เพชรบูรณ์ ภัยยาบ้า! ตรวจพบสาวจิตเวชฉี่ม่วง หลังก่อเหตุปาก้อนหินใส่รถที่วิ่งตามถนน
เพชรบูรณ์ โทษภัยของยาบ้า สาววัย 20 ปีเศษ เสพยาบ้าจนเกิดอาการป่วยจิตเวช ก่อเหตุใช้ก้อนหินขว้างปาใส่รถยนต์ที่วิ่งไปมา บริเวณหน้าบ้าน จนชาวบ้านทนไม่ไหวต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ควบคุมตัวสติอารมณ์ และส่งเข้ารักษาตัว
วันที่ 22 ธันวาคม 2565 โครงการ “ รีเอ๊กเรย์ “ ค้นหาผู้เสพยาเสพติด ( ยาบ้า ) ยังคงเข้มข้น วันนี้ กำลังเจ้าหน้าที่ ตำรวจ ปกครอง ผู้นำหมู่บ้าน โรงพยาบาล อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ยังคงร่วมกันตรวจคัดกรองหาผู้เสพยาบ้า และดำเนินคดีกับผู้ค้า โดยทำการตรวจปูพรมคัดกรองอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำตัวผู้เสพ ไปเข้าสู่กระบวนการบำบัด หวังคืนคนดีกลับสู่สังคม ซึ่งจนถึงขณะนี้ สามารถ นำตัวผู้เสพ จำนวน 641 ออกมาทำการบำบัดเพื่อร่วมกระบวนการเลิกยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด โดยจะมีการนำผู้เสพ มาทำกิจกรรมเพื่อสังคม และการตรวจหาสารเสพติด สัปดาห์ล่ะ 1 ครั้ง พร้อมทั้งจะทำการตรวจฉี่เพื่อหาสารเสพติดกับผู้เข้ากระบวนการ รีเอ๊กซ์เรย์ ซึ่งทั้งนี้พบว่า กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ ตรวจไม่พบการใช้สารเสพติดในร่างกายแล้ว ส่วนผู้ที่ยังคงตรวจพบการใช้สารเสพติด ในอนาคต หากยังไม่เลิกยุ่งเกี่ยว หรือ ไม่เลิกเสพ ก็จะใช้ข้อกฎหมายในการดำเนินคดี ซึ่งถือเป็นทางเลือกสุดท้าย ของโครงการ
ขณะเดียวกัน ก็มีรายงานว่า สาววัย 20 ปี เศษ ชาวตำบลซับไม้แดง อำเภอบึงสามพัน จังหวัดเพชรบูรณ์ ผู้ป่วยจิตเวช จากการเสพยาบ้า ก่อเหตุใช้ก้อนหินขว้างปาใส่รถยนต์ที่วิ่งผ่านไปตามตามถนนเส้นทางสายหลัก สายบึงสามพัน-นครสวรรค์ แต่โชคดีที่ไม่มีรถยนต์ได้รับความเสียหาย ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่งานปกครอง พร้อมกำลัง อส.ได้ลงพื้นที่เจรจา นานนับชั่วโมง กว่าจะสามารถพาตัวสาวรายดังกล่าว ไปทำการรักษาตัวที่โรงพยาบาลบึงสามพัน ซึ่งจากการตรวจหาสารเสพติด พบฉี่เป็นสีม่วง
จากการสอบถาม หนึ่งในผู้เสพ ที่เข้าสู่กระบวนการ เล่าว่า ตนเองอยากจะเลิกยาเสพติด เพราะลูกโตแล้วครอบครัวด้วย ตนเองเสพมานาน 20 ปี แล้ว เคยถูกจับกุมมา 4 ครั้ง แล้ว เพื่อนเป็นคนชวนตอนไปทำงาน แต่อยากจะเลิก ตอนแรกคิดว่าเสพยาบ้า เพื่อจะให้ขยัน แต่ไม่จริง อดหลับอดนอนทำให้ทรุดโทรมลง อยากบอกทุกคน ตนเองผ่านอะไรมาเยอะ ทั้งติดคุก ทั้งต้องเสียลูกเสียเมีย เพราะยา กว่าจะสร้างครอบครัวขึ้นมาได้ใหม่ ตนมองว่ามันไม่ดี
ด้าน นายสมพงษ์ ทองหนูนุ้ย นายอำเภอบึงสามพัน กล่าวว่า โครงการรีเอ๊กซ์เรย์ ผู้ใช้ยาเสพติดของอำเภอบึงสามพัน มีการคัดกรองผู้เสพแล้ว 641 ราย ทั้งหมดเข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูอยู่ ผ่านกระบวนการบำบัด 4 ครั้งแล้ว จำนวนผู้เสพ พบลดลง 60 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือเราจะดำเนินการบำบัดอีกรอบ
หลังจากนั้นถ้าผ่านหรือไม่ผ่าน เราจะมีมาตรการเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ เป็นการให้โอการสกับผู้เสพให้เป็นคนดี คืนสู่สังคม ส่วนผู้ที่ไม่สามารถเลิกยาได้ ก็จะใช้มาตรการทางกฎหมาย เป็นมาตรการสุดท้าย สำหรับประชาชนผู้ใช้ยาเสพติด และประสงค์เลิกยา มีเพิ่มขึ้นมาเรื่อย ที่จะเดินเข้ามาหา ซึ่งบุคคลเหล่านี้ สามารถเดินเข้าหา ที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ โรงพยาบาล กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ซึ่งตอนนี้ได้มีผู้จะเลิกเสพจะเข้าสู่กระบวนการติดต่อเข้ามาเรื่อย ๆ
