ส.ส.เพชรบูรณ์ชงแกงอีเหี่ยว ผ้าลายคนแคระ จัดงานรำลึกศรีเทพมรดกโลกทุกปี ชูเป็นซอฟท์เพาวเวอร์เพชรบูรณ์
วันที่ 26 พ.ย.66 : นายอัคร ทองใจสด ส.ส.เพชรบูรณ์ เขต 6 กล่าวขณะร่วมประชุมคณะทำงานขับเคลื่อนศรีเทพมรดกโลก จ.เพชรบูรณ์ว่า เสนอเพิ่มเติมถึงเรื่องซอฟเพาเวอร์ ซึ่งอาจจะแบ่งเป็น 5F, fashion, food, festival, film, และ fight ซึ่งหลังตนอ่านในบทสรุปของแผนพัฒนามรดกโลกของศรีเทพ ยังขาดเรื่องของอาหารถิ่น ของตัวศรีเทพอยู่ จริง ๆ แล้วมาทานไก่ย่างที่วิเชียรบุรี ก็เป็นทางเลือกที่ดี
นายอัครกล่าวว่า โดยส่วนตัวยังมองว่าที่ศรีเทพยังมีอาหารหลากหลาย สามารถจะนำไปสู่เวทีระดับประเทศและระดับโลกได้ อาทิแกงอีเหี่ยว ซึ่งตนเคยไปทานที่บ้านนาตะกรุดเมืองศรีเทพ เป็นอาหารถิ่นที่น่าสนใจ และสามารถนำไปขายให้กับนักท่องเที่ยวได้ และก็ยังมองว่ายังมีอาหารอีกหลายอย่าง ที่เป็นอาหารถิ่นของชาวศรีเทพจริง ๆ ซึ่งน่าสนใจและสามารถทำให้ เศรษฐกิจของศรีเทพดีขึ้น
นายอัครกล่าวอีกว่า เฟสติวัลก็มีอยู่แล้วซึ่งตอนนี้เรามีถึง 5 ประเพณี ที่จัดแสดงกันทุกปี จึงอยากเสนอให้เพิ่มอีก 1 เฟสติวัล หรือ 1 ประเพณีจะดีหรือไม่ คือวันที่มีการประกาศให้ศรีเทพเป็นมรดกโลก เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญของอำเภอศรีเทพและจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยหากมีการรำลึกในวันที่เราเคยได้รับการประกาศให้ศรีเทพเป็นมรดกโลก วันที่ 19 กันยายน ไปเรื่อย ๆเป็น 10 ปีก็จะมีคุณค่าขึ้นไปเรื่อย ๆ
นายอัครกล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องของแฟชั่นก็มีเรื่องผ้าลายคนแคระ อยากเสนอให้แต่ละชุมชน พัฒนาแนวผ้าใหม่ๆ ที่จะส่งเสริมไปสู่เวทีโลกและเวทีระดับประเทศได้ ตนเชื่อผ้าของเรามีความสวยงาม ตนแค่ใส่ไปในการประชุมรัฐสภาอาเซียน หรือ AIPA ที่ประเทศอินโดนีเซีย หลายๆประเทศยังสอบถามว่า มาจากไหน
“ผมก็เชื่อว่าศิลปวัฒนธรรมของเรามีความสวยงาม มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์แล้วก็เชื่อว่า ถ้านำสิ่งนี้ขึ้นมาเชิดชูได้ก็จะสามารถที่จะทำให้ เพชรบูรณ์และประเทศไทย มีหน้ามีตาในสังคมโลกได้”นายอัครกล่าว
ข่าวแจ้งว่า สำหรับแกงอีเหี่ยวเป็นอาหารถิ่น โดยปรุงจากหน่อไม้เป็นหลัก ชาวบ้านจะฉีกหน่อไม้ให้เป็นเส้นแล้วนำมาสับ จากนั้นนำไปนึ่ง และตากแดดให้แห้ง จึงเป็นที่มาของคำว่า “อีเหี่ยว” เมื่อจะนำมากินให้นำมาแช่น้ำเพื่อรอให้ฟู และนำไปแกงเหมือนแกงหน่อไม้ทั่วไป โดยใส่กากหมู ถั่วคั่วและอื่น ๆ ก็ได้ตามใจชอบ
