“วันนักข่าว 5มีนา” ส.สื่อฯเพชรบูรณ์ จัดโครงการ “ปันน้ำใจให้แก่น้อง” ที่รร.บ้านหินโง่นสาขาสักง่าฯหล่มเก่า
วันที่ 5 มีนาคม ที่โรงเรียนบ้านหินโง่นสาขาสักง่า หมู่ที่ 2 บ้านสักง่า ต.ศิลา อ.หล่มเก่า จ.เพชรบูรณ์ เนื่องในโอกาส “วันนักข่าว 5 มีนาคม” คณะสื่อมวลชนโดย “สมาคมสื่อมวลชนเพชรบูรณ์” นำโดยนายสมัคร โชติวรรณ นายกสมาคมฯ และมีนายประทิน นาคสำราญ นายก อบต.สะเดียง, พ.ต.อ.ธีระศักดิ์ ภูษิตสันต์ ผกก.สภ.หล่มเก่า, นางอรวรรยา หุ่นทอง ประธานคณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอเมืองเพชรบูรณ์ พร้อมตัวแทน อบต.ศิลาร่วมด้วย ได้นำสิ่งของอุปโภคบริโภค ทั้งข้าวสารอาหารแห้ง นมกล่อง น้ำดื่ม ขนมขบเคี้ยว ไปแจกจ่ายให้แก่เด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านหินโง่นสาขาสักง่า 14 คน และเด็กนักเรียนบ้านหินโง่น 6 คน และผู้ปกครองตาม “โครงการปันน้ำใจให้แก่น้อง”
นอกจากนี้ยังมีการแจกทุนการศึกษาให้แก่เด็กนักเรียนอีกจำนวน 20 ทุนๆละ 500 บาท พร้อมเลี้ยงอาหารกลางวันให้แก่เด็กนักเรียนและผู้ปกครองอีกด้วย โดยมีนายชัยเล็ก ใจวงศ์ ผอ.รร.บ้านหินโง่น และ รร.บ้านหินโง่นสาขาสักง่า, นายศิลา ม่วงงาม อดีตครูชำนาญการฯ และนายคำม้วน คำพุฒ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 2 บ้านสักง่า นำบุคลากรทั้งครู-นักเรียนและผู้ปกครองให้การต้อนรับ โดยนายประทินได้กล่าวแสดงขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีที่ช่วยกันร่วมบริจาคเครื่องอุปโภคบริโภค ร่วมสมทบโครงการฯดังกล่าวด้วย
สำหรับโรงเรียนบ้านหินโง่นสาขาสักง่า อยู่ในสังกัดสำนักประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 2 โดยเป็นโรงเรียนขยายโอกาส ที่ทำการเรียนการสอนให้กับเด็กนักเรียน ตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงระดับชั้น ป.6 มีบุคลากรครู 2 คน นักการภารโรง 1 คน แม่บ้าน 1 คน ปัจจุบันมีนักเรียนจำนวนทั้งสิ้น 14 คน นอกจากนี้ยังถือเป็นโรงเรียนขาดแคลนและอยู่ในพื้นที่สูงอีกด้วย
โรงเรียนบ้านหินโง่นสาขาสักง่า ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2513 เดิมที่ตั้งโรงเรียนฯอยู่ในหุบเขาด้านล่าง แต่เมื่อปี 2548 เกิดอุทกภัยใหญ่ดินโคลนถล่มหมู่บ้านสักง่า จนทำให้ได้รับความหมู่บ้านเสียหายหนัก จึงมีการย้ายโรงเรียนขึ้นมาอยู่บนที่สูงในปัจจุบัน โดยชาวบ้านช่วยกันก่อสร้างตัวอาคารขึ้นโดยไม่ใช้งบฯทางราชการ แต่เนื่องจากเส้นทางเข้าสู่หมู่บ้านมีความยากลำบากทุรกันดาร ในช่วงฤดูฝนถนนเป็นดินโคลน ทำให้ครูต้องเดินจากหมู่บ้านข้างเคียง เพื่อมาสอนเด็กนักเรียนแห่งนี้
ปัจจุบันแม้ว่าทางหน่วยราชการ อาทิ อบต.ศิลาและอบจ.เพชรบูรณ์ รวมทั้งหน่วย นพค.16 เคยนำเครื่องจักรมาช่วยปรับปรุงเส้นทาง แต่เนื่องจากเส้นทางเข้าออกหมู่บ้านเป็นถนนดิน ทำให้ในช่วงฤดูฝนถนนเป็นดินโคลน จึงจะทำให้การเดินทางสัญจรเข้าออกหมู่บ้านยังคงยากลำบาก นอกจากนี้ในการติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอก ค่อนข้างมีปะญหาอุปสรรค
เนื่องจากมีเพียงบริเวณวัดป่า ซึ่งตั้งอยู่เหนือโรงเรียนฯราว 50 เมตร รับสัญญาณคลื่นสัญญานโทรศัพท์มือถือของค่ายสีเขียว(AIS) ได้เพียงจุดเดียว ขณะเดียวกันยังมีสัญญานเบาบางอีกด้วย จึงทำให้คณะสื่อมวลชนค่อนข้างห่วงใย เนื่องจากเป็นหมู่บ้านเสี่ยงภัยดินโคลนถล่ม เกรงหากเกิดภัยพิบัติใหญ่เหมือนครั้งปี 2548 นอกจากหมู่บ้านจะถูกตัดขาดจากโลกภายนอกแล้ว ยังจะไม่สามารถระดมความช่วยเหลือได้ทันท่วงที…
