุ่มนี้ลงทุนแค่เพียง 1-2 ปีก็คุ้มทุนแล้วที่เหลือคือตักตวงกำไรจึงเป็นเหตุผลที่พร้อมจะกลับมาสร้างใหม่ และรูปแบบก็จะใช้เป็นโครงสร้างเบาไม่ได้มาตรฐานหรือลงทุนไม่มากมายอะไร
นายชีวะภาพกล่าวอีกว่า หลังจากคณะเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการกับสิ่งปลูกสร้างบริเวณผาหัวสิงห์ก็มีการร้องเรียนเข้ามาอีกเยอะทั้งพื้นที่ที่อยู่ในโครงการแผนแม่บทยังว่า ยังมีการแอบก่อสร้างเพิ่มเติมฉะนั้นตรงนี้คงต้องเข้าไปตรวจสอบและเมื่อตรวจพบก็ต้องจับกุมและดำเนินคดี และก็คงจะต้องรื้อถอนกันอีกเหมือนเดิม เพื่อให้กลับไปอยู่ในแผนงานดังเดิมเพราะหากสร้างไม่ได้ก็คือสร้างไม่ได้ หากปล่อยให้ทำไปตามอำเภอใจก็เละเทะอย่างที่เห็นและวันนี้เหตุผลที่มีการอ้างถึงคือเห็นคนอื่นสร้างก็สร้างตาม หากทุกคนคิดเหมือนกันหมดก็จะกลับเหมือนสภาพเดิมคือร่วมกันทำผิดกฎหมาย วันนี้ตนก็ยังคิดหนักทรัพยากรตรงนี้เป็นของคนทั้งหมด ไม่ได้เป็นของคนใดคนหนึ่งหรือคนเพียงกลุ่มเดียวที่ไปตักตวงยึดถือครอบครอง
นายชีวะภาพยังกล่าวถึงภาพภูทับเบิกในปัจจุบันสะท้อนให้เห็นว่าการแก้ไขภูทับเบิกเกิดความล้มเหลวด้วยว่า ปัญหาที่เห็นชัดคือการกลับมาทำผิดใหม่ ตรงนี้ยอมรับเลยว่าพบแล้วรู้สึกจะต้องทำแผนบังคับใช้กฎหมายแบบไหนถึงการเคารพในกฎหมาย หลายจุดก่อนหน้านี้ได้ไปมีพื้นที่ถูกดำเนินคดีแล้วกลับมาสร้างใหม่ วันนี้หากการบังคับใช้กฎหมายสำเร็จผล ทุกคนเกรงกลัวกฎหมายและกลัวการกระทำผิดเข้าใจระเบียบก็จบ แต่วันนี้แผนบริหารภูทับเบิกไปไม่ถึงจุดที่ตั้งไว้ เพราะยังมีกลุ่มคนไม่กลัวกฎหมายมีการเลียนแบบกัน อาจจะมีการคนแนะนำหรือไม่นั้นก็ไม่รู้ แต่ข้อสังเกตุคือลักษณะการกระทำเหมือนๆกันหมดคือ พอถูกจับก็ให้รื้อไป พอทิ้งระยะไว้สักพักนึงก็กลับมาสร้างใหม่
“อันนี้เชื่อว่าน่าจะเป็นขบวนการเพราะมีการเลียนแบบหรือวางแผนกันมาให้ทำแบบนี้ ฉะนั้นวันนี้หากจะทำให้แผนแก้ไขภูทับเบิกลุล่วงไปได้ด้วยดี เรื่องการบังคับใช้กฎหมายจะต้องนำหน้ามาก่อนเลย ต้องทำอย่างไรให้คนกลุ่มนี้ก็อาจจะเป็นกลุ่มเดิม ซึ่งพ่อโดนจับเอาลูกมาทำหรือให้ลูกน้องหรือคนใกล้ชิดออกมาทำ ซึ่งตรงนี้จะต้องหาทางทำอย่างไรจะบังคับใช้กฎหมายให้กลุ่มนี้เกรงกลัว”ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่ากล่าว
นายชีวะภาพกล่าวอีกว่า ตอนนี้ยังคิดอยู่ว่าต้องนำเรื่องราวคดีเก่าที่ถูกดำเนินคดีส่งให้ทางปปง.ดำเนินการยึดทรัพย์และการจับกุมต่อไปต้องทำบันทึกให้ละเอียดและท้าวความไปถึงเรื่องเดิมๆเพื่อให้กลุ่มคนเหล่านี้เกรงกลัวกฏหมายให้ได้ ไม่งั้นการจับรื้อสร้างใหม่แบบนี้ก็ยังวนเวียนอยู่ในวงจรเดิมๆ ส่วนเรื่องแผนแม่บทนั้นเดินหน้าไปในระดับหนึ่งแล้ว แต่เรื่องการบังคับใช้กฎหมายยอมรับว่ายังไม่สำเร็จผล เพราะจากที่ลงพื้นที่ไปเห็นกับตาตนเองพื้นที่ถูกดำเนินคดีไปแล้ว ก็ยังไปเห็นและตกใจเหมือนไม่ได้ถูกรื้อไปเลย เพราะกลับมาสร้างใหม่ในตำแหน่งเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำจึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขปัญหา
