เพชรบูรณ์-ทีมสัตวแพทย์ดูแลลูกช้างพลัดหลงแม่ใกล้ชิด ห่วงติดโรคแทรกซ้อน ย้ายคอกไปที่สวนสนบ้านแปกแล้ว (ชมคลิป)
วันที่ 17 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทีมสัตว์แพทย์กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช และทีมสัตวแพทย์สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 รวมทั้งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ นำโดยนายสุทิน พรหมปลัด หัวหน้าอุทยานฯน้ำหนาวได้เคลื่อนย้ายลูกช้างพลัดหลงแม่ ออกจากคอกชั่วคราวบริเวณป่าอุทยานฯน้ำหนาวติดต่อกับป่าข้าวโพดของชาวบ้าน ไปยังคอกชั่วคราวบริเวณป่าสวนสนบ้านแปกในเขตอุทยานฯน้ำหนาวแล้วตั้งแต่เมื่อเวลา 10.00 น.ของวันที่ 16 กันยายนที่ผ่านมาแล้ว โดยมีกลุ่มชาวบ้านบ้านห้วยระหงส์ หมู่ที่ 7 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก ที่พบลูกช้างกระทั่งเกิดความสงสารรักเอ็นดูลูกช้างเชือกนี้ ได้ติดตามไปส่งพร้อมยังร่วมกับทางเจ้าหน้าที่ฯช่วยสร้างคอกใหม่ให้อีกด้วย
ในขณะที่ทีมสัตวแพทยประกอบสัตวแพทย์หญิง(สพ.ญ.)ขันน้ำทอง พุลน้อย และสัตวแพทย์หญิง(สพ.ญ.)ดุสิตา ชินเจริญดี ต้องคอยติดตามดูแลลูกช้างอย่างใกล้ชิดเนื่องจากเกรงจะเกิดอาการติดเชื้อแทรกซ้อน ทำให้ต้องดูแลเข้มเรื่องการให้อาหารและการตรวจสุขภาพช้าง โดยเฉพาะการให้นมซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะป้อนนมให้ลูกช้างในทุกๆ 2 ชั่วโมงและลูกช้างจะกินนมครั้งละราว 2 ลิตร ขณะเดียวกันยังให้สับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ป้อนนมเพือป้องกันไม่ให้ลูกช้างติดความคุ้นเคยหรือเกิดพฤติกรรมติดคน จนไม่อยากกลับเข้าป่าหากแม่ช้างมารับ
สำหรับสาเหตุที่ทีมสัตวแพทย์และทางอุทยานฯ ย้ายลูกช้างไปสร้างคอก ที่สวนสวนบ้านแปกในเขตอุทยานฯน้ำหนาว เพราะบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่หากินของฝูงแม่ช้างเป้าหมาย นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯและทีมสัตวแพทย์ มีความสะดวกในการดูแลสุขภาพ และให้ความปลอดภัยกับลูกช้าง อย่างไรก็ตามระหว่างการสร้างคอกใหม่ให้ลูกน้อง ปรากฎว่าได้มีฝนตกลงทำให้
สัตวแพทย์หญิงขันน้ำทอง กล่าวว่า สภาพร่างกายโดยรวมของลูกช้างตอนนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ยังถือว่าผอมกว่าปกติ มีแผลตามตัวบ้างและมีแผลหลุมค่อนข้างลึกอยู่ข้างก้นด้านขวา ตอนนี้ทำแผลและให้ยาปฎิชีวนะไปแล้ว มีการเก็บตัวอย่างเลือดแล้วและหลังผลเลือดออกจะวางแผนการรักษาต่อไป ส่วนอาการท้องเสียเล็กน้อยอยู่ระหว่างปรับค่อยๆ ปรับสูตรนม และต้องดูว่าลูกช้างกินเข้าไปแล้วถ่ายเหลวไหมหรือถ่ายแข็งเกินไปหรือเปล่าก็ค่อยๆ ปรับกันไป
“ส่วนสาเหตุที่ต้องพยายามไม่ให้ลูกช้างคุ้นเคยกับคนนั้น เพราะต้องการให้ลูกช้างไปอยู่กับแม่รับให้ได้ และเขาเป็นสัตว์ป่าเป็นช้างป่าเพราะฉะนั้นเราพยายามจะให้เขากลับไปอยู่บ้านก็คือป่าให้ได้”สัตวแพทย์หญิงขันน้ำทองกล่าว
