X

(มีคลิป) “พ.อ.พงษ์เพชร”จับรีสอร์ทวิวสุดหรู รุกป่าโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน

 “พ.อ.พงษ์เพชร”จับรีสอร์ทวิวสุดหรู รุกป่าโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน 

เวลา 10.00 น.วันที่ 29 มีนาคม 2567 พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฏิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ นำโดยนายสมชาย ฉิมแย้ม, สายตรวจปราบปราม สบอ.11 พิษณุโลก นำโดยนายพจน์ ชินอัญชนะ ผอ.สอป.สบอ.11 พิษณุโลก, หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2(เขาค้อ) และเทศบาลตำบลแคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ สนธิกำลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนว่ามีการก่อสร้างรีสอร์ทและร้านกาแฟ ในพื้นที่ป่าริมทางหลวงหมายเลข 12 ซึ่งด้านหลังรีสอร์ทมีพื้นที่ติดกับบริเวณสันเขื่อนอ่างเก็บน้ำห้วยน้ำชุนใหญ่ ท้องที่ หมู่ 7 บ้านทางแดง ต.แคมป์สน อ.เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์

เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางถึง พบว่าบริเวณทางโค้งริมถนนหลวงหมายเลข 12 มีช่องทางให้รถเข้าไปในลานจอดรถริมถนน มีอาคารร้านค้าทำด้วยไม้หลังคามุงกระเบื้อง 1 หลัง ด้านหน้าติดป้ายชื่อว่า S9 Glamming Resort Khao Kho และมีอาคารคอนกรีตชั้นเดียวหลังคามุงด้วยกระเบื้องสีฟ้า กำลังก่อสร้างเทพื้นคอนกรีต 1 หลัง พบ พ.ท.สมพงษ์ ศรีสุข อายุ 65 ปี นายทหารเกษียณราชการ อยู่บ้านเลขที่ 119 หมู่ 13 ต.น้ำชุน อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ แสดงตัวเป็นเจ้าของที่ดิน เจ้าหน้าที่จึงให้นำชี้ขอบเขตที่ดินจับค่าพิกัด โดย พ.ท.สมพงษ์ให้การว่า เดิมชื่อศุภฤกษ์และร่วมทุนสร้างรีสอร์ทกับนายทุน กทม.

จากการตรวจสอบขั้นต้นพบว่าจุดที่กำลังก่อสร้าง เป็นพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ. 2484 เป็นพื้นที่คุณภาพลุ่มน้ำชั้น 2 อยู่ในโครงการฟื้นฟูและพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2546 เพื่อป้องกันและบรรเทาความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2544 จำนวนเนื้อที่ 132,626 ไร่ และบริเวณที่กำลังก่อสร้างไม่มีการสำรวจการถือครองตาม มติ ครม.30 มิ.ย.41 แต่มีการสำรวจข้อมูลการถือครองที่ดินเมื่อปี 2559 ระบุชื่อผู้ครอบครองคือ นายศุภฤกษ์ หรือนายสมพงษ์ ศรีสุข เนื้อที่ 4 ไร่

นอกจากนี้ขณะที่ พ.อ.พงษ์เพชร นำคณะเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพื้นที่ติดกับร้านค้าพบตึก 2 คูหา 3 ชั้นมีห้องพักรวม 6 ห้อง ด้านหลังทำเป็นระเบียงชมวิวอ่างน้ำ โดย พ.อ.พงษ์เพชรถึงกับอึ้งกับภาพวิวทิวทัศน์ดังกล่าว และเมื่อตรวจสอบพื้นที่ด้านหลังอาคารร้านค้า และตึกเป็นหน้าผาลาดชันมาก มีการก่อสร้างอาคารถาวรเสาเหล็กพื้นแผ่นคอนกรีต 3 ระดับ ทำเป็นฐานสร้างห้องพักเป็นโดมขนาดใหญ่ จำนวน 12 หลัง และฐานกางเต็นท์อีก 7 ห้อง

จากการนำชี้ขอบเขตที่ดินที่ครอบครองของนายสมพงษ์ฯและจับค่าพิกัดมาคำนวณพื้นที่ ได้เนื้อที่ 5 – 3 – 24 ไร่ ซึ่งเป็นการขยายพื้นที่ทำกินเดิม เมื่อตรวจสอบภาพถ่ายปี 2545 และปี 2563 พบว่าบริเวณจุดตรวจสอบ มีการทำประโยชน์มาก่อน แต่เริ่มปรากฏร่องรอยการปรับพื้นที่สร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2563 ซึ่งเป็นการบุกรุกป่าใหม่หลังปี 2557 จึงไม่มีข้อยกเว้นใดๆ ทั้งสิ้น และไม่เข้าหลักเกณฑ์ตามตามมติ ครม. 26 พ.ย. 61 จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ทั้งหมดพร้อมดำเนินคดี

ขณะเดียวกันจากการตรวจสอบกับเทศบาลตำบลแคมป์สนทราบว่า สิ่งปลูกสร้างในรีสอร์ทดังกล่าวไม่มีการขออนุญาตก่อสร้างแต่อย่างใด จึงมอบให้เทศบาลตำบลแคมป์สน ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ.2522

จากการสอบปากคำคนงานดูแลรีสอร์ทจำนวน 2 คนให้การตรงกันว่าเจ้าของรีสอร์ทเป็นนายทุนชื่อดังมีชื่อย่อ ศ. อยู่กรุงเทพมหานคร เปิดบริการที่พักโรงแรม คิดค่าบริการโดมหลังละ 6,000 บาท/คืน แต่ไม่ทราบว่ามีหลักฐานการอนุญาตหรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบกับอำเภอเขาค้อ เอสไนน์ แกลมปิ้ง รีสอร์ต เขาค้อว่า ได้จดทะเบียนเป็นโรงแรมที่พักหรือไม่ ตรวจสอบขั้นต้นไม่พบว่ามีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงแรมแต่อย่างใด

คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้วเป็นการการทำผิดกฎหมาย จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ รวมจำนวน 5 – 3 – 24 ไร่ คิดค่าเสียหายของรัฐเบื้องต้นเป็นเงิน 874,500.-บาท แจ้งดำเนินคดีกับนายสมพงษ์ฯและนาย ศ.นายทุน กทม. และผู้ที่เกี่ยวข้อง ในข้อหากระทำความผิดดังนี้ ตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ. 2484 ม.54 และม.55 พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ม.21 โดยมอบให้นายกเทศมนตรีตำบลแคมป์สนเป็นผู้กล่าวโทษ และพระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2547 ให้อำเภอเขาค้อดำเนินการ หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงทำบันทึกตรวจยึด นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.เขาค้อ เพื่อติดตามตัวนายทุนรายนี้มาดำเนินคดีต่อไป โดยมอบหมายให้ หน.โครงการฟื้นฟู และพัฒนาพื้นที่เสี่ยงภัยลุ่มน้ำก้อ-น้ำชุน สบอ.11 เป็นผู้กล่าวโทษ และหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พช.2 (เขาค้อ) เป็นพยาน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน