เพชรบูรณ์-กลุ่ม ผรท.เข็กน้อย 22 ครอบครัว มุ่งหน้ากลับภูมิลำเนาเดิม”ภูขี้เถ้า” หลังเรียกร้อง 42 ปีไม่คืบ รัฐบาลหมดทางแก้
เวลา 08.30 น.วันที่ 1 มีนาคม นายหน่อใจ แซ่หลอ แกนนำกลุ่มผู้ร่วมพัฒชาชาติไทย(ผรท.)เข็กน้อย พร้อมคณะจำนวน 22 ครอบครัว 177 ชีวิต ได้เดินทางโดยรถยนต์ปิ๊กอัพจำนวน 3 คัน ออกจากบ้านเข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เพื่อมุ่งหน้ากลับภูมิลำเนาภูมิเดิมที่บ้านภูขี้เถ้า ต.กกสะทอน จ.เลย โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาลจ.เพชรบูรณ์ ซึ่งก่อนหน้าที่ทางกลุ่มผรท.โดยนายหน่อใจ ได้แจ้งขอให้ช่วยดูแลอำนวยความสะดวกระหว่างเดินทาง เพื่อป้องกันผู้ไม่หวังดีซึ่งอาจจะสร้างสถานการณ์ ร่วมเดินทางเพื่อสังเกตุการณ์ไปด้วย
นายหน่อใจ แซ๋หลอ กล่าวว่า เป้าหมายในวันนี้ทางกลุ่มฯต้องการเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมที่บ้านภูขี้เถ้า ซึ่งเดิมในอดีตบ้านภูขี้เถ้าเป็นสมรภูมิรบระหว่างพรรคคอมมิวนิสต์กับรัฐบาล แต่หลังนโยบาย 66/2523 พวกเราได้ออกมาเป็นผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย โดยรัฐบาลสมัยนั้นมีเงื่อนไขจะดูแลพร้อมมอบที่ดินทำกินให้ ต่อมารัฐบาลดำเนินการไม่สำเร็จ โดยพวกเราเดินทางกลับไปบ้านภูขี้เเถ้าครั้งแรกเมื่อปี 2558 ถูกทางราชการจับกุม แต่ศาลฎีกาได้ยกฟ้อง กระทั่งทางรัฐบาลมีนโยบายแก้ไขปัญหาให้ โดยการหาที่ดินชดเชยให้ในส่วนที่พื้นที่ภูขี้เถ้าที่ถูกประกาศเป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติไป แต่ถึงปัจจุบันก็ยังหาที่ดินชดเชยให้ทางกลุ่มไม่ได้
“เป็นระยะเวลา 42 ปีมาแล้วที่พวกเรารอคอยและเรียกร้องมาโดยตลอด แต่เมื่อที่ผ่านมาในหลายรัฐบาลแล้วก็ยังทำไม่ได้ ฉะนั้นเรายืนยันว่าเราเคยอยู่อาศันบนพื้นที่นี้มาก่อน จึงขอกลับภูมิลำเนาเดิม”นายหน่อใจกล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
แกนนำกลุ่ม ผรท.กล่าวอีกว่า จริงๆ เรื่องนี้ไม่มีใครผิด เราเองก็ไม่ผิด รัฐบาลและหน่วยงานก็ไม่ผิด ที่ผิดก็คือกฎหมายโดยเมื่อวันที่ 6 ก.ค.2527 ซึ่งมีการประกาศพื้นที่อุทยานฯทับหมู่บ้านภูขี้เถ้าและที่ดินทำกินของพวกเรา ที่ผ่านมาทางราชการและหน่วยงานรับทราบมาตลอด แต่ไม่สามารถแก้ไขอะไรให้ได้ แต่โยนกันไปมาเป็นการซื้อเวลา โดยให้พวกเราล้มหายตายจากเป็นเวลา 42 ปีมาแล้ว กลุ่มฯพวกเราจึงมีความจำเป็นต้องเดินทางไปที่บ้านภูขี้เถ้า
นายหน่อใจกล่าวว่า อีกเหตุผลคือบ้านภูขี้เถ้าคือพื้นที่ของบรรพบุรุษอยู่อาศัยมาช้านาน จึงมีความผูกพันและเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมประเพณีที่ยึดถือมานาน จนกลายเป็นบาดแผลของพวกเราที่ไม่สามารถเยียวยาได้เพราะเป็นรากเหง้าของกลุ่มชาติพันธุ์ม้ง ในขณะที่พวกเรายินดีให้ความร่วมมือกับทุกหน่วยงานและทางรัฐบาล และหวังว่าจะได้รับการแก้ไขภายในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยเฉพาะคำสั่ง 56/2558 ออกมาแล้วแต่ไม่มีผลในทางปฎิบัติ พวกเราจึงมีความจำเป็นต้องเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมในวันนี้
รายงานข่าวแจ้งว่า เวลา 11.00 น.คณะกลุ่ม ผรท.นำโดยนายหน่อใจ ซึ่งได้เดินทางเข้าสู่พื้นที่เขตอุทยานภูหินร่องกล้า ต.เนินเพิ่ม อ.นครไทย แต่ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯด่านห้วยน้ำไซราว 30 นาย กักไว้ขอเพื่อตรวจเอกสารและวัตถุประสงค์ในการเจ้าพื้นที่อุทยานฯ โดยยังไม่ยอมปล่อยให้คณะกลุ่ม ผรท.ผ่านไปได้ ล่าสุดอยู่ระหว่างนายหน่อใจเจรจากับคณะเจ้าหน้าที่พร้อมแสดงหลักฐานต่างๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: