เพชรบูรณ์-“สุทัศน์ จันทร์แสงศรี” ลั่น! เหตุไม่ตีจาก พท. ไม่อยากทิ้งเพื่อน-พรรคฯ ยอมรับใจหายหลังอดีต ส.ส.ในกลุ่ม ย้ายออกจนเหลือเพียงคนเดียว
วันที่ 29 พ.ย.61 นายสุทัศน์ จันทร์แสงศรี อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคเพื่อไทย(พท.) กล่าวชี้แจงถึงเหตุผลที่ไม่ย้ายออกจากพรรคเพื่อไทย หลัง”นายสันติ พร้อมพัฒน์” อดีตแกนนำพรรคฯและกลุ่มนำอดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ย้ายไปซบพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ว่า คงย้ายไปไหนไม่ได้เพราะไม่อยากจะทิ้งเพื่อนและไม่ทิ้งพรรค ส่วนที่หลายท่านโยกย้ายออกไป แม้ความคิดเห็นจะต่างกันแต่ก็ยังเป็นเพื่อนเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันอยู่ ยอมรับว่าก็ใจหายเหมือนกันเพราะเมื่อก่อนทำงานร่วมกันเป็นกลุ่ม มีอะไรก็จะปรึกษาหารือกันและเอื้ออาทรกันมาโดยตลอด แต่ทั้งนี้ก็เข้าใจถึงความจำเป็นของแต่ละท่านและเคารพการตัดสินใจซึ่งกันและกัน
นายสุทัศน์ยังกล่าวถึงการจัดวางผู้สมัครส.ส.เพชรบูรณ์ แทนว่าที่ผู้สมัครที่โยกย้ายออกไปว่า จากการที่อดีต ส.ส.สุรศักดิ์ อนรรฆพันธ์ ซึ่งเดิมก่อนจะย้ายออกไปทางพรรคให้เป็นผู้สรรหาผู้ที่จะลงสมัครลงรับเลือกตั้ง ส.ส.เพชรบูรณ์ เพื่อเสนอต่อคณะกรรมการพรรคให้ครบทั้ง 5 เขต แต่เมื่ออดีต ส.ส.สุรศักดิ์ลาออกจากพรรคอย่างกะทันหัน ทำให้ตนไม่มีโอกาสจะทำอะไรได้ทันเพราะเหลือเวลาเพียงแค่วันเดียว จึงจำเป็นต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทางพรรคไป ส่วนพรรคเพื่อไทยจะจัดส่งผู้สมัคร ส.ส.เพชรบูรณ์ได้ครบทุกเขตหรือไม่ ตรงนี้ไม่แน่ใจ
อดีต ส.ส.เพชรบูรณ์ พรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ตอนนี้ตนเลยเป็นอดีต ส.ส.เพชรบูรณ์เพียงคนเดียว ที่ยังยืนหยัดทำงานกับทางพรรคเพื่อไทยต่อไป ทั้งนี้ทางผู้ใหญ่ในพรรคก็ดีใจและให้กำลังใจมาโดยตลอด ส่วนในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ก็ยังมั่นใจเหมือนทุกๆครั้ง โดยเฉพาะยังเชื่อว่าชาวเพชรบูรณ์ยังมีความผูกพันทั้งตัวบุคคลและพรรค ซึ่งเป็นองค์ประกอบคู่กันอยู่ อาจจะแตกต่างกับหลายจังหวัดที่โดดเด่นเฉพาะพรรค อย่างไรก็ตามตนทำงานการเมืองมาตั้งแต่ปี 2538 ทำให้ผูกพันและคุ้นเคยกับชาวเพชรบูรณ์เป็นอย่างดี ส่วนชื่อชั้นของพรรคเพื่อไทยนั้นกระแสชาวเพชรบูรณ์ยังตอบรับและให้การต้อนรับกันเป็นอย่างดี
ข่าวน่าสนใจ:
นายสุทัศน์กล่าวด้วยว่า ส่วนคู่แข่งซึ่งปัจจุบันเริ่มทยอยเปิดตัวกันอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นคนหนุ่มคนสาวไฟแรงยุค 4.0 ก็มีนั้น ไม่ว่าจะเป็นว่าที่ผู้สมัครหน้าใหม่หรือหน้าเก่าทุกคนต่างก็มีโอกาสทั้งหมด แต่สุดท้ายประชาชนชาวเพชรบูรณ์จะเป็นคนตัดสินใจ ขณะเดียวกันก็เชื่อว่าผลงานที่ผ่านมาจะเป็นตัวชี้วัดได้เป็นอย่างดี
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: