เพชรบูรณ์-แทบแตก! นทท.ไทย-เมียนมากว่า 2 หมื่นคน เที่ยววัดผาซ่อนแก้วฯเขาค้อ กราบขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปีใหม่ 2566
วันที่ 31 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่อ.เขาค้อ บรรยากาศวันหยุดยาวเทศกาลปีใหม่เป็นด้วยความคึกคัก โดยเฉพาะที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว ตำบลแคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ปรากฎว่าตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ได้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติกว่า 20,000 คน โดยเฉพาะชาวเมียนมาต่างพากันแห่หลั่งไหลเข้าไปที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว เพื่อกราบสักการะพร้อมเที่ยวชมศาสนสถานดังกล่าวกันอย่างล้นหลาม โดยถนนทางเข้าทั้ง 4 ช่องทางเกิดปัญหารถติดหนักตั้งแต่เวลาราว 07.00 น.ที่ผ่านมา โดยนักท่องเที่ยวใช้ระยะเวลาถึง 1 ชั่วโมงกว่าจะเดินทางไปถึงวัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว นอกจากนี้ทางเดินภายวัดฯ บรรดานักท่องเที่ยวต่างต้องเดินกันอย่างเบียดเสียดอีกด้วย
นายเอกชัย เกษกรณ์ ช่างภาพอิสระ จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวแห่มาเที่ยวที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเยอะมากกว่าทุกครั้ง โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวเมียนน่าจะมีจะนวนมากถึง 80 เปอร์เซนต์ โดยสภาพบนถนนภายในบริเวณวัดฯ นักท่องเที่ยวต่างพากันเดินเบียดเสียดจนไหล่แทบกระทบกัน และจากการสังเกตขณะที่ตนเดินทางมาที่วัดฯเมื่อช่วงเช้านี้ พบเห็นรถบัสของนักท่องเที่ยวชาวเมียนมา กระจายจอดตามจุดรถต่างๆ อาทิ ปั้มน้ำมัน, ลานจอดขายสินค้าที่ระลึก, ลานจอดโรงแรมรีสอร์ตที่พัก ฯลฯ เป็นจำนวนมาก
ข่าวน่าสนใจ:
“เนื่องจากเป็นหยุดยาวติดต่อกันหลายวันและเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะเดียวกันหลังโควิด-19 ซาลงทำให้ทุกคนอยากเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวเมียนมาชื่นชอบมาเที่ยววัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว สาเหตุปัจจัยหนึ่งอาจเพราะมีความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนาที่ใกล้เคียงกัน จึงต้องการมากราบสักการะเพื่อความเป็นศิริมงคลในช่วงเทศกาลปีใหม่”นายเอกชัยกล่าว
นายเอกชัยกล่าว เนื่องจากเป็นหยุดยาวติดต่อกันหลายวันและเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะเดียวกันหลังโควิด-19 ซาลงทำให้ทุกคนอยากเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อน ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวชาวเมียนมาชื่นชอบมาเที่ยววัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว สาเหตุปัจจัยหนึ่งอาจเพราะมีความเลื่อมใสศรัทธาในพุทธศาสนาที่ใกล้เคียงกัน จึงต้องการมากราบสักการะเพื่อความเป็นศิริมงคลในช่วงเทศกาลปีใหม่ นอกจากนี้ทิวทัศน์และสภาพอากาศที่หนาวเย็นทำให้นักท่องเที่ยวชาวเมียนมาชื่นชอบที่จะมาที่วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว นอกจากนี้ยังเห็นนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆรอบบ้านเรา อาทิ จีน ลาว เขมร ฯลฯ เพิ่มขึ้นอีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: