เพชรบูรณ์-“พายุโนรู”แผลงฤทธิ์ ถล่มอำเภอตอนล่างยับ 2 อ่างน้ำล้นสูงกว่าสปินเวย์ราว 2 เมตร เร่งระบายพื้นที่เขื่อนจมน้ำหนัก อพยพราษฎรกลางดึก
วันที่ 30 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากอิทธิพลพายุโนรู ทำให้มีฝนตกหนักกระจายครอบคลุมทั้งจังหวัดเพชรบูรณ์ แต่พื้นที่ที่ฝนตกหนักได้แก่ อ.วิเชียรบุรี อ.ศรีเทพ อ.บึงสามพันและอ.หนองไผ่ โดยเฉพาะที่ อ.วิเชียรบุรี มีรายงานว่า ที่ต.ท่าโรงโดยเมื่อเวลา 04.00 น.มีปริมาณฝนตกสะสมสูงถึง 158.1 ม.ม. ส่งผลให้มีน้ำท่วมพื้นที่ครอบคลุมทั้งอำเภอ นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกว่า ที่อ.วิเชียรบุรีได้เกิดวิกฤตในข่วงค่ำคืน(29ก.ย.)ที่ผ่านมา หลังมีน้ำป่าไหลเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยเล็ง อ.วิเชียรบุรี เป็นจำนวนมาก ส่งผลให้มีระดับน้ำสูงกว่าสปินเวลย์(ช่องระบายน้ำฉุกเฉิน)ถึง 1.75 เมตร ทำให้น้ำถูกระบายล้นออกสปินเวย์ กระทั่งสร้างผลกระทบพื้นที่ท้ายเขื่อนจำนวนหลายหมู่บ้านของ ต.โคกปรง, ต.น้ำร้อน, ต.ยางสาว ซึ่งถูกน้ำท่วมฉับพลัน
โดยเฉพาะมีบ้านเรือนราษฎรในเขตพื้นที่
หมู่ที่ 11 บ้านวังเตียน ต.โคกปรง ซึ่งหลังถูกน้ำท่วมฉับพลันและกระน้ำไหลเชี่ยวกราก กระทั่งต้องมีการอพยพราษฎรจำนวน 30 ครอบครัวหลบหนีน้ำไปอาศัยที่วัดวังผาในช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมาขณะเดียวกันกระแสน้ำท่วมยังไหลทะลักเข้าท่วมทางเข้าออกหมู่บ้าน เนื่องจากระดับนเพท่วมสูง ทำให้ราษฎรจำนวนราว 100 ครอบครัวถูกตัดขาด นอกจากนี้ยังมีบ้านเรือนราษฎร หมู่ที่ 13 ต.โคกปรง อ.วิเชียรบุรี ถูกกระแสน้ำที่ไหลเข้าท่วมพัดบ้านเรือนจนได้รับความเสียหายจำนวน 2 หลัง
ส่วนที่บ้านสวนยาใหญ่ หมู่ที่ 11 ต.ยางสาว อ.วิเชียรบุรี ชาวบ้านถึงกับร้องขอความช่วยเหลือ หลังกระแสน้ำได้ไหลเข้าท่วมหมู่บ้าน จนต่อมามีการอพยพชาวบ้านขึ้นไปหลบกระแสน้ำขึ้นบนเขาในช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมาเช่นเดียวกัน และที่ต.น้ำร้อน หมู่ 8 บ้านไทรงาม หลังฝนตกแรงทำให้กระแสน้ำพัดคอสะพานขาด และล่าสุดเมื่อช่วงเช้ามืดของวันนี้ มีรายงานว่า ถนนสายโคกปรงเข้าตัวอำเภอวิเชียรบุรี ได้ถูกกระแสน้ำท่วมสูง จนรถทุกชนิดไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้
ส่วนเขตเทศบาลเมืองวิเชียรบุรี หลังฝนตกหนัก ทำให้ถนนหลายสายถูกน้ำท่วมรอการระบาย ตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา ส่งผลให้การจราจรผ่านเส้นทางดังกล่าวมีความลำบาก ส่วนระดับน้ำแม่น้ำป่าสักที่ไหลผ่านเขตเทศบาลฯเริ่มล้นตลิ่ง ส่วนพื้นที่เขตเทศบาล ต.พุเตย เนื่องจากฝนตกหนักทำให้บ้านเรือนราษฎรในชุมชนถูกน้ำท่วมขังเนื่องจากน้ำระบายน้ำไม่ทัน โดยนางจินตนา ทองใจสด นายกเทศมนตรีฯพร้อมเจ้าหน้าที่นำเครื่องสูบน้ำช่วยเร่งสูบน้ำระบายน้ำตามบ้านเรือนราษฎร นอกจากนี้ประกาศขอรับบริจาคถุงบรรจุทราย พร้อมตั้งศูนย์บริการช่วยเหลือประชาชน เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำในคลองกระสังข์และน้ำท่วมบนถนนทางหลวง 21 กม.ที่ 115-116 บริเวณท้ายมอ เขตต.พุเตยอีกด้วย
ส่วนที่ อ.หนองไผ่ มีรายงานว่า จากการที่มีฝนหนักทำให้อ่างเก็บน้ำลำกง ทำให้มีน้ำไหลเข้าอ่างจำนวนมากจนล้นสปินเวย์ โดยระดับน้ำสูงกว่าช่องระบายน้ำฉุกเฉินกว่า 1 เมตร ประกอบมีการเร่งระบายน้ำ จนทำให้บ้านเรือนราษฎรซึ่งอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อน ในเขตต.วังท่าดีถูกน้ำท่วมฉับพลัน โดยเฉพาะที่หมู่ 4,5 บ้านลำพาด, หมู่ 9 บ้านเทิดไท้ มีการอพยพราษฎรที่เด็กคนชราและผู้หญิงรวมทั้งผู้ป่วยราว 30 ราว ออกจากบ้านพักที่ถูกน้ำท่วมไปหลบอาศัยในที่ปลอดภัยที่ศูนย์ช่วยเหลือ อบต.วังท่าดี นอกจากนี้ทางอบต.วังท่าดีและกำนันผู้ใหญ่บ้าน แจ้งเตือนให้ลูกบ้านระมัดระวังนำท่วม โดยให้เร่งขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง
ด้าน อ.ศรีเทพ ฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้น้ำฝนได้ไหลท่วมถนนทางหลวงหมายเลข 21 กม.102+200 บริเวณสี่แยกศรีเทพ ต.สระกรวด ตั้งแต่ช่วงค่ำที่ผ่านมา ระดับน้ำท่วมผิวจราจรสูงราว 30-50 ซม. และแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนการจราจรมีความลำบากรถเล็กผ่านไม่สะดวกและเคลื่อนตัวช้า ทางฝ่ายปกรองอ.ศร้เทพ, ตำรวจ สภ.ศรีเทพ, แขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 2 และกู้ภัยในพื้นที่ จัดกำลังมาช่วยอำนวยความสะดวก พร้อมช่วยเข็นรถที่เครื่องดับกลางคันอีกด้วย
ส่วนที่ อ.บึงสามพัน มีรายงานว่า หลังฝนตกหนักตลอดคืน ทำให้น้ำท่วมขังรอระบายหลายตำบล อาทิ ต.หนองแจง, ต.บึงสามพัน, ต.ซับไม้แดง นอกจากนี้ถนนทางหลวงสาย 225 บริเวณหน้าสหฟาร์มและลานรับซื้อข้าวออเลิศ น้ำท่วมขังสูงราว 20 ซม. รถสัญจรผ่านไปมาได้แต่ไม่สะดวก ส่วนแม่น้ำป่าสักสูงเพียบตลิ่ง ส่งผลให้การระบายน้ำช้าลง จนจะทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมนานขึ้น
นายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ รองผู้ว่าราชการจ.เพชรบูรณ์ ซึ่งรับมอบหม่ยจากผู้ว่าราชการ จ.เพชรบูรณ์ ลวพื้นที่เกาะติดสถานการณ์น้ำท่วมในเขตพื้นที่ตอนล่าง หลังคาดการณ์ว่าพายุโนรูจะสร้างผลกระทบให้แก่พื้นที่ในหลายอำเภอตอนล่างของจังหวัด โดยเฉพาะ อ.วิเชียรบุรี ซึ่งนายชัชวาลย์กล่าวว่า สถานการณ์เป็นไปตามคาดการณ์โดยหลังฝนตกหนักในเขต จ.ชัยภูมิและข้ามเทือกเขาเพชรบูรณ์กั้นไว้อยู่ แต่ก็ยังแผลงฤทธิ์ในเขตพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ โดยเฉพาะเมื่อคืนวันที่ 29 กันยายนต่อเนื่องมาถึงช่วงเช้ามืดของวันที่ 30 กันยายน สถานการณ์ถือว่าค่อนข้างวิกฤต เนื่องจากปริมาณฝนที่ตกสะสมสูงกว่า 150 ม.ม.ในเขตพื้นที่ อ.วิเชียรบุรีทำให้พื้นที่รอบๆมีน้ำป่าไหลหลากและน้ำฝนที่ระบายไม่ทัน ทำให้เกิดภาวะน้ำท่วมฉับพลันในหลายพื้นที่ แต่เนื่องจากมีการประเมินสถานการณ์ไว้แล้ว จึงมีการแก้ไขสถานการ์ณตามแผนปฎิบัติการฯจังหวัดทำให้ลดความเสียหายไปได้มาก
“โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำ 2 แห่งได้แก่ อ่างลำกง ที่อ.หนองไผ่ และอ่างห้วยเล็ง อ.เชียรบุรี เนื่องจากมีน้ำไหลเข้าจำนวนมาก จนระดับน้ำภายในอ่างสูงจากช่องสปินเวย์ราว 2 เมตร โดยถือว่าระดับน้ำสูงที่สุดที่แต่สร้างอ่างเก็บน้ำมา กระทั่งน้ำถูกระบายออกทางสปินเวย์ และถูกเร่งระบายทางช่องประตูน้ำ ทำให้พื้นที่ท้ายเขื่อนซึ่งมีบ้านเรือนราษฎรอาศัยอยู่ ถูกน้ำท่วมและเนื่องจากระดับน้ำท่วมสูง ส่งผลให้มีการอพยพราษฎร หมู่ที่ 13 ต.โคกปรงไปอยู่ในที่ปลอดภัย โดยผมได้เข้าไปเยี่ยมเยือนซึ่งขวัญและกำลังใจของราษฎรเหล่านี้ค่อนข้างดี แต่ทั้งนี้มีเด็กมีอาการป่วยและมีผู้ป่วยผ่าตัดอีก 1 ราย ที่พักในศูนย์อพยพชั่วคราว จึงแจ้งให้ทางผอ.โรงพยาบาลเข้าไปช่วยดูแล”นายชัชวาลย์กล่าว
รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวอีกว่า สำหรับสถานการณ์ตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ ตนประเมินว่า ตอนนี้เราค่อนข้างผ่านสถานการณ์วิกฤตสูงสุดมาแล้ว ตามการคาดการณ์ของทางอุตุฯแจ้งว่า วันนี้(30กย.)มีฝนเหมือนกัน แต่คงน้อยกว่าเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดฯไม่ประมาท เพราะคาดการณ์ว่าฝนตกขนาดนี้ดินชุ่มน้ำมีโอกาสทำให้เกิดผลกระทบได้ ตอนนี้จึงสั่งกำชับเฝ้าระวังในทุกพื้นที่กันอย่างเต็มที่
นายชัชวาลย์กล่าวอีกว่า ส่วนสภาพแม่น้ำป่าสักแม้ตอนนี้จะเต็มประสิทธิภาพแต่ยังไหลได้อยู่ เพราะทางชลประทานเขตลพบุรีแจ้งเมื่อคืนว่า มีการพร่องน้ำสามารถเติมน้ำได้อีกราว 400 ล้าน ลบ.เมตร ทำให้การไหลของแม่น้ำป่าสักลงสู่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ยังรองรับได้ และจากการคาดการณ์น้ำจะไหลออกจากจ.เพชรบูรณ์ราววันละ 100 ลบ.เมตร ฉะนั้นเพชรบูรณ์ยังระบายน้ำสู่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้ 4 วัน ตอนนี้ดูจากข้อมูลแม่น้ำป่าสักยังล้นตลิ่งอยู่บ้าง โดยสถานการณ์ตอนบนของจังหวัดไม่มีปัญหา แต่น้ำมาล้นตลิ่งนอกคันกั้นน้ำตั้งแต่โซน อ.เมืองเพชรบูรณ์ลงมา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่การเกษตร ส่วนพื้นที่ที่อยู่อาศัยไม่มีปัญหา
นายชัชวาลย์กล่าวว่า สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในวันนี้คาดว่าน่าจะลดความรุนแรงลง ส่วนปฏิบัติการในวันนี้ก็คงจะเน้นไปในเรื่องบรรเทาสาธารณภัย โดยเฉพาะบรรเทาความ้ดือดร้อนของราษฎรที่ประสบภัย โดยจะมีหน่วยงานต่างๆทุกฝ่ายทั้งภาคราชการ องค์กรท้องถิ่นและจิตอาสาภาคเอกชนที่จะลงพื้นที่เข้าำปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในพื้นที่ประสบภัยทั้งช่วงน้ำท่วมและน้ำลด
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า ชลประทานเพชรบูรณ์ รายงานวันที่ 30 กันยายน เวลา 07.49 น. ถึงปริมาณเก็ยกักน้ำในอ่างเก็บน้ำ 11 แห่งของ จ.เพชรบูรณ์ โดยอ่างแทบทุกแห่งมีน้ำเก็บกักตั้งแต่ร้อยละ 86-142 ของปริมาณเก็บกัก โดยอ่างเก็บน้ำที่เก็บกักน้ำสูงเกินกว่าร้อยละ 100 ได้แก่ ที่อ.เมืองฯ อ่างป่าแดงร้อยละ 100.35, อ่างเฉลียงลับ ร้อยละ 100.14, อ่างห้วยนา ร้อยละ 102.60, อ่างท่าพล ร้อยละ 142.22, ที่อ.หนองไผ่ อ่างลำกง ร้อยละ 111.79, ที่อ.วิเชียรบุรี อ่างห้วยเล็ง ร้อยละ 108.25
รายงานข่าวเพิ่มเติมว่า เวลาราว 10.00 น.วันนี้ ชุดอาสากู้ภัยร่วมกตัญญูพุเตยนำโดยนายศราวุธ โชติวรรณ หัวหน้าชุดฯ นำเรือท้องแบนออกช่วยเหลือครอบครัวผู้ประสบภัยซึ่งมีทั้งเด็ก-ผู้หญิงและคนชรารวม 4 คน ติดค้างอยู่ในบ้านพักหมู่ที่ 4 บ้านโคกสำราญ ต.น้ำร้อน อ.วิเชียรบุรี ซึ่งระดับน้ำท่วมสูงกว่า 1 เมตรและไหลเชี่ยวกราก โดยมีผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ช่วยนำทาง กระทั่งช่วยอพยพมาอาศัยอยู่ในที่ปลอดภัย
นายศราวุธ โชติวรรณ กล่าวว่า สถานการณ์วันนี้ยังคงเป็นการปฏิบัติการให้ความช่วยเหลืออพยพผู้ประสบภัยที่บ้านพักถูกน้ำท่วมสูงเป็นส่วนใหญ่ ส่วนสถานการณ์เมื่อคืนนี้วิกฤตกว่า ส่วนงูที่จับได้นั้นเป็นงูเหลือมซึ่งหนีน้ำท่วมเช่นกัน โดยระหว่างที่ตนอำนวยความสะดวกบนถนนทางหลวงสาย 21 สีแยกศรีเทพเมื่อคืนนี้ ซึ่งพบงูเหลือมตัวนี้พยายามเลื้อยฝ่ากระแสน้ำเพื่อจะพยายามข้ามถนนที่ถูกน้ำท่วม ตนจึงจับและให้อาสาสมัครกู้ภัยช่วยนำไปปล่อยบริเวณพื้นที่ห่างไกลบ้านพักชาวบ้าน
