เพชรบูรณ์-“ปวีณา”นำแม่และป้าเด็กนร.สาวถูกล่วงละเมิดทางเพศในโรงเรียน ลงพื้นที่ตรวจสอบห้องกักตัวโควิดสถานที่เกิดเหตุ พบตั้งอยู่จุดไม่ปลอดภัยและหละหลวม
เวลา 11.00 น.วันที่ 26 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีเด็กนักเรียนสาวถูกเด็กนักเรียนชายล่วงละเมิดทางเพศในห้องกักตัวโควิด โรงเรียนประจำแห่งหนึ่งใน จ.เพชรบูรณ์ ล่าสุด นางปวีณา หงสกุล ประธานมูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี นำแม่และป้าเด็กสาวถูกนักเรียนชายล่วงละเมิดทางเพศดังกล่าว ลงพื้นที่โรงเรียนประจำฯในเขตอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นสถานที่เกิด เพื่อตรวจดูห้องกักตัวโควิดและติดตามการดำเนินคดีของทางตำรวจสภ.เมืองเพชรบูรณ์ โดยมี พ.ต.อ.รณฤทธิ สุธาพจน์ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ พร้อมพ.ต.ท.วัชรินทร์ อินทรประพันธ์ รองผกก(สอบสวน) สภ.เมืองเพชรบูรณ์ ร่วมลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุห้องกักตัวนักเรียนสาวป่วยติดเชื้อโควิด โดยมีผู้บริหารโรงเรียนคนใหม่ที่เพิ่งได้รับการโยกย้ายมารับตำแหน่งแทนผู้บริหารคนเก่าฯ ที่ถูกคำสั่งเด้งก่อนหน้านี้นำตรวจสอบ
โดยระหว่างการลงพื้นที่สำรวจสถานที่เกิดเหตุห้องกักตัวอยู่ชั้นสองของตัวอาคารภายในโรงเรียนดังกล่าว นางปวีณาพบอาคารแห่งนี้ ทางขึ้นจะอยู่ทางด้านข้าง ระหว่างทางขึ้นมีลูกกรงเหล็กดัด กั้นทางเข้าออกเอาไว้ ส่วนห้องเกิดเหตุเป็นห้องโล่ง มีตู้และอุปกรณ์เป็นบางส่วน ขณะที่ภายในห้องยังพบกับผ้าห่ม และ หมอน คาดว่าเป็นของผู้ป่วยติดโควิด ใช้งานในช่วงที่ทำการกักตัว
โดยนางปวีณาตั้งข้อสังเกตุว่า อาคารที่กักตัวเด็กนักเรียนหญิงป่วยโควิด สถานที่ไม่เหมาะสมอยู่ที่เปลี่ยวและใกล้หอพักนักเรียนชาย ไม่มีการติดตั้งกล้องวงจรปิด ในขณะที่ครูเวรพักหลับนอนอยู่ในห้องชั้นล่าง ปล่อยให้เด็กนอนอยู่ด้านชั้นบน โดยไม่มีการขึ้นมาตรวจหรือสอดส่องดูสภาพเด็กผู้หญิงบนห้องกักตัว ทำให้ไม่มีความปลอดภัยและเกิดความหละหลวม โดยกำชับผู้บริหารโรงเรียนคนใหม่ให้ปรัยปรุงแก้ไขและไม่ให้เหตุการณ์ทำนองนี้ขึ้นอีก รวมถึงฝากให้กระทรวงศึกษาฯดูแลสถานศึกษาทั่วประเทศ พื่อไม่ให้กิดเหตุการณ์แบบเดียวกันนี้ขึ้นอีก
ด้าน พ.ต.อ.รณฤทธิ์ กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินคดีว่า ขณะนี้อยู่ในชั้นรวบรวมพยานหลักฐาน และเนื่องจากผู้เสียหายและผู้ถูกกล่าวหารวมทั้งพยานที่อยู่ในที่เกิดเกตุ ทั้งหมด เป็นเด็กและเยาวชนการสอบปากคำจึงต้องสอบต่อหน้าสหวิชาชีพ และหากหลักฐานสาวไปถึงใครเป็นร่วมกระทำผิดบ้าง ก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด รับรองว่าคดีนี้ทาง สภ.เมืองเพชรบูรณ์ให้ความสำคัญ และค่อนข้างเป็นคดีที่ละเอียดอ่อนในเรื่องของความผิดเกี่ยวกับลล่วงละเมิดทางเพศเกี่ยวกับเยาวชน โดยมีการตั้งคณะทำงานสอบสวนในคดีนี้ด้วย และวันพรุ่งนี้พยานมีใครบ้างก็จะเชิญมาสอบต่อหน้าสหวิชาชีพ
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อหาผู้ถูกกล่าวรึยัง พ.ต.อ.รณฤทธิ์ตอบว่า ยังเพราะต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานก่อน พอถึงจึงเรียกจึงเรียกตัวแจ้งข้อหาดำเนินคดี ส่วนผู้ถูกกล่าวหาขณะนี้ได้รับแจ้งว่ายังสามารถติดต่อได้ เมื่อถามอีกว่ามีน้องไปกระทำกับเด็กคนอื่นๆ หากไม่มาร้องทุกข์ก็ไม่สามารถดำเนินคดีได้ ผกก.สภ.เมืองฯกล่าวชี้แจงว่า ระบบกฎหมายไทยเป็นระบบกล่าวหา หากไม่มีผู้เสียมาร้องทุกข์ก็ไม่สามารถทำอะไรได้
พ.ต.อ.รณฤทธิ์ยังตอบข้อถามถึงการตั้งหาเบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาจะต้องถูกดำเนินคดข้อหาอะไรว่า เบื้องต้นคาดว่าน่าจะเป็นการข่มขืนกระทำชำเรา ล่วงละเมิดทางเพศ ส่วนจะมีใครกระทำความผิดบ้าง มีส่วนสนับสนุนหรือดูต้นทางอะไรต่างๆต้องดูจากการสอบสวนอะไรต่างๆ โดยผลการสอบสวนสอบไปถึงไหน ซึ่งจะดำเนินคดีไปตามแนวทางสอบสวน
เมื่อถามถึงผลตรวจสอบทางการแพทย์ของเด็กสาว พ.ต.อ.รณฤทธิ์กล่าวว่า ยังไม่ออกต้องร้องขอ อย่างไรก็ตามคาดว่าผลตรวจคงใกล้ออกแล้ว เมื่อถามอีกว่าการที่โรงเรียนทำให้เกิดช่องก่อเหตุขึ้นเป็นความผิดด้วยหรือไม่ ผกก.สภ.เมืองเพชรบูรณ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของการปล่อยปละละเลยของทางโรงเรียนมากกว่า เป็นการควบคุมในส่วนของเด็กชายไม่ให้เข้ามาในส่วนของเด็กผู้หญิง เพราะบริเวณที่เป็นที่ส่วนบุคคลของโรงเรียนมีกฎระเบียบอยู่…
