เพชรบูรณ์-ฟ้องลุงตู่! “อาจารย์ชา”ยื่นฟ้อง “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” อ้างทำผิด ม.116 ป.อาญา ศาลอาญา กทม.นัดไต่สวนมูลฟ้อง 22 ก.พ.64 (ชมคลิป)
เวลา 13.00 น.วันที่ 26 ตุลาคม ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก กทม. นายอนัตต์ณังธะโคตร ญาณ์ธนโชติ หรือ “อาจารย์ชา” พร้อมพวกรวม 12 คน โดยนายสกุล พรหมดี ทนายความ เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยต่อผู้พิพากษาศาลอาญา โดยกล่าวหาว่าจำเลยกระทำความผิดมาตรา 116 ป.อาญา โดยบรรยายคำฟ้องสรุปว่า ระหว่างวันที่ 14-22 ตุลาคม 2563 จำเลยกับพวกได้บังอาจออกประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ กทม. โดยอ้างเหตุผลมีบุคคลหลายกลุ่มได้เชิญชวนปลุกระดมและดำเนินการให้มีการชุมนุมสาธารณะโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายว่าด้วยการชุมนุมสาธารณะขึ้นใน กทม. มีการกระทำที่กระทบต่อขบวนเสด็จพระราชดำเนิน มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีการกระทำที่มีความแรงกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ ความปลอดภัยในชีวิตหรือทรัพย์สินของรัฐหรือบุคคลอันมิใช่การชุมนุมโดยสงบที่ได้รับรองตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ทั้งยังกระทบถึงมาตรการควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019 จำเป็นจะต้องมีมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ไขกรณีดังกล่าวให้ยุติได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันท่วงที
ซึ่งความจริงแล้วการชุมนุมของนักเรียนนักศึกษาและประชาชน เป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธอันเป็นการชอบด้วยกฎหมายมาตรา 44 ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ส่วนการชุมนุมที่กระทบต่อขบวนเสด็จพระราชดำเนินเกิดจากความผิดของจำเลยที่ไม่ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องประกาศแจ้งนักศึกษานักเรียนและประชาชนผู้ชุมนุม ถึงเส้นทางขบวนเสด็จพระราชดำเนินล่วงหน้า ให้ผู้ชุมนุมทราบและจะเปิดเส้นทางขบวนเสด็จพระราชดำเนิน เพื่อผู้ชุมนุมจะได้ไม่ใช้เส้นทางที่ขบวนเสด็จพระราชดำเนินผ่าน การชุมนุมของนักเรียนนักศึกษาและประชาชนที่เกิดขึ้นมิได้มีการกระทำให้เกิดความรุนแรงกระทบความมั่นคงของรัฐแต่อย่างใด เพียงแต่กระทบต่อตำแหน่งของจำเลยเท่านั้น นักเรียนนักศึกษาและประชาชนที่เข้าร่วมชุมนุม ได้ใช้หน้ากากอนามัยปิดจมูกและปาก ป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า2019ทุกคน และไม่ปรากฏว่าผู้ชุมนุมติดเชื้อดังกล่าว
ส่วนสถานการณ์การชุมนุมก็ไม่ได้เกิดความรุนแรงจึงไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนและร้ายแรงที่จะประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กทม. การกระทำของจำเลยและพวกคณะรัฐมนตรีที่ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กทม. โดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 อันมิใช่การกระทำภายใต้ความมุ่งหมายตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 การที่จำเลยกับพวกคณะรัฐมนตรีออกประกาศดังกล่าว ตามความในมาตรา 5 และมาตรา 11 แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ 2548 ก็เพื่อให้โจทก์ที่ 1 ถึงโจทก์ 12 นักเรียนนักศึกษาและประชาชนทั่วไปที่จะชมหนุ่มหรือที่เข้าร่วมชุมนุม กระทำความผิดล่วงละเมิดประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่กทม.ฯ ที่จำเลยประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายแผ่นดิน อย่างไรก็ตามทางผู้พิพากษาได้รับคำฟ้องดังกล่าวเป็นคดีดำเลขที่ อ2714/2563 พร้อมนัดไต่สวนมูลฟ้องครั้งแรกในวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2564 ที่จะถึงนี้
