X

(มีคลิป) เพชรบูรณ์-คณะจนท.จับรุกป่าริมถนนสาย 12 พบกำลังปลูกสร้างที่พักตากอากาศ ร้านกาแฟ โดยไม่ได้รับอนุญาต

เพชรบูรณ์-คณะ จนท. จับรุกป่าริมถนนสาย 12 พบกำลังปลูกสร้างที่พักตากอากาศ ร้านกาแฟ โดยไม่ได้รับอนุญาต

วันที่ 25 มี.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 24 มี.ค.66 คณะเจ้าหน้าที่ ศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า(ศปก.พป.)นำโดยพ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หน.ชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน., ชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ นำโดยนายสมชาย ฉิมแย้ม, สจป.ที่ 4 สาขาพิษณุโลก, อุทยานแห่งชาติเขาค้อ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2 (เขาค้อ)จ.เพชรบูรณ์ ร่วมกันเข้าตรวจสอบพื้นที่ตามข้อร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างที่พักตากอากาศ ร้านกาแฟและสิ่งปลูกสร้างใหม่หลายแห่งในพื้นที่ป่าริมทางหลวงหมายเลข 12 ท้องที่ หมู่ 7 บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

จากการตรวจสอบขั้นต้นพบว่าจุดที่กำลังก่อสร้างเป็นพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 อยู่ในโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ต.ค. 2546 เพื่อป้องกันและบรรเทาการเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2544 จำนวนเนื้อที่ 132,626 ไร่ และบริเวณที่ก่อสร้างไม่มีการสำรวจการถือครองตาม มติ ครม.30 มิ.ย.41 แต่อย่างใดเมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุ พบคนงานกำลังทำงานก่อสร้างอาคารคอนกรีต จำนวน 4 คน มีนายกฤษดาอายุ 51 ปี เป็นหัวหน้าคนงาน ให้การว่ารับจ้างจากนายเซ่งให้ก่อสร้างอาคารคอนกรีต 3 ชั้น เพื่อทำเป็นที่พัก โดยเริ่มก่อสร้างเมื่อวันที่ 8 ก.พ.66 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงให้ตามเจ้าของมาพบ ซึ่งต่อมานายเซ่งอายุ 64 ปี ได้มาแสดงตัวเป็นเจ้าของครอบครองที่ดินบริเวณที่ตรวจสอบประมาณ 25 ไร่ ต่อจากบิดาซึ่งเสียชีวิตนานแล้ว

เจ้าหน้าที่สอบถามที่ดินที่ก่อสร้างว่ามีเอกสารสิทธิ์ที่ดินหรือไม่ เจ้าของให้การว่าไม่มี
แต่มี ภบท.5 เจ้าหน้าที่สอบถามว่าได้มีการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร จากเทศบาลตำบลแคมป์สนหรือไม่ ให้การว่าไม่ได้ขออนุญาตเนื่องจากไม่ทราบ ตรวจสอบบริเวณติดกับพื้นที่ก่อสร้าง พบมีการตัดต้นไม้ใหญ่คาตออีก 1 ต้นตรวจสอบในพื้นที่ครอบครองของนายเซ่งฯ พบว่ามีบ้านหรูสร้างใหม่จำนวน 3 หลัง, ร้านกาแฟ 1 หลัง และอยู่ระหว่างกำลังก่อสร้างอีก 2 หลัง รวม 6 หลัง ซึ่งสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด นายเซ่งยอมรับเป็นของตนเองคนเดียว โดยคณะเจ้าหน้าที่ได้ให้นายเซ่ง เจ้าของนำชี้ขอบเขตที่ดินที่ครอบครอง และจับค่าพิกัดมาคำนวณพื้นที่ ได้เนื้อที่ 37 – 0 – 20 ไร่

ตรวจสอบภาพถ่ายปี 2545 และปี 2556 บริเวณจุดตรวจสอบ ยังคงมีสภาพป่าสมบูรณ์ ไม่มีการทำประโยชน์มาก่อน แต่เริ่มปรากฏร่องรอยการปรับพื้นที่ในเดือน ตุลาคม 2557 ซึ่งเป็นการบุกรุกป่าใหม่ไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ยังตรวจข้อมูลคดีของกรมป่าไม้ไม่พบการตรวจยึดพื้นที่บริเวณตรวจสอบมาก่อน

ตรวจสอบข้อมูลการสำรวจการถือครองที่ดิน ไม่พบว่ามีการสำรวจ 30 มิ.ย.41 จุดที่กำลังก่อสร้างใหม่ แต่พื้นที่ติดกันพบการสำรวจการถือครอง 30 มิ.ย.41 เป็นชื่อของนายเซ่งฯครอบครองพื้นที่ 20 – 3 – 68 ไร่ จึงเป็นการบุกรุกขยายพื้นที่ทำกินเดิม ซึ่งผิดเงื่อนไขการทำกินในเขตป่าไม้ตาม มติ ครม.30 มิ.ย.41 จึงตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมดดำเนินคดี

ตรวจสอบกับเทศบาลตำบลแคมป์สน แจ้งว่าสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด 4 หลัง และที่กำลังสร้างใหม่อีก 2 หลัง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ครอบครองของนายเซ่ง ไม่มีการขออนุญาตก่อสร้างอาคาร แต่อย่างใด

คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วการกระทำของนายเซ่งฯ และผู้ที่เกี่ยวข้อง เป็นการกระทำความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 ม.54 ประกอบ ม.72 ตรี และ ม.55 และพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 ม.21 จึงตรวจยึดพื้นที่ รวมจำนวน 37 – 0 – 20 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเบื้องต้นเป็นเงิน จำนวน 4,303,366.-บาท ร่วมกันจัดทำบันทึกตรวจยึด นำส่ง พงส.สภ.เขาค้อ เพื่อดำเนินคดีกับนายเซ่งฯ และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป โดยมอบหมายให้ หน.โครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน สบอ.11 และนายกเทศมนตรีตำบลแคมป์สนเป็นผู้กล่าวโทษ และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2(เขาค้อ) เป็นพยาน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน