เพชรบูรณ์-คดียิงบ้านนักข่าวไม่คืบ เจ้าตัวเชื่อปมโยงขัดแย้งคนมีสีบางราย
วันที่ 18 มิถุนายน ความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกยิงบ้านพักและสำนักงานนักข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐจังหวัดเพชรบูรณ์ ในเขตเทศบาลเมืองหล่มสัก ยังคงพบว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจยังวนอยู่กับการหาภาพจากกล้องวงจรปิดคล้ายโจรล่องหนหาตัวตนไม่เจอ หลังเหตุการณ์ผ่านไปนานกว่า 1 สัปดาห์ก็ยังมืดแปดด้านไม่มีความคืบหน้า ทั้งที่บริเวณรอบๆ ที่เกิดเหตุเป็นใจกลางชุมชนมีคนสัญจรไปมาพลุกพล่าน
ล่าสุดมีโทรศัพท์ปริศนาลึกลับโทรแจ้งข้อมูลกับผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐว่าทราบเบาะแสของคนร้ายที่ยิงบ้านพักผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์ไทยรัฐและอยากจะขอให้ข้อมูลเป็นการส่วนตัวเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย และรู้สึกเห็นใจที่เป็นผู้ถูกกระทำจากฝีมือของคนมีสีบางนายที่ลุแก่อำนาจทำร้ายประชาชน และได้พูดคุยอีกว่าจะหาหลักฐานบางอย่างมามอบให้ในเร็วๆ นี้ และยังบอกอีกว่าการหาหลักฐานเอาผิดพวกเดียวกัน หายังไงก็หาไม่มีทางเจออย่าเสียเวลาเปล่า คงจะเป็นการซื้อเวลารอให้หลักฐานจากกล้องวงจรปิดหมดอายุและหาไม่ได้ ที่สำคัญคนที่มีอำนาจถือปืนในมือนั้นต้องระวังให้ดี เพราะที่ผ่านมาหลายคดีที่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับความเดือดร้อนทุกข์ทรมานก็มาจากฝีมือของกลุ่มตำรวจนอกรีตแบบนี้
ด้านนายกำธร โจมจตุรงค์ ผู้สื่อข่าวไทยรัฐจังหวัดเพชรบูรณ์กล่าวว่า คงต้องรอให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจในการติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ ที่ผ่านมานั้นได้ทำงานร่วมกันแบบพี่แบบน้องกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่แบบถ้อยทีถ้อยอาศัย แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกับนายตำรวจบางราย เริ่มต้นเกิดจากการกระทบกระทั่งโต้เถียงเล็กน้อยไม่ถึงครึ่งนาที โดยส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้เก็บมาถือสาเพราะตนเองมีอายุมากกว่าเกือบยี่สิบปีและไม่คิดว่าจะเป็นสาเหตุที่ถูกลอบยิงบ้านแบบนี้ อีกทั้งยังเชื่อมั่นว่าทุกโรงเรียนสอนให้คนเป็นคนดีคิดดีทำดีปลูกฝังวินัยอดทนอดกลั้นและมีวุฒิภาวะทางอารมณ์และปฏิบัติต่อประชานชนเหมือนญาติของตนเองที่ได้รับความเดือดร้อนแล้วจึงมาพึ่งพาตำรวจ
อย่างไรก็ตามหากพบหลักฐานว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจมากระทำผิดเสียเองก็ถือเป็นเรื่องที่น่าอับอายของคนในเครื่องแบบที่ถือกฏหมายและอาวุธปืนกลับมากระทำพฤติกรรมเยี่ยงโจรเสียเอง นอกจากนี้ยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจระดับสูงบางนายโทรศัพท์มาสอบถามคนใกล้ชิดนายกำธรว่า จะเอายังไงจะจบหรือไม่ คนใกล้ชิดของนายกำธรได้ตอบไปว่าคิดว่านายกำธรคงต้องสู้ต่อไป ทำให้นายตำรวจคนดังกล่าวหัวเสียและพูดแบบไม่สบอารมณ์ว่า “ได้เอาอย่างนั้นใช่ไหม” งานนี้คงต้องฝากท่านพล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร ช่วยมาจัดการเรื่องราวนี้ด้วยก่อนที่กลุ่มคนนอกรีตเหล่านี้จะได้ใจไปก่อกรรมทำเข็ญโดยไม่เกรงกลัวกฏหมายบ้านเมือง
