(มีคลิป) ชาวม้งภูทับเบิกปิดล้อม จนท.อุทยานฯ ขวางติดประกาศป้ายรื้อรีสอร์ตรุกผาหัวสิงห์

เพชรบูรณ์-ชาวม้งภูทับเบิกปิดล้อม จนท.อุทยานฯ ขวางติดประกาศป้ายรื้อรีสอร์ตรุกผาหัวสิงห์

เวลา 10.00 น. วันนี้ 4 สิงหาคม คณะเจ้าหน้าที่ราว 80 คน ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ ขค.2 (น้ำเพียงดิน) อุทยานแห่งชาติเขาค้อ, อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า, ชุดสายตรวจป้องกันและปราม สายที่ 1 สบอ.11 พิษณุโลก, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.18 (น้ำชุน) กรมป่าไม้, กอ.รมน.จังหวัดเพชรบูรณ์, สนง.ส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่นที่ว่าอำเภอหล่มเก่า, ตชด.ที่ 315 , ฝ่ายปกครองอำเภอหล่มเก่า, สถานีตำรวจภูธรหล่มเก่า, ศูนย์พัฒนาราษฎรบนพื้นที่สูงจังหวัดเพชรบูรณ์, สนง.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดเพชรบูรณ์, ปลัดอำเภอหล่มเก่า ฯลฯ นำโดยนายทศพร ปภากุล ผู้อำนวยการส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 11 พิษณุโลก, นายเสกสันต์ ลอมแปลง ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร สบอ.11

สนธิกำลังไปจุดเกิดเหตุคดีการก่อสร้างรีสอร์ต/บ้านพักตากอากาศ รุกเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาค้อ บริเวณผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก ต.บ้านเนิน อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ ตามนโยบายนายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 และนายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช (รรท.ออส.) ให้รื้อถอนตามกฎหมาย เนื่องจากเป็นพื้นที่ของรัฐ ทุกคนต้องเคารพกฎหมาย

โดยระหว่างกำลังเจ้าหน้าที่ 80 นาย เตรียมจะติดป้ายทั้ง 5 จุด ประกอบด้วยป้ายการตรวจยึดพื้นที่จำนวน 3 ป้าย หน้ารีสอร์ตบริเวณผาหัวสิงห์ ภูทับเบิก และอีก 2 ป้ายแสดงอาณาเขตอุทยานฯนั้น ได้มีมวลชนในพื้นที่(ม้ง)ขับรถกระบะสีเทาจำนวน 1 คัน ทะเบียน ผข 8752 เพชรบูรณ์ ได้ขับจอดขวางถนนทางขึ้น บนเส้นทางที่เจ้าหน้าที่อุทยานฯ นำรถกระบะมิตซูบิซิ สีเทา บรรทุกป้ายและไม้ ขึ้นไปหน้ารีสอร์ตบนเขา ส่งผลให้รถกระบะของเจ้าหน้าที่ไม่สามารถลงมาได้ จากนั้นได้มีมวลชนทยอยรวมเป็น 30 คน ปิดล้อมอยู่ด้านล่าง เพื่อกดดันเจ้าหน้าที่อุทยานฯ

อย่างไรก็ตาม นายทศพร ปภากุล ผอ.ส่วนอุทยานแห่งชาติ สบอ.11 ไม่ได้เจรจาหรือปะทะคารม หรือใส่ใจกับเหตุการณ์ปิดล้อมดังกล่าว ขณะเดียวกันยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานเดินหน้าติดป้ายทั้งหมดที่ระบุต้องรื้อถอนตามกฎหมาย โดย 3 ป้ายเป็นการตรวจยึดเป็นพื้นที่ดำเนินคดีตามกฎหมาย ตาม ปจว.ข้อ 4 และ ปจว.ข้อ 5 สภ.หล่มเก่า ลงวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 คือ ห้ามมิให้ผู้ใด ยึดถือ ครอบครอง หรือทำประโยชน์พื้นที่บริเวณนี้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมกับติดป้ายบริเวณล่อแหลมและเสี่ยงต่อการบุกรุกพื้นที่อีก 2 ป้าย

กระทั่งเวลา 12.00 น.วันเดียวกัน ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯจำนวน 80 นาย หลังติดตั้งป้ายประกาศแล้วเสร็จ ได้เดินลงจากภูทับเบิก ปล่อยให้คนในพื้นที่(ม้ง)เจรจากับเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง โดยปล่อยทิ้งรถไว้อยู่ข้างบนโดยไม่มีเหตุการณ์ใดรุนแรง

รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับเหตุการณ์การปิดล้อมรถยนต์ของเจ้าหน้าที่รัฐ จากคนม้งในพื้นที่เพื่อกดดันทางเจ้าหน้าที่นั้นเกิดขึ้นหลายครั้ง โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 กันยายน 2565 ก็เคยเหตุกาณ์ทำนองเดียวกัน โดยคณะเจ้าหน้าที่ป่าไม้ สำนักงานจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 4 สาขาพิษณุโลก สมัยที่นายทรงศักดิ์ กิตติธากรณ์ ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า กรมป่าไม้ ก็ประสพเหตุการณ์ถูกม้งในพื้นที่ปิดล้อมขณะเจ้าหน้าที่ตรวจสอบรีสอร์ตบนภูทับเบิก ส่งผลให้รถนักท่องเที่ยวเข้า-ออกไม่ได้ เช่นเดียวกัน