เพชรบูรณ์-สามีเชฟเติมฝันให้ภรรยาเป็นมะเร็งแต่งชุดวิวาห์ถ่ายเวดดิ้งสำเร็จ เผยทำกล้องหายจนไม่มีรูปแต่งงานประเพณีม้ง ภรรยาเปรยตลอดอยากมีภาพวิวาห์สวยๆเก็บเป็นความทรงจำ ชาวโซเชียลหวังปาฏิหาริย์มีจริง
หลังจากชาวโซเชียลต่างแห่กันให้กำลังใจคู่รักซึ่งสามีจัดชุดวิวาห์ ให้ภรรยาเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแต่งถ่ายเวดดิ้งเพื่อเติมฝันครั้งสุดท้าย ซึ่งช่างภาพได้นำเรื่องราวทั้งสองเผยแพร่บนโลกโซเชียล จนทำให้ชาวเน็ตถึงกับปาดน้ำตาแห่ให้กำลังใจกันเพียบ ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้(7 ม.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงาน คู่รักทั้งสองได้แก่ นายสมยศ ถาวร อายุ 42 ปี และนางสุรัตน์ หรือ “หนิง” ถาวร อายุ 33 ปี โดยทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน
ปัจจุบันฝ่ายชายมีอาชีพเป็นเชฟร้านอาหารญี่ปุ่นในประเทศโปรแลนด์ ส่วนภรรยาก่อนเจ็บป่วยเป็นผู้ช่วยเชฟอยู่ในร้านอาหารเดียวกัน
อย่างไรก็ตามหลังนายสมยศตัดสินใจยอมเอ่ยปากเปิดเผยความจริงถึงเรื่องเจ็บป่วยเป็นโรคมะเร็งร้ายในสมองระยะสุดท้าย ทำให้ภรรยาชาวม้งซึ่งปัจจุบันนอนพักรักษาตัวอยู่ที่บ้านพัก หมู่ 5 บ้านเข็กน้อย ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ถึงกับเกิดอาการเซื่องซึมและงอนสามีที่ปกปิดความจริงมาตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี ทำให้สามีเชฟต้องงอนง้อกระทั่งทำให้ภรรยากลับมายิ้มแย้มและเข้าใจในสิ่งที่สามีจำเป็นต้องกระทำด้วยความฝืนใจ
ข่าวน่าสนใจ:
- เพชรบูรณ์ - "ยุพราช"ชี้! นักการเมืองไม่จำเป็นต้องรวย แค่เคียงข้าง ปชช.ไม่ทุจริตโกงบ้านเมืองก็พอ
- เพชรบูรณ์ - ว่าที่ผู้สมัครชิง ส.อบจ.เพชรบูรณ์หน้าใหม่ บุกหนักขยันลงพื้นที่
- บุรีรัมย์ โรงเรียนอนุบาลบุรีรัมย์ จัดโครงการ “พัฒนาวิชาการ ส่งเสริมคุณธรรม ก้าวทันเทคโนโลยี ระดับปฐมวัย”
- สงขลา"ไพเจนฯ"นั่งเก้าอี้ นายก อบจ.สงขลา วันสุดท้าย ลั่น 1,460 วัน กว่า 1,460 โครงการฯ
โดยนายสมยศ ถาวร เล่าทั้งน้ำตาว่า ได้มาตกหลุมรักกับนางสุรัตน์ ถาวร อายุ 33 ปี สาวชาวม้งบ้านเข็กน้อย หมู่ที่ 5 ต.เข็กน้อย อ.เขาค้อ ขณะทำงานในร้านอาหารญี่ปุ่นที่ กทม. จากนั้นจึงแต่งงานตามประเพณีของชนเผ่าม้งเมื่อ 14 ปีก่อน โดยหลังแต่งงานทั้งสองจึงเดินทางไปทำงานเป็นเชพและผู้ช่วยเชพในร้านอาหารที่ประเทศโปแลนด์
ต่อมาภายหลังภรรยาบ่นปวดหัวและสายตาพร่าตัว แต่คิดว่าเป็นอาการทางสายตาธรรมดาจึงพากันตัดแว่นสายตาใส่ จนเมื่อกว่า 4 ปีที่ผ่านมาหลังย้ายไปทำงานนอกเมืองอาการเจ็บป่วยภรรยาเริ่มหนักขึ้น จึงพาไปพบแพทย์เพื่อตรวจอาการจนพบมีอาการผิดปกติทางสมอง แพทย์จึงทำการผ่าตัดให้พร้อมนำชิ้นเนื้อตัวอย่างไปตรวจพิสูจน์กระทั่งพบว่าเป็นมะเร็งในสมอง จึงขอร้องแพทย์ให้ช่วยปิดบังภรรยา
นายสมยศกล่าว ระหว่างรักษาด้วยการบำบัดเคมีได้ให้น้องสาวภรรยาเดินทางไปช่วยดูแลแต่อาการยังทรุดหนัก จึงตัดสินใจพาภรรยากลับประเทศไทยเพื่อให้เจอหน้าพ่อแม่ และเข้ารักษาที่โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ส่านยาใช้รักษาต้องสั่งมาจากเมืองนอกเพราะรักษาต่อเนื่องทำให้เสียค่าใช้จ่ายมาก
ในขณะที่ตนยังต้องทำงานในต่างประเทศและพยามยามส่งเงินมาเป็นค่าดูแลรักษาภรรยาต่อเนื่อง และหากได้หยุดพักยาวก็จะกลับมาเยี่ยมภรรยา จนเมื่อสิ้นปีที่ผ่านมาหลังทราบจากญาติภรรยาว่าอาการทรุดหนัก จึงเดินทางมากลับมาเยี่ยมภรรยาและตั้งใจถือโอกาสนี้ทำตามความฝันของภรรยาให้เป็นความจริง
นายสมยศกล่าว หลังแต่งงานภรรยาก็เปรยมาตลอดอยากใส่ชุดวิวาห์สวยๆแบบชุดราตรีถ่ายฟรีเวดดิ้งไว้เป็นความทรงจำ เพราะช่วงที่แต่งงานตามประเพณีชาวม้งนั้น กล้องถ่ายรูปที่บันทึกถ่ายภาพไว้ทั้งหมดเกิดการสูญหายทำให้ไม่มีภาพแต่งงาน แต่เมื่อกลับมาถึงเหลือเงินในบัญชีไม่พอจึงติดต่อไปยังเว็บเพจชื่อดัง(แหม่มโพธิ์ดำ) เพื่อขอความช่วยเหลือให้ช่วยจัดหาชุดวิวาห์ให้พร้อมช่างภาพไม่ประสงค์ขอเป็นเงิน กระทั่งทางเว็บเพจดังกล่าวตอบตกลงจากนั้นมีการติดต่อเช่าชุดวิวาห์พร้อมช่างภาพให้ กระทั่งเมื่อวันที่ 6 มกราคมจึงมีโอกาสได้ทำความฝันของภรรยาให้เป็นความจริง ก็ขอขอบคุณทางเว็บเพจนี้ด้วย
นายสมยศกล่าวว่า ที่ผ่านมากว่า 4 ปี หลังภรรยาเริ่มเจ็บป่วยตนพยายามปิดบังตลอดเรื่องเป็นมะเร็งในสมอง เมื่อถูกซักถามมากๆก็จะบอกว่าในหัวภรรยามีน้ำมากแพทย์จำเป็นต้องเอาออกซึ่งภรรยาก็เชื่อ ก่อนหน้านี้ก็ตั้งใจจะบอกความจริงภรรยาแต่ก็เกรงอาการจะทรุด กระทั่งก่อนเดินกลับมาเมืองไทยในครั้งนี้จึงตั้งใจแล้วว่า จะต้องบอกความจริงให้กับภรรยาได้รับรู้ และในวันถ่ายเวดดิ้งตนก็ทำใจยากมากและต้องเอ่ยปากบอกภรรยาทั้งน้ำตา และเมื่อเขารับรู้เราทั้งสองต่างก็กอดกันร้องไห้ ขณะที่ญาติๆต่างก็น้ำตาไหลไปพร้อมๆกันกับเราทั้งสองคนด้วย
เชพหนุ่มรายนี้กล่าวว่า ที่ผ่านมาผมเสียใจตลอดที่ละเลยไม่ใส่ใจเรื่องสุขภาพของภรรยา ส่วนหลังจากนี้ต่อไปตนได้พุดคุยกับนายจ้างแล้วซึ่งเขาจะยังให้สถานะผมเป็นลูกจ้างต่อไปอีก 3 เดือนแต่ไม่ได้รับเงินเดือนหรือค่าตอบแทน ซึ่งตนก็ตั้งใจจะใช้เวลาในช่วงนี้ร่วมกับภรรยาให้ดีที่สุด เมื่อถึง 3 เดือนจึงค่อยคิดกันใหม่ว่าจะทำอย่างไรต่อไป และขอขอบคุณชาวโซเชียลอย่างมากที่ส่งกำลังใจมาให้ตนและภรรยา ไม่คาดคิดว่าทุกคนจะให้ความสนใจชีวิตและเรื่องราวที่ตนทำให้ภรรยาถึงขนาดนี้ ในฐานะสามีพยายามดูแลภรรยาให้ดีที่สุด โดยทุกวันนี้ยังเสียใจที่ในห้วงที่อยู่เคียงข้างผมใส่ใจเขาน้อยไป ก็พยายามเติมเต็มให้เขาในห้วงระยะเวลาที่เหลือ เพราะครอบครัวเรามีเพียงคน 2 คนเท่านั้นโดยผมและภรรยายังไม่มีลูก
รายงานข่าวแจ้งว่า ชาวโซเซียลมีเดียยังคงแห่แชร์เรื่องราวของสามีภรรยาทั้งสองไม่หยุด พร้อมแสดงความคิดเห็นทั้งเห็นใจ สงสารและประทับใจในพลังแห่งความรักที่ทั้งสองมีต่อกัน จึงต่างให้กำลังใจและยังขอให้ปาฏิหาริย์เกิดขึ้นกับคู่รักคู่นี้อีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: