เพชรบูรณ์-“พ.อ.พงษ์เพชร”จี้จังหวัดฯทบทวนนโยบายสร้างรีสอร์ตโฮมสเตย์ก่อนจดแจ้งภายหลัง พบผิดปกติที่ดินผาหัวสิงห์แค่แปลงเดียว แต่มีผู้จดแจ้งสร้างรีสอร์ตถึง 3 ราย
วันที่ 29 กรกฎาคม พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. กล่าวถึงการบุกรุกก่อสร้างอาคารที่พักตากอากาศ(รีสอร์ต) บริเวณผาหัวสิงห์ บนภูทับเบิก ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ว่า ระหว่างลงพื้นที่ขยายผลตรวจสอบรีสอร์ตบริเวณผาหัวสิงห์ภูทับเบิก เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีเจ้าหน้าที่หลายหน่วยงานในพื้นที่ร่วมตรวจสอบ จากการตรวจสอบพบสิ่งผิดปกติ โดยที่ดินแค่แปลงเดียว ซึ่งได้รับอนุญาตจากทางหน่วยงาน พม.ในพื้นที่เพียงคนเดียว แต่ไปจดแจ้งเพื่อประกอบธุรกิจบ้านพักตากอากาศโฮมสเตย์ตามกฎกระทรวงถึง 3 ราย จึงตั้งข้อสังเกตุว่าเป็นการหลบเลี่ยงบาลี ที่อนุญาตให้ทำรายละไม่เกิน 4 หัอง แต่มีการซอยเป็น 3 เจ้าของ
“ในประเด็นนี้ผมสอบถามทางฝ่ายปกครองอำเภอหล่มเก่าซึ่งรับจดแจ้งว่า แบบนี้มีมาตรการอย่างไร ก็ได้รับคำตอบว่าเมื่อมีผู้มายื่นจดแจ้งก็รับหมด จึงสงสัยว่าหากเป็นแบบนี้จะแก้ปัญหาได้อย่างไร โดยเฉพาะหากมีการตรวจสอบจับกุม โดยผู้ต้องหาอ้างว่า ทางฝ่ายปกครองอนุญาตแล้ว ก็จะกลายเป็นปัญหาในข้อกฎหมายตามมาไม่จบสื้น จึงคิดว่าเรื่องนี้ต้องมีการทบทวนกันใหม่”พ.อ.พงษ์เพชรกล่าว
พ.อ.พงษ์เพชรกล่าวอีกว่า หากมีการสแกนพื้นที่ที่ทาง พม.ขอใช้ ตนคิดว่ามีรีสอร์ตบ้านพักตากอากาศที่ถูกต้องจริงๆ เหลือเพียงไม่กี่ราย นอกจากนี้ยังส่อผิดกฎหมายเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะที่กำลังผุดขึ้นใหม่ ซึ่งขณะที่ตนลงพื้นที่ตรวจสอบล่าสุด พบมีสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ตบ้านพักตากอากาศทีกำลังก่อสร้างใหม่หลายแห่งแถวๆ บริเวณผาหัวสิงห์
ข่าวน่าสนใจ:
หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. กล่าวอีกว่า สรุปสถานการณ์บริเวณผาหัวสิงห์ ตลอดแนวหน้าผาด้านเหนือและใต้ โดยด้านบนมีตึกอาคารที่กำลังสร้างใหม่ตามที่เป็นข่าว(ตรวจยึดจับกุมแล้ว)บดบังอยู่ ส่วนทางด้านใต้มีรีสอร์ตที่ขยายผลตรวจยึดจับกุมเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคมที่ผ่านมาอีก 2 แห่ง เพราะฉะนั้นกรณีแบบนี้ไม่ควรมีการกระทำผิดกฎหมายเกิดขึ้น และต้องมีการเข้มงวดกวดขันให้เข้มข้นขึ้น
“ส่วนการจะรื้อถอนมีเครื่องมือพิเศษอยู่แล้วคือ คำสั่ง หน.คสข.ที่ 35/2559 ซึ่งยังไม่ยกเลิกและคำสั่งนี้ทางจังหวัดมีการอออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการอะไรต่างๆ โดยเฉพาะการแต่งตั้งพิจารณาการจดแจ้ง ซึ่งผมก็แปลกใจว่าทำไมคณะกรรมการเหล่านี้ไม่ได้ดำเนินการให้เข้มข้นจริงจังหรือมีการคัดกรองก่อนแต่อย่างไร ไม่ใช่ให้ไปก่อสร้างก่อนแล้วไปจดแจ้งกันในภายหลัง และหากถ้าไม่ได้รับอนุญาตแต่ก่อสร้างเสร็จแล้วจะมีผลอย่างไร ซึ่งเป็นปัญหาหลัก”พ.อ.พงษ์เพชรกล่าวย้ำและว่า “ผมจึงอยากให้มีการทบทวนในเรื่องนี้ใหม่ ซึ่งคณะเจ้าหน้าที่จะดำเนินการได้ในเวลานี้ก็คือ พื้นที่บริเวณนอกเขต พม.ขอใช้พื้นที่ก่อน เพราะในส่วนพื้นที่ที่เป็นปัญหามีคณะกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งจากทางจังหวัด ต้องมาคัดกรองกันใหม่ ไม่งั้นแก้ปัญหาไม่ได้”
พ.อ.พงษ์เพชรกล่าวว่า นอกจากนี้จากการข่าวหรือการลงพื้นที่ตรวจสอบเอง รวมทั้งข้อมูลจากนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ รีสอร์ตบ้านพักตากอากาศบนภูทับเบิกส่วนหนึ่งมีนายทุนนอกพื้นที่มีเอี่ยวอยู่เบื้องหลังแทบทั้งสิ้น เพียงแต่รีสอร์ตเหล่านี้มีวิธีการหลบเลี่ยง อาทิ การจดแจ้งทำธุรกิจใช้คนในพื้นที่เป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งประเด็นนี้ผมก็สอบถามทางฝ่ายปกครองว่า มีที่ดินแปลงเดียวจะจดแจ้ง 10 รายทำได้หรือไม่ ก็ได้รับคำตอบว่ารับจดแจ้งทั้งหมด ซึ่งตามข้อเท็จจริงขณะนี้ที่ดินบนภูทับเบิกมีการซื้อขายเปลี่ยนกันเกือบหมดแล้ว โดยเฉพาะรีสอร์ตที่กำลังก่อสร้างใหม่ แต่พอเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็จะได้รับแจ้งว่า นายคนนี้แซ่นี้เป็นผู้ได้รับอนุญาต และพอถูกตรวจสอบก็นำคนนี้มารับและออกหน้าเป็นเจ้าของที่ดิน ล่าสุดตนมีโอกาสสอบปากคำเจ้าของที่ดิน ก็ยังบอกว่าไม่รู้จักผู้ที่ไปจดแจ้งเลย ลักษณะแบบนี้ในพื้นที่จะบอกไม่รู้ไม่น่าจะใช่หรือเป็นไปไม่ได้ ขนาดตนลงพื้นที่แค่ไม่กี่วันก็ได้รับข้อมูลที่ผิดปกติแล้ว
พ.อ.พงษ์เพชรกล่าวว่า ที่ผ่านมามีการปล่อยให้เขาทำก่อน และมาจดแจ้งกันภายหลัง ผมคิดว่าไม่ใช่แนวทางแก้ไขปัญหา ในทางตรงกันข้ามนอกจากไม่ใช่การแก้ปัญหาแล้ว ยังทำให้ปัญหาลุกลามบานปลายยิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งเอาเฉพาะตัวเลขผู้ไปยื่นจดแจ้งณิเวลานี้มีจำนวนกว่า 300 รายแล้ว และที่ยังไม่ได้ไปจดแจ้งยังมีอีกเยอะ สาเหตุที่ยังไม่ไปจดแจ้งเพราะยังใช้ชื่อคนเดิมอยู่ แต่หากไม่มีการเข้มงวดก็คงจะมีไปจดแจ้งเพิ่มเติม
“ผมยอมรับว่างงมาก โดยเฉพาะกรณีผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่นเอ่ยในที่ประชุม โดยบอกว่า ให้สร้างไปก่อนแล้วไปจดแจ้งในภายหลัง และเมื่อขึ้นไปสอบถามและเช็คข่าวในพื้นที่ก็สอดคล้องกัน ผมจึงย้ำว่าเป็นแบบทางทางจังหวัดต้องมาทบทวนกันใหม่แล้ว ไม่เช่นนั้นจะควบคุมกันได้อย่างไร ในส่วนของทาง พม.ก็มีข้อมูลพร้อมกางให้ดูว่า ตรงไหนเป็นของใคร ตรงไหนขอหรือไม่ขออนุญาต ซึ่งตามข้อเท็จจริงตอนนี้ผู้ที่ไปครอบครองที่ดินบนภูทับเบิก โดยทาง พม.ไม่ได้จัดให้ ก็สามารถดำเนินคดีได้เลย และเชื่อว่าผู้ที่อยู่ในข่ายนี้มีเยอะอีกด้วย…
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: