นาทีประวัติศาสตร์ ชาวเพชรบูรณ์นับพัน ร่วมเป็นสักขีพยาน การประกาศเมืองโบราณศรีเทพเป็นมรดกโลก
เวลา 14.00 น.วันที่ 19 กันยายน 2566 ชาวเพชรบูรณ์ จำนวนนับ 1,000 คน ประกอบด้วยพระภิกษุสงฆ์ ประชาชนและเด็กนักเรียน ทั้งชาวอำเภอศรีเทพและอำเภอใกล้เคียง นำโดยนายวีระวัฒน์ วัฒนวงศ์พฤกษ์ นายอำเภอศรีเทพ ได้รวมตัวกันที่บริเวณหน้าเชาคลังนอก โบราณสถานสำคัญของเมืองโบราณศรีเทพ อุทยานประวัติศาสตร์ เพื่อรอลุ้นวินาทีแห่งประวัติศาสตร์ ไปพร้อม ๆ กับการประกาศเมืองโบราณศรีเทพเป็นมรดกโลก ของคณะกรรมการมรดกโลก ที่ประชุมสมัยสามัญ ครั้งที่ 45 ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดิอาระเบีย
โดยบรรยากาศของการเป็นสักขีพยานและแสดงความยินดีของชาวเพชรบูรณ์ดังกล่าวเป็นไปด้วยความคึกคึก โดยพิธีการแพร่เสียงสดการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกด้วย เมื่อเวลา 15.36 น. ทันทีที่คณะกรรมการมรดกโลกประกาศให้เมืองโบราณศรีเทพผ่านการพิจารณาเป็นมรดกโลก โดยนางรวีวรรณ ภูริเดช ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ หนึ่งในทีมผู้ผลักดันให้ศรีเทพขึ้นมรดกโลก เป็นล่ามช่วยแปลภาษาให้ปรากฎว่าชาวเพชรบูรณ์ทั้งหมดได้พากันโบกสะบัดธงชาติ พร้อมตะโกนร้องเฮ!แสดงความดีใจ จากนั้นยังส่งเสียง “ไชโย” 3 ครั้งพร้อมยังเปล่งคำว่า “สาธุ”พร้อมกัน จนเสียงดังกึกด้องทั่วบริเวณเขาตลังนอก หลังจากนั้นพระภิกษุสงฆ์ต่างสวดชยันโต แสเงความยินดีและเป็นศิริมงคลอีกด้วย
จากนั้นเวลา 16.00 น. นายกฤษณ์ คงเมือง ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ จึงนำชาวเพชรบูรณ์ทุกภาคส่วน ทำกิจกรรมแสดงความยินดีเมืองโบราณศรีเทพมรดกโลกอย่างเป็นทางการ และมีการรำบวงสรวงเจ้าพ่อศรีเทพ นอกจากนี้ยังกฤษณ์ยังตีฆ้องชัยแสดงความยินดีอีกด้วย
โดยนายกฤษณ์ กล่าวเปิดใจต่อผู้ร่วมแสดงความยินดีฯว่า ลุ้นมาตลอดทางว่าทางยูเนสโกจะประกาศศรีเทพเป็นมรดกโลกหรือไม่ กระทั่งเดินทางมาถึงปากทางเข้าเขาคลังนอกทราบว่าศรีเทพได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก
“ผมผลักดันเมืองศรีเทพเป็นมรดกโลก ตั้งแต่เป็นปลัดจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีความผูกพันกับศรีเทพมาก เพราะบรรจุเป็นปลัดอำเภอศรีเทพเป็นครั้งแรก และกลับมาเป็นนายอำเภอศรีเทพ ก่อนจะเกษียณราชการยังมาเป็นผู้ว่าฯ เพชรบูรณ์ “นายกฤษณ์กล่าว
โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ยังกล่าวแสดงความขอบคุณทุกฝ่าย ที่ช่วยกันผลักดันจนทำให้เมืองศรีเทพเป็นมรดกโลก พร้อมกล่าวย้ำอีกว่า “เมืองโบราณศรีเทพมิใช่สมบัติของคนเพชรบูรณ์ แต่เป็นสมบัติของคนไทยทั้งชาติ และขณะนี้ยังเป็นสมบัติของคนทั้งโลกอีกด้วย”
