เพชรบูรณ์-“หมอหญิง”เหวี่ยงสื่อหิวแสง-แค่ขายข่าว ปูดข่าวดราม่าคนครึ่งหมื่นแห่ฉีดวัคซีนแน่น-เบียดเสียด ชาวเน็ตโต้อย่าเหมือนรัฐบาลเสียชื่อไม่ว่า อย่าเสียหน้า
วันที่ 14 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวรายงานข่าว เกิดกระแสฮือฮากลายเป็นประเด็นดรามาซ้อนดราม่า เมื่อมีโฟสต์บนบนเฟสบุ๊กที่ใช้ชื่อ “Wijittra Phaengkha” ซึ่งเป็นแพทย์หญิงรายหนึ่งของจ.เพชรบูรณ์ บันดาลอารมณ์เหวี่ยงใส่สื่อที่นำเสนอข่าวเกี่ยวกับประเด็น”ชาวเพชรบูรณ์แห่แชร์ภาพ-คลิป ปชช.กว่าครึ่งหมื่นแห่ฉีดวัคซีนแน่น-เบียดเสียด ดรามา!จัดการไม่โอเค” โดยตำหนิสื่อ-นักข่าวกระทำย่ำยีความมุ่งมั่นการทำงาน และนำความผิดพลาดเล็กเพียงเล็กน้อยไปโพนทนาใหญ่โต จนส่งผลต่อภาพลักษณ์จังหวัด ซึ่งจะส่งผลหลายอย่างตามมา โดยไม่คิดถึงผลกระทบตรงนี้หรือต้องการขายข่าว ต้องการความสะใจ สำหรับหมอไม่สนใจอยู่แล้ว จะด่าหรือชมเพราะรู้เป้าหมายการทำงานและข้อบกพร่องอะไร
นอกจากนี้ในข้อความบางส่วนของโพสต์ดังกล่าวยังถามหาความรับผิดชอบของนักข่าวอีกว่า” สิ่งที่เสียหายกับจังหวัดในสายตาของผู้บริหารระดับสูงของประเทศจากที่พวกคุณที่ตัดภาพไปเสนอเพียงบางส่วนที่เป็นจุดบกพร่อง อันนี้ใครจะรับผิดชอบ นักข่าวรับผิดชอบไหวไหม? อยากถามตรงนี้มาก”
ข่าวน่าสนใจ:
โพสต์ดังกล่าวยังระบุด้วยว่า “แทนที่จะช่วยกัน ให้งานทุกอย่างมันดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อพี่น้องชาวเพชรบูรณ์จะได้เข้าถึงวัคซีนมากขึ้นเร็วขึ้น เพื่อจังหวัดเพชรบูรณ์จะได้รับการจัดสรรวัคซีนมากขึ้น จะได้คลายล็อคดาวน์เร็วขึ้น พวกคุณกับเอาความไม่เรียบร้อยเพียงแค่ไม่กี่นาทีของการทำงานครึ่งค่อนวันมาเป็นประเด็นเรียกแสง แต่ตัดโอกาสของชาวเพชรบูรณ์ หลายๆ อย่างจากเหตุการณ์นี้ พวกคุณทำเพื่ออะไร เป็นคนประเภทไหนถึงทำแบบนี้ ได้ลงคอ ขอช่วยตอบหน่อยค่ะ”
ต่อมาได้มีผู้เข้ามาแสดงคอมเม้นท์กันเป็นจำนวนมาก โดยมีทั้งผู้ที่ให้กำลังใจและมีบางรายที่เห็นแตกต่างจากโพสต์ดังกล่าว โดยระบุทำนองว่า เป็นผักชีโรยผ้าซุกไว้ใต้พรม ห่วงแต่ภาพลักษณ์ไม่ยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น ข่าวออกให้นำข้อมูลมาโต้แย้ง ปชข.จะตัดสินเอง อย่าเป็นเหมือนรัฐบาลส่วนกลาง เสียชื่อไม่ว่าเสียหน้าไม่ได้ ในขณะที่เจ้าของโพสต์พยายามโต้แย้ง “เรื่องป้องกันไม่ต้องห่วงเราจะสรุปทุกครั้งเพื่อแก้ไขข้อบกพร่อง แต่พวกคุณไม่ต้องเอาแต่จุดบกพร่องไปโพนทนาได้ไหม”
อนึ่งสำหรับข่าวประเด็น”ชาวเพชรบูรณ์กว่าครึ่งหมื่นแห่ฉีดวัคซีนแน่น-เบียดเสียด…” สืบเนื่องจากมีผู้นำคลิปวีดีโอและภาพนิ่งกลุ่มประชาชนแห่เข้ารับการฉีดวัคซีนกันจนแน่นห้องประชุมเมื่อวันที่ 12 ส.ค.64 ที่ผ่านมา เผยแพร่บนสื่อโซเชียลมีเดียกระทั่งมีการแชร์กันว่อน นอกจากนี้ยังมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการบริหารที่ไม่ดีพอ จนเกรงมีผู้ติดเชื้อกลายเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ ในขณะที่ที่ผู้ไปรับวัคซีนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มผู้สูงอายุและอยู่กลุ่มผู้มีโรคเสี่ยง จนกลายเป็นประเด็นดราม่า
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ก็มีประเด็นดราม่าไทม์ไลน์ แอดมินเพจสสจ.เพชรบูรณ์ ใช้คำชี้แจงแทงใจประชาชน “ประชาชนไม่จำเป็นต้องรับรู้” กระทั่งเกิดการโต้แย้งจนทัวร์ลงเพจดังกล่าว
สำหรับข้อความโฟสต์บนเฟสบุ๊ก “Wijittra Phaengkha” ระบุว่า…
หลังจากที่ปล่อยให้นักข่าวกระทำการย่ำยีความมุ่งมั่นในการทำงานต่อสู้กับมหันตรายโควิด19 ของพวกเรามาหลายครั้งแล้ว อยากจะถามว่าในสถานการณ์ซึ่งเสมือนสงครามนี้ พวกคุณจะมาหาเรียกร้องความเรียบร้อยร้อยสมบูรณ์เหมือนสภาวะปกติได้อย่างไร..สิ่งที่สำคัญคือความรวดเร็ว ครอบคลุมให้มากที่สุด..และต้องทำอย่างท้าทายทุกครั้งตั้งแต่ 400 1000 2000 3000 และ 5000 คนต่อวัน ทุกครั้งเราต้องทำไปเรียนรู้ไป
แต่พวกคุณกลับนำความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆ ไปโพนทนาให้มันใหญ่โต จนส่งผลต่อภาพลักษณ์ของจังหวัด ซึ่งมันจะส่งผลต่ออีกหลายสิ่งหลายอย่างตามมา พวกคุณเคยคิดถึงผลกระทบตรงนี้ไหม หรือสักแต่ต้องการขายข่าว ต้องการความสะใจ…
สำหรับพวกหมอ ไม่สนใจอยู่แล้วค่ะ จะด่าหรือจะชมเพราะทำงานแต่ละครั้งรู้ว่า เป้าหมายคืออะไร อะไรต้องแก้ไขจุดบกพร่องอะไรบ้าง เพราะเราต้องทำงานแบบท้าทายแข่งกับเวลา แข่งกับศัตรูคือเชื้อโรค แข่งกับสถานการณ์ทุกอย่างที่รุมเร้าอยู่!!!! ไม่มีเวลาใส่ใจอะไรได้มากกว่าสู้สุดใจกับศัตรูตรงหน้า…
แต่สิ่งที่เสียหายกับจังหวัดในสายตาของผู้บริหารระดับสูงของประเทศจากที่พวกคุณที่ตัดภาพไปเสนอเพียงบางส่วนที่เป็นจุดบกพร่อง อันนี้ใครจะรับผิดชอบ…นักข่าวรับผิดชอบไหวไหม? อยากถามตรงนี้มาก.. แทนที่พวกคุณจะช่วยกัน ให้งานทุกอย่างมันดีขึ้นเรื่อยๆ เพื่อพี่น้องชาวเพชรบูรณ์จะได้เข้าถึงวัคซีนมากขึ้นเร็วขึ้น เพื่อจังหวัดเพชรบูรณ์จะได้รับการจัดสรรวัคซีนมากขึ้น จะได้คลายล็อคดาวน์เร็วขึ้น ..
พวกคุณกับเอาความไม่เรียบร้อยเพียงแค่ไม่กี่นาทีของการทำงานครึ่งค่อนวันมาเป็นประเด็นเรียกแสง แต่ตัดโอกาสของชาวเพชรบูรณ์ หลายๆอย่างจากเหตุการณ์นี้ พวกคุณทำเพื่ออะไร เป็นคนประเภทไหนถึงทำแบบนี้ ได้ลงคอ ขอช่วยตอบหน่อยค่ะ
ข่าวเกี่ยวข้อง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: