เพชรบูรณ์-สลด!ญาติรับ 2 ศพสาวเก๋งซูซูกิสวิฟ ออกจากห้องดับจิตพร้อมกัน ก่อนแยกย้ายเคลื่อนศพไปทำพิธีบ้านเกิด เผยทั้งสองเป็นเพื่อนรักกันมาก
วันที่ 14 มิถุนายน ความคืบหน้ากรณีรถเก๋งสปอร์ต BMW Z4 เปิดประทุนซิ่งฝ่าสายฝนพุ่งข้ามเกาะกลางถนนชนรถเก๋งซูซูกิสวิฟที่วิงสวนทางมาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 รายและบาดเจ็บ 1 ราย โดยเหตุ้กิดเมื่อช่วงบ่าจวันที่ 13 มิถุนายนที่ผ่านมา บนถนนหมายเลข 12 สระบุรี-หล่มสัก ต.นาเฉลียง อ.หนองไผ่ จ.เพชรบูรณ์ โดยล่าสุดเมื่อเช้านี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.นาเฉลียง ได้เดินทางไปตรวจสอบพร้อมค้นหาเมโมรีกล้องหน้ารถเก๋งสปอร์ต BMW Z4 เนื่องจากก่อนหน้านี้ทางตำรวจเก็บแต่ตัวกล้องไป แต่ภายหลังพบว่าไม่มีเมโมรีซึ่งผลการค้นหาไม่พบเมโมรีกล้องหน้ารถแต่อย่างใด
ขณะเดียวกันระหว่างตรวจสอบจุดเกิดเหตุดังกล่าว นายนิติ วรรณกายนต์ อายุ 63 ปี คุณพ่อน.ส.วรรณกานต์ผู้เสีนชีวิตที่นั่งโดยสารรถเก๋งซูซูกิสวิฟ ได้ติดตามเจ้าหน้าที่ตำรวจลงพื้นที่ไปดูสถานที่เกิดเหตุด้วย ต่อมาทางตำรวจจส่งมอบคืนทรัพย์สินของผู้เสียชีวิตให้กับญาติ ส่วนความคืบหน้าในทางคดีทางพนักงานสอบสวน สภ.นาเฉลียงยังได้ดำเนินการอะไร โดยรอให้ทางฝ่ายญาติผู้เสียชีวิต ทำพิธีฌาปนกิจศพให้เรียบร้อยเสียก่อน จึงจะเรียกทั้ง 2 ฝ่ายมาพบ อีกครั้ง ส่วนน.ส.เมษสวรรค์ แทนรัตน์ อายุ 18 ปีซึ่งนั่งมากับรถเก๋งสปอร์ตและเป็นหนึ่งเดียวที่รอดจากอุบัติเหตุครั้งนี้ โดยได้รับบาดเจ็บจากการขาหัก ได้ถูกส่งตัวไปทำการรักษาต่อ ที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ตั้งแต่ช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมาแล้ว
ข่าวน่าสนใจ:
- เขาค้อผวา "ทริปน้ำไม่อาบ" นอภ.สั่งตั้งจุดตรวจ เกรงหลังเสร็จกิจกรรมภูทับเบิก แก๊งแว้นเตลิดเขาค้อ
- เพชรบูรณ์-ผปส.มูลนิธิรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ฯ จี้ผู้จัดคอนเสิร์ต-จนท.เข้มบุหรี่ไฟฟ้า
- "Gmm Show"แจ้งเตือนระวังมิจฉาชีพ หลอกขายบัตรทิพย์ คอนเสิร์ต Rock Mountain เขาค้อ
- เพชรบูรณ์ - นักท่องเที่ยวสุดเซ็ง! วางแผนไปเที่ยวเขาค้อภูทับเบิก หลังรู้ข่าวต้องเจอ"ทริปน้ำไม่อาบ" ยอมยกเลิกหรือปรับไปเที่ยวที่อื่นแทน
ข่าวแจ้งอีกว่า หลังโรงพยาบาลหนองไผ่ตรวจหาเชื้อโควิดจากศพผู้เสียชีวิตแล้วและไม่พบเขื้อ จึงอนุญาตให้ญาตินำศพทั้ง น.ส.กรกฎ หิรัญ อายุ 31 ปี คนขับรถเก๋งซูซูกิ และศพ น.ส.วรรณกานต์ วรรณกายนต์ อายุ 29 ปี เพื่อนที่เสียชีวิตด้วย กลับภูมิลำเนาเพื่อไปทำพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด โดยศพน.ส.กรกฎทางอาสากู้ภัยฯนำไปที่สมุย จ.สุราษฎร์ธานี ส่วนศพน.ส.วรรณกานต์ ญาตินำกลับไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดช้างเผือก ต.ในเมือง อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ทั้งนี้ขณะจะนำร่าง 2 สาวออกจากห้องดับจิต และก่อนที่จะมีการเคลื่อนบ้านศพแยกย้ายไปยังภูลำเนาผู้เสียชีวิค ทางญาติทั้งสองขอร้องให้ทางอาสากู้ภัยฯนำศพทั้งสองออกจากห้องเก็บศพพร้อมๆ กัน โดยให้เหตุผลว่าในขณะที่ยังมีชีวิตผู้ตายทั้ง 2 เป็นเพื่อนที่รักและผูกพันกันมาก
นายนิติ วรรณกายนต์ อายุ 63 ปี พ่อของ น.ส.วรรณกานต์ กล่าวว่า ก่อนอุบัติเหตุเมื่อวานตอนเช้า ลูกสาวได้โทรมาหาว่าวันนี้จะเดินทางมาหาที่เพชรบูณ์ ตนจึงได้บอกทางภรรยาให้ไปหาเก็บผักทำกับข้าวทำขนมรอไว้ให้ลูก พอช่วงสักประมาณ 11 โมงเช้า ตอนนั้นได้โทรหาลูกสาวโดยได้ถามว่า ตอนนี้ถึงไหนแล้ว ลูกสาวตอบกลับมาว่า ได้ถึงแยกราหุลแล้ว แต่พอเวลาผ่านไปสักประมาณ 14.00-15.00 น. ลูกสาวอีกคนได้โทรมาบอกกับตนว่า ลูกสาวของตนนั้นได้ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต โดยได้เห็นข่าวจากสื่อซึ่งไม่คาดคิดว่าจะต้องมาสูญเสียลูกสาว
“ก็ไม่มีลางบอกเหตุอะไรมาก่อนว่าเหตุแบบนี้จะเกิดกับลูกสาว ซึ่งลูกสาวทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ถ้าหากว่างจากการทำงานก็จะกลับมาเที่ยวหาผมเป็นประจำ ส่วนในทางคดีนั้นจากการดูหลักฐานแล้ว รถเก๋งสปอร์ต BMW Z4 ข้ามเกาะกลางถนนมาชนเก๋งที่ลูกนั่งสวนทางมา ตอนนี้ยังไม่ได้พบปะพูดอะไรกับฝ่ายคู่กรณี ก็ต้องรอให้ทำพิธีฌาปณกิจศพลูกสาวเสร็จก่อน เรื่องอื่นๆ ค่อยว่ากัน”
นางธศิกาญจณ์ อิงคนินันท์ (อดีตกำนันตำบลชนแดน) อายุ 67 ปี ซึ่งเป็นเพื่อนสนิทกับครอบครัวนางสาวกรกฎ คนขับรถเก๋งซูซูกิสวิฟที่เสียชีวิต กล่าวว่า ได้รับการประสานให้มารับศพน.ส.กีกฎแทนพ่อแม่ของผู้เสียชีวิต เพราะจ.สงขลาอยู่ไกลมาก ทางคนอบครัวน.ส.กรกฎจึงฝากให้มาช่วยดำเนินการให้ เมื่อเช้านี้ได้ประสานกับพ่อของน.ส.วรรณกานต์จะมารับศพลูกสาวในวันนี้เช่นกัน จึงนัดแนะให้มารับศพน้องทั้งสองออกไปพร้อมๆ กัน เพราะว่าน้องทั้งสองคนเป็นเพื่อนรักที่มีความผูกพันกันมาก
รายงานข่าวแจ้งว่า ด้านชาวโซเชียลยังพากันวิพากษ์วิจารณ์ พร้อมความเสียใจต่อครอบครับผู้ประสบอุบัติเหตุในครั้งนี้กันอย่างเซ็งแซ่ ขณะเดียวกันมีการตั้งข้อสังเกตุถึงสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุว่านอกจากรถเก๋งสปอร์ตขับซิ่งฝ่าสายฝนโดยขับรถความเร็วปาดซ้ายแซงขวา ตามที่มีผู้นำคลิปจากกล้องหน้ารถที่ขับตามรถเก๋งสปอร์ตมาเผยแพร่แล้ว ยังมีนายชูศักดิ์ รู้ยิ่ง อดีตนายอำเภอหนองไผ่ที่แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว
โดยนายชูศักดิ์ระบุว่า “ผมเคยขับรถยนต์ฟอร์จูนเนอร์บนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์สายสระบุรี-หล่มสัก บ่อยครั้งมากในยามที่มีฝนตกหรือหลังฝนตกไม่นานจะเสี่ยงมาก ถ้าขับฝ่าสายฝนในช่วงเวลากลางคืนจะเสี่ยงมากที่สุดเพราะถนนระบายน้ำได้ไม่ดี มีน้ำท่วมขังตลอดแนวฝั่งริมเกาะกลางถนน ตั้งแต่ช่วง อ.ศรีเทพ ไปจนถึง อ.เมืองเพชรบูรณ์ ถ้าขับเร็วเกิน 100 กม./ชั่วโมง และจับพวงมาลัยไม่แข็งพอ รถอาจจะไถลออกนอกเลนหรืออาจโหนข้ามเกาะกลางถนนได้ ถ้าเป็นรถเก๋ง ซึ่งเบากว่า ยิ่งเสี่ยงมากกว่า และโค้งถนนบางจุดก็ยังไม่ดีพอ ถ้ามีฝนตกหรือเจอโค้งจะต้องขับช้าๆ และระมัดระวังเป็นพิเศษ ถนนเส้นนี้ควรจะต้องปรับปรุงให้ได้มาตรฐานความปลอดภัยครับ”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: