เพชรบูรณ์-จัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน 18 มิ.ย.นี้ ชี้ลูกหนี้เข้าร่วมโครงการนี้ได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่าไปเจรจาด้วยตัวเอง
เวลา 09.30 น.วันที่ 13 มิ.ย.65 นายสุเมธ ธีรนิติ รอง ผวจ.เพชรบูรณ์, นายชิต ปาคำมา ยุติธรรมจังหวัดฯ, ผศ.ดร. ปรีชา ศรีเรืองฤทธิ์ รักษาราชการแทนอธิการบดี มหาวิทยาลัยราชภัฎ(มรภ).เพชรบูรณ์ แถลงที่ห้องประชุมศรีชมภู มรภ.เพชรบูรณ์ถึงการจัด “โครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือน จ.เพชรบูรณ์ และยุติธรรมพบประชาชน”ขึ้นในวันที่ 18 มิ.ย.65 ที่หอประชุมประกายเพชร มรภ.เพชรบูรณ์ โดยมีตัวแทนสถาบันการเงินในจังหวัดฯ เข้าร่วมแถลงด้วย ทั้งนี้นายชิตกล่าวว่า วัตถุประสงค์เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินและปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ได้แก่ การแก้ไขปัญหาหนี้สินกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) หนี้เช่าซื้อรถยนต์และรถจักรยานยนต์ หนี้บัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคล ซึ่งกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพและกรมบังคับคดีบูรณาการร่วมกับกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาและสถาบันการเงินให้บริการประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน โดยจัดการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททั้งก่อนฟ้อง และภายหลังคำพิพากษาคดี ทั้งนี้ในวันจัดโครงการมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินฯที่ 18 มิ.ย.นี้ น.ส.ณัฐธ์ภัสส์ ยงใจยุทธ รมช.กระทรวงยุติธรรม จะเดินทางมาเป็นประธานเปิดโครงการฯ
นายชิตกล่าวอีกว่า ในวันจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยหนี้สินครัวเรือนดังกล่าว จะมีผู้แทนตัวแทนธนาคาร สถาบันการเงินและหน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เพื่อให้ลูกหนี้ได้มีโอกาสตกลงกับเจ้าหนี้สถาบันการเงินเจรจาลดดอกเบี้ย เบี้ยปรับ ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ ขยายระยะเวลาชำระหนี้ รวมทั้งลดปัญหาในการฟ้องร้องและการถูกยึดทรัพย์สินขายทอดตลาด โดยล่าสุดได้รับแจ้งจากสำนักงานบังคับคดีได้เชิญลูกหนี้ภายหลังคำพิพากษาราว 300 ราย นอกจากนี้ทางกองทุนฟื้นฟูเกษตรกรเชิญลูกหนี้เข้าร่วมไกล่เกลี่ย ส่วนลูกหนี้จากกองทุน กยศ.มีราว 2,553 ราย ที่ได้รับเชิญเข้าไกล่เกลี่ยปัญหาหนี้สินในครั้งนี้ แต่ทั้งนี้ปัญหาส่วนหนึ่งก็คือระยะเวลาการเป็นหนี้มานานพอสมควร มีการเปลี่ยนสถานที่ติดต่อ เปลี่ยนหมายเลขโทรศัพท์ โดยเฉพาะลูกหนี้กยศ. จึงอยากให้ลูกหนี้ที่ขาดการชำระหรือลูกหนี้ปกติ ใช้โอกาสและเวทีนี้ในการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้สินโดยตรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้ค่อนข้างมาก อาทิ ในหลายจังหวัดเบี้ยปรับของลูกหนี้บางราย ได้รับการปรับลดถึง 80 เปอร์เซนต์
ข่าวน่าสนใจ:
- เพชรบูรณ์ - "ครอบครัวศรีประโค" บริจาคกระจกตาพ่อที่เสียชีวิต หวังช่วยให้ผู้อื่นกลับมามองเห็น
- คู่แข่งนอกสายตานายก ก้อย “พนธ์ มรุชพงษ์สาธร” ขอวัดดีกรีว่าที่นายก อบจ.แปดริ้ว
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
นายสุเมธ ธีรนิติ กล่าวย้ำว่า คนที่เป็นหนี้ส่วนใหญ่จะกระจายอยู่ในสถาบันการเงินทั่วไป เราก็พยายามเชิญลูกหนี้เหล่านี้มาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ส่วนความคาดหวังการเจรจาไกล่เกลี่ยครั้งนี้จะได้ผลมากน้อยแค่ไหนก็อยู่ที่เงื่อนไขก็แต่ละสถาบันการเงิน ซึ่งเจ้าหนี้เองก็คงมีเจตนาดีอยู่แล้ว เพื่อลดหรือไม่อยากให้มีปัญหาการฟ้องร้องจนขึ้นศาลกัน และการเจรจาไกล่เกลี่ยในครั้งนี้เชื่อว่าลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการนี้ น่าจะได้รับสิทธิประโยชน์มากกว่าการเดินเข้าไปเจรจาด้วยตัวเอง ส่วนลูกหนี้ที่ไม่ได้รับการเชื้อเชิญไปแต่ประสงค์จะเข้าโครงการนี้ ก็สามารถเข้าไกล่กลี่ยในวันจัดมหกรรมไกล่เกลี่ยฯในวันที่ 18 มิ.ย.ที่จะถึงนี้ได้เช่นกัน ส่วนลูกหนี้นอกระบบหากไม่ได้รับความเป็นธรรม ทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดฯ ก็จัดทีมงานเข้ารับเรื่องในงานมหกรรมไกล่เกลี่ยฯดังกล่าวด้วย
ด้านผู้แทนสถาบันการเงินในจังหวัดฯ อาทิ ธนาคารออมสิน, ธนาคารกรุงไทย และธนาคารเกษตรและสหกรณ์ ได้ชี้แจงโดยสรุปว่า ทางธนาคารฯมีความพร้อมจะดูแลและพร้อมตะแก้ปัญหาร่วมกับลูกหนี้ จากรายได้ลดลง ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและปัญหาจากสถานการณ์โควิด อาจทำให้ลูกค้าต้องตกอยู่ในภาวะยากลำบากและอาจห่างหายจากการประกอบอาชีพหรือกิจการไปเลย ขณะเดียวกันมีลูกหนี้ที่ถูกบังคับคดี ถามว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง นอกจากการลดหนี้และยังสามารถขยายเวลาชำนะหนี้ออกไปได้อีก ความสามารถในการชำระหนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทางธนาคารต่างมีคำตอบและทางออกให้แก่ลูกค้า
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: