เพชรบูรณ์ติดโควิดเพิ่มอีก 1 ราย ยอด 1-13 เม.ย พุ่ง 9 รายแล้ว หวั่นแพร่ระบาดวงชั้น 2
วันที่ 13 เมษายน สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเพชรบูรณ์ เปิด timeline ผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพื่มเติมอีก 1 ราย โดยรายล่าสุดเป็นผู้ป่วยติดโควิดรายที่ 9 Cluster 464 ของจ.เพชรบูรณ์ เป็นเพศชาย อายุ 25 ปี ตาม timeline แจ้งว่า ผู้ติดโควิดรายที่ 9 นี้วันที่ 3-5 เม.ย.เดินไปแปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรากับเพื่อน และไปนั่งร้านอาหาร, วันที่ 8 เม.ย.แวะไปรับเพื่อนที่จ.ระยอง ก่อนเดินทางกลับเพชรบูรณ์ และแวะส่งเพื่อนที่ อ.หนองไผ่ เวลา 23.00 น.ถึงเมืองเพชรบูรณ์ แวะทานส้มตำที่ตลาดโต้รุ่งโพธิ์จันทร์ ในเขตเทศบาลเมืองฯ หลังจากนั้นไปส่งเพื่อนที่หอพักซอยสามัคคีชัย 2 และกลับไปนอนบ้านแฟนที่ต.ห้วยสะแก อ.เมือง(มีตายายพักอยู่ในบ้าน)
ต่อมาวันที่ 10 เม.ย.ช่วงเที่ยงเอารถไปซ่อมอู่พี่สาว ต.ในเมือง, เวลา 13.00 น.ไปรับเพื่อนที่ซอยสามัคคีชัยไปส่งบ้านที่บ้านเฉลียงลับ ต.นาป่า, เวลา 18.00 น.เริ่มกังวลจะติดเชื้อ เพราะแฟนมีประวัติไปเที่ยวที่คลับแซด โรงแรมบูรพา ต.ในเมือง, วันที่ 11 เม.ย.เวลา 15.00 น.ไปเข้ารับการตรวจคัดกรองพร้อมแฟนสองคน ที่รพ.เพชรบูณ์ และในคืนวันเดียวกัน จนท.แจ้งผลตรวจ Rapid Test เบื้องต้นผงเป็นบวก Positive จนท.จึงติดต่อให้เข้าตรวจซ้ำ กระทั้งวันที่ 12 เม.ย.เวลา 00.30 น.รับแจ้งผลตรวจยืนยัน Positive ติดเชื้อโควิด-19, เวลา 02.00 น.เข้ารับการรักษาที่ รพ.เพชรบูรณ์ อย่างไรก็ตามสำหรับยอดผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่วันที่ 1-13 เม.ย.มีจำนวน 9 ราย โดยผู้ป่วยทั้งหมดยังรักษาพยาบาลอยู่โรงพยาบาลต่างๆ ของ จ.เพชรบูรณ์
อย่างไรก็ตามจากผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ที่ยังพบผู้ติดเชื้อเป็นรายวัน ทำให้ชาวเพชรบูรณ์โดยเฉพาะในเขต อ.เมืองฯ ต่างพากันเกิดอาการผวาเพราะเริ่มพบผู้ติดเชื้อในวงชั้น 2 (คนเพชรบูรณ์ติดเชื้อกันเอง) และมีการตื่นรู้และพยายามติดตามสถานการณ์การควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดอย่างใกล้ชิด ในขณะที่ทางจังหวัดและหน่วยงานสาธารณสุขฯรวมทั้งโรงพยาบาลให้แพร่ข้อมูลมาตรการป้องกันตนเองและลดความเสี่ยงจากการติดเชื้ออย่างต่อเนื่อง แต่ขณะเดียวกันยังประชาชนหลายร้อยคนทั้งอยู่ในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มที่เกิดอาการวิตกกังวล หลังได้รับทราบไทม์ไลน์แจ้งสถานที่ผู้ป่วยติดโควิดย่างกายไปไปใช้บริการ ต่างพากันไปขอรับการตรวจหาเชื้อทั้งที่ รพ.เพชรบูรณ์และ PCC คลองศาลา จนหนาแน่น ในขณะที่ รพ.เพชรบูรณ์แม้จะมีบริการตรวจ Rapid test โดยเสียค่าใข้จ่าย 700 บาทต่อคน ก็ปรากฎว่ายังมีประชาชนแห่ไปใช้บริการจนหนาแน่นเช่นเดียวกัน
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: