เพชรบูรณ์-สุดเอือมแก๊งวัยรุ่น พฤติกรรมดิบเถื่อน ทั้งไม้-มีดยกโขยงไล่ล่าคู่อริ ชาวบ้านทนไม่ไหวใช้โซเชียลกระจายข่าว
วันที่ 19 ต.ต.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สังคมโซเซียลมีเดียใน จ.เพชรบูรณ์ สุดเอือมระอาและเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมความดิบเถื่อนของแก๊งวัยรุ่นที่ยกโขยงไล่ล่าวัยรุ่นคู่อริ ที่หลบหนีเข้าไปในหมู่บ้าน บริเวณหน้าสถานพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งในเขตพื้นที่ อ.เมืองเพชรบูรณ์ กระทั่งมีหญิงผู้ดูแลหมู่บ้านที่กลุ่มวัยรุ่นยกโขยงไปก่อเหตุ ทนพฤติกรรมแบบอันธพาลครองเมืองของวัยรุ่นกลุ่มนี้เหล่านี้ไม่ไหว จึงได้นำคลิปจากกล้องวรจรปิดที่ถ่ายบันทึกไว้ พร้อมคลิปจากมือถือที่ชาวบ้านแอบถ่ายไว้ โพสต์เผยแพร่ทางสื่อโซเชียลมีเดียพร้อมระบุว่า “เก่งจริงๆ นักเลง ลูกหลานใครซูมดูเอา ก่อแต่ความวุ่นวาย ชาวบ้านแถวนี้ไม่ต้องหลับต้องนอนอยู่อย่างระแวง เจ้าของบ้านที่ให้เช่า มีความผิดน่ะ ไล่ทุบไล่ตีกัน เหมือนบ้านป่า เมืองเถื่อน @@ หาความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินไม่มีเลย ##เหนือการควบคุม”
ทั้งนี้หญิงผู้ดูแลหมู่บ้านดังกล่าวซึ่งเป็นเผยแพร่คลิปฯระบุว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่คืนวันที่ 12 ตุลาคมต่อเนื่องวันที่ 13 ตุลาคม เวลาราว 01.20 น.ที่ผ่านมา เนื่องจากมี 2 วัยรุ่นพี่น้องในหมู่บ้านไปมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกับโจ๋วัยรุ่นอีกกลุ่มนอกหมู่บ้านจนถูกรุมทำร้าย จากนั้นจึงขับรถจักรยานยนต์หลบหนีเข้ามาในหมู่บ้าน โดยถูกกลุ่มวัยรุ่นคู่อริขับรถจักรยานยนต์ตามไล่ล่ามาเพื่อจะทำร้าย โดยบางคนมีอาวุธทั้งไม้และมีดกันครบมือ ในขณะที่บางคนอาจจะมีปืนด้วย และหลังจากค้นหาแต่ไม่เจอคู่อริ ก่อนกลับวัยรุ่นกลุ่มนี้ยังขว้างปาคล้ายระเบิดปิงปองอีก จนทำให้ชาวบ้านที่พักอาศัยในหมู่บ้าน ต่างหวาดกลัวไม่มั่นใจในความปลอดภัยทั้งชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง นอกจากนี้ยังขวัญหนีดีฝ่อกลัวถูกลูกหลงอีกด้วย
ผู้ดูแลหมู่บ้านกล่าวอีกว่า หมู่บ้านตรงนี้เป็นหมู่บ้านสหกรณ์หรือหมู่บ้านมั่นคงโดยมีจำนวนราว 400 หลังคาเรือน และส่วนหนึ่งจะเป็นบ้านเช่าเยอะ ทำให้มีเด็กวัยรุ่นมาเช่าอยู่กันค่อนข้างมาก โดยเหตุการณ์ลักษณะนี้เกินการควบคุมของทางผู้ดูแลกิจการในหมู่บ้าน ซึ่งไม่รู้จะทำอย่างไรจึงต้องอาศัยสื่อโซเซียลช่วยกระจายข่าว เพื่อให้รู้ว่าเราเดือดร้อนเพราะว่า เคยแจ้งไปยัง 191 สายตรวจก็มาแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“ยิ่งเดี่ยวนี้ทั้งกระท่อมและกัญชาเสรีอีก ทำให้เหนือการควบคุม ผู้ที่อาศัยในหมู่บ้านก็อยากพักผ่อน ไม่อยากมีเรื่องมีราว แต่เกิดเหตุแบบนี้ซ้ำซากกลัวโดนลูกหลงไปด้วย ดิฉันในฐานะผู้ตรวจฯ ไม่รู้จะทำอย่างไรจึงตัดสินใจพึ่งโซเชียลด้วยการโพสต์ลงเฟซบุ๊กดังกล่าว”ผู้ดูแลหมู่บ้านกล่าว
