เพชรบูรณ์-นายก ส.อนุรักษ์ยาเส้นฯ ตัดพ้อรัฐเมินเกษตรกรยาเส้น อุ้มแต่กลุ่มใบยา
วันที่ 14 ต.ค.65 นายภคิน วลโภคาศัย นายกสมาคมอนุรักษ์ยาเส้นพื้นเมืองไทย กล่าวว่า กลุ่มของยาเส้นและกลุ่มยาใบถูกบังคับใช้กฏหมายตัวเดียวกัน แต่ผลลัพธ์คือกลุ่มเกษรตรกรของยาใบ จะได้รับการดูแลภาครัฐอยู่เสมอ มีการชดเชยรายได้หากลดพื้นที่เพาะปลูก แต่กลุ่มเกษตรกรของยาเส้น กลับต้องพึ่งพาตัวเองไร้การเหลียวแลจากภาครัฐ ทั้งๆที่ปัญหาเกิดจากการปรับอัตราภาษีแบบก้าวกระโดด ทำให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น(ภาษีอากรแสตมป์) ระบบการขายสินค้าจึงชะลอตัว ทั้งการยาสูบ และผู้ประกอบการยาเส้น จึงเป็นสาเหตุหลักของการลดจำนวนพื้นที่การเพาะปลูก
นายกสมาคมอนุรักษ์ยาเส้นพื้นเมืองไทย กล่าวว่า ในฐานะผู้ประกอบบุหรี่ของการภาครัฐ และผู้ประกอบการยาเส้นของภาคเอกชน จึงจำหน่ายสินค้าได้น้อยลง ส่งผลให้รับซื้อยาใบและยาเส้นน้อยลง รวมทั้งการแทรกแซงสินค้าเปรียบเทียบอย่างบุหรี่เถื่อน ยาเส้นเถื่อน บุหรี่นำเข้าที่ราคาถูก และบุหรี่ไฟฟ้า
ข่าวน่าสนใจ:
“หากต้องการเยียวยา หรือช่วยเหลือเกษตรกรผู้เพาะปลูกยาใบจริง ควรปรับอัตราภาษีสรรพสามิตบุหรี่ ยาเส้นให้คงเดิม เป็น 0.025 บาทต่อกรัม และเปิดโอกาสให้เอกชนในประเทศสามารถประกอบอุตสาหกรรมบุหรี่เอง ยกเลิกกิจการบุหรี่เป็นกิจการผูกขาดของรัฐ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายยาใบ” นายภคินกล่าว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: