เพชรบูรณ์-“ประยุทธ มหากิจศิริ” ทำพิธีบวงสรวงฯที่”สวนป่าสักทีคคาร์บอน”ที่วิเชียรบุรี หนุนเพิ่มพื้นที่สีเขียว เล็งทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ไม้สักพร้อมส่งออกผลิตภัณฑ์
เวลา 09.30 น.วันที่ 9 สิงหาคม นายประยุทธ์ มหากิจศิริ ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทพีเอ็มกรุ๊ป และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ บริษัททีค คาร์บอนจำกัด และเจ้าของผู้ดำเนินธุรกิจรายใหญ่ระดับประเทศหลายกิจการ พร้อมครอบครัวมหากิจศิริ ทำพิธีบวงสรวงบูชาเทพเทวา รุกขเทพารักษ์ ที่สวนป่าสักทีคคาร์บอน หมู่ที่ 17 ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ หลังจากได้เข้าครอบครองเป็นเจ้าของที่ดิน พร้อมสิ่งปลูกสร้างและต้นไม้สัก เพื่อให้สามารถใช้ประโยชน์ในที่ดิน ตลอดจนทรัพย์สินอื่นๆในที่ดินแห่งนี้ ไปประกอบธุรกิจเพื่อความเป็นสิริมงคลและความเจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้า ท่ามกลางแขกเหรื่อในพื้นที่และแขกระดับวีไอพีเข้าร่วมเป็นจำนวนมาก
ข่าวน่าสนใจ:
- เพชรบูรณ์ - 2 นักการเมืองรุ่นเก๋า ไม่ยอมแพ้สังขาร ลั่น"ใจยังสู้เกิน 100" มั่นใจรักษาแชมป์ ส.อบจ.เพชรบูรณ์ไว้ได้
- ผู้ว่าฯเพชรบูรณ์ เล็งจับเข่าหารือพัฒนา "เลยดั้น" พร้อมเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวน้ำหนาว
- สมัครชิง ส.อบจ.เพชรบูรณ์ วันแรกคึกคัก! โยนเหรียญหัว-ก้อยลุ้นเบอร์ ผู้สมัครฯพรรคปชน.-อิสระ ท้าชนอดีตแชมป์สังกัดว่าที่นายก อบจ. 7 สมัย
อย่างไรก็ตามหลังเสร็จพิธีบวงสรวง นายประยุทธพร้อมครอบครัว รวมทั้งแขกเหรื่อที่ไปร่วมพิธี ได้ร่วมกันปลูกป่าในบริเวณดังกล่าวอีกด้วย ทั้งนี้สำหรับ “สวนป่าสักทีคคาร์บอน” ตั้งอยู่หมู่ที่ 17 ต.ท่าโรง อ.วิเชียรบุรี จ.เพชรบูรณ์ บนเนื้อที่จำนวน 2,750 ไร่ โดยต้นสักในสวนสักทีคคาร์บอนส่วนใหญ่มีอายุราว 30 ปี
นายประยุทธ มหากิจจศิริ กล่าวถึงสวนป่าสักทีคคาร์บอนว่า เราเห็นสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญเพราะการปลูกป่าเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อม และยังเป็นเฟสหนึ่งของธุรกิจในอนาคต เพราะป่าไม้เป็นของที่มีคุณค่า โดยเฉพาะไม้สัก เป็นของแพงซึ่งหายาก เพราะฉะนั้นเราจะมาสนับสนุนปลูกป่าให้ชาวโลกรู้จักไม้สักที่ดีที่สุดในโลกอยู่ในประเทศไทย เพราะว่าไม้สักที่มีอายุยืนยาวที่สุดในโลกอยู่ที่อุตรดิตถ์มีอายุ 1500 กว่าปี เพราะฉะนั้นจึงเป็นสัญลักษณ์ที่ดีว่าไม้สักที่ดีที่สุดอยู่ในประเทศไทยเรา
ประธานกรรมการกลุ่มบริษัทพีเอ็มกร๊ป กล่าวว่า ในส่วนธุรกิจไม้สักจะเป็นการดำเนินงานในกลุ่มบริษัทเรา ซึ่งเราเห็นถึงอนาคตในการรักษาสิ่งแวดล้อมโดยการปลูกต้นไม้เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งทีเดียว และในภายภาคหน้าจะพยายามพัฒนาถึงการส่งออก เพื่อเผยแพร่พันธุ์ไม้สักในประเทศไทย และเผยแพร่ชื่อเสียงประเทศไทย โดยประกาศให้ชาวโลกรู้ว่าเรามีไม้สักดีที่สุดในโลก และชักชวนชาวต่างประเทศมาลงทุนในประเทศไทยเราเพิ่มขึ้น
“ส่วนแผนขยายพื้นที่โครงการขณะนี้ขยายถึง 3,500 ไร่แล้ว โดยตั้งใจจะขยายเป็น 5,000 ไร่ต่อไป”นายประยุทธ มหากิจศิริ กล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: