เพชรบูรณ์-นทท.รุมสวดรีสอร์ทภูทับเบิก-เขาค้อเละ ยกเลิกไม่คืนเงินมัดจำที่พัก-คืนแค่ครึ่งเดียว ชาวโซเซียลแนะดัดสันดาน แจ้งมาจากสมุทสาคร-ยกให้กลุ่มเสี่ยงพักแทน
วันที่ 26 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีสาวนักท่องเที่ยวซึ่งมีประวัติไปใน จ.สมุทรสาคร มาเที่ยวพักค้างคืนที่รีสอร์ทภูทับเบิก และหลังเดินทางพบว่าติดเชื้อโควิด-19 ต่อมาเกิดกระแสตื่นตระหนกในกลุมนักท่องเที่ยว จึงมีการแห่ขอยกเลิกห้องพักและขอคืนค่ามัดจำจองห้องพักล่วงหน้าอุตลุด แต่ปรากฏว่ามีรีสอร์ทจำนวนหลายแห่ง ไม่คืนเงินค่ามัดจำ หรือคืนเงินให้เพียงแค่ 50 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น โดยอ้างว่า ทางรีสอร์ทก็เสียหายเหมือนกัน บางแห่งไม่ยอมให้ยกเลิก ไม่คืนเงินมัดจำ ขอเลื่อนไม่ได้ อ้างรีสอร์ทขายห้องออกไม่ทัน ให้ลูกค้าไปโพสต์ขายห้องเอง ในขณะที่บางรีสอร์ตอ้างหากมีการประกาศล็อคดาวน์ถึงจะคืนเงินมัดจำให้ ส่วนบางแห่งให้เลื่อนได้โดยไม่มีกำหนด หรือบางรีสอร์ทลูกค้าทักไปจะขอยกเลิก นอกจากจะไม่ยอมตอบแถมยังเงียบหายไปเฉยๆ
กระทั่งนักท่องเที่ยวพากันแสดงความไม่พอใจ เพราะเหตุผลความจำเป็นต้องยกเลิกและคืนห้องพัก มาจากมีการพบผู้ติดเชื้อโควิดที่ภูทับเบิก และจ.เพชรบูรณ์มีผู้ติดเชื้อโควิด 1 รายแล้ว ทำให้ลูกค้าและนักท่องเที่ยวไม่วางใจในสถานการณ์การแพร่กระจายของเชื้อโควิด ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวบางรายอยู่ในจังหวัดกลุ่มเสี่ยง จึงตัดสินใจไม่เดินทาง เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและไม่ต้องการทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อน
อย่างไรก็ตามหลังจากถูกปฏิเสธจากทางรีสอร์ทไม่คืนเงินมัดจำหรือคืนเงินมัดจำให้แค่50เปอร์เซ็นต์หรือไม่ยอมให้เลื่อน จึงมีการนำหลักฐานและข้อความที่ถูกปฎิเสธ หรือหลักฐานการคืนเงินมัดจำให้ลูกค้าบางส่วน โพสต์ฟ้องเพื่อนนักท่องเที่ยวทางสื่อโซเชียลมีเดีย กระทั่งชาวโซเชียลพากันรุมสวดรีสอร์ตเหล่านี้ว่าเห็นแก่ตัว พร้อมชี้แนะให้ดัดสันดานรีสอร์ทเหล่านี้ โดยให้อ้างเป็นนักท่องเที่ยวจากจ.สมุทรสาคร หรือให้โอนที่พักให้นักท่องเที่ยวที่อยู่ จ.สมุทรสาครหรือในพื้นที่เสี่ยงไปพักแทน และให้ดูว่าทางรีสอร์ทจะยินยอมคืนเงินค่าจองที่พักไว้ล่วงหน้า 100 เปอร์เซ็นต์หรือไม่
นอกจากยังมีรีสอร์ทที่เขาค้ออีกหลายแห่ง ที่ถูกนักท่องเที่ยวรุมสวดยับด้วยความไม่พอใจเช่นเดียวกัน เพราะหลังขอยกเลิกห้องพักแล้ว ทางผู้ประกอบการนอกจากไม่ยอมคืนเงินค่ามัดจำให้แล้ว ยังอ้างในทำนองที่ว่ารีสอร์ทยังเปิดปกติ ขึ้นอยู่กับลูกค้าจะมาได้หรือเปล่า และลูกค้ายืนยันไม่ได้อยู่ในกลุ่มเสี่ยง รีสอร์ตอยู่ในพื้นที่เสี่ยงแต่ไม่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ลูกค้าจะมาพักรีสอร์ทต้องติดต่อหน่วยจุดคัดกรองเอง เพราะทางรีสอร์ทไม่มีสิทธิ์อนุญาตให้ใครเข้าออก ถ้ากระทรวงวาธารณสุขให้ลูกค้าเข้าออกได้ ทางรีสอร์ตก็ยังรับได้ปกติ ปรากฏว่าชาวโซเซียลพากันรุมสวดรีสอร์ตแห่งนี้ยับ พร้อมให้ช่วยกันแชร์และยุให้นักท่องเที่ยวเลิกใช้บริการอีกด้วย
แต่อย่างไรก็ตามก็มีนักท่องเที่ยว โพสต์ชื่นชมรีสอร์ทที่ยินยอมคืนเงินค่ามัดจำจองห้องพักให้แก่ลูกค้าครบ 100 เปอร์เซ็นต์ หลังจากลูกค้าแจ้งขอยกเลิก โดยลูกค้าต่างชื่นชมว่าทำธุรกิจแบบแฟร์ๆดีไม่เอาเปรียบและเป็นธรรมกับลูกค้า พร้อมแนะนำให้เพื่อนนักท่องเที่ยวไปอุดหนุนและใช้บริการรีสอร์ทเหล่านี้อีกด้วย
