X

ผอ.สำนักพุทธฯเพชรบูรณ์ แจงอดีตพระสงฆ์ที่ถูกร้อง สังกัดวัดใน จ.หนองคาย

ผอ.สำนักพุทธฯเพชรบูรณ์ แจงอดีตพระสงฆ์ที่ถูกร้อง สังกัดวัดใน จ.หนองคาย เตรียมปิดคำสั่งปิดที่พักสงฆ์ถาวร สำรวจทรัพย์สินส่งคืนวัดสังกัดอดีตพระฉาว

วันที่ 12 มิถุนายน นางสาวอัจฉรา ปั้นมูล ผู้อำนวยการสำนักพุทธศาสนา จังหวัดเพชรบูรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าสาวร้องเรียนถูกพระสงฆ์ ประธานที่พักสงฆ์แห่งหนึ่งที่จ.เพชรบูรณ์ หลอกเข้าลัทธิถวายตัว ขอมีเพศสัมพันธุ์แก้กรรมต่ออายุขัย ต่อมาพระรูปดังกล่าวได้ลาสิกขาโดยอ้างว่า ไปต่อสู้คดีและไม่ให้เป็นภาระทางคณะสงฆ์ว่า จากการประสานกับทางพระเลขาฯเจ้าคณะตำบลในพื้นที่ที่ทำการสึกพระรูปนี้ ตอนนี้มีคำสั่งปิดที่พักสงฆ์แห่งนี้อย่างถาวร ส่วนพระลูกวัดที่อยู่ภายในวัดก็จะส่งกลับต้นสังกัด หากมาจากจังหวัดไหนก็จะส่งกลับไปยังต้นสังกัดของพระเหล่านี้ตามใบสุทธิ

“ในส่วนของพระที่ตกเป็นข่าวถูกร้องเรียน ไม่ใช่เป็นพระของจังหวัดเพชรบูรณ์ แต่เป็นพระที่เดินทางมาจาก จ.หนองคาย โดยเดินทางมาตั้งที่พักสงฆ์ภายในพื้นที่ จ.เพชรบูรณ์ แต่ยังไม่ได้ย้ายสังกัดเข้าวัดในจ.เพชรบูรณ์ โดยใบสุทธิที่อดีตพระรูปนี้ยังอยู่ใน จ.หนองคายอยู่”นางสาวอัจฉรากล่าว

นางอัจฉรา กล่าวว่า ขณะนี้ทางคณะสงฆ์กำลังประสานงานไปยังวัดสังกัดของอดีตพระที่ตกเป็นข่าว เพื่อสำรวจทรัพย์สินที่เกิดขึ้นในที่พักสงฆ์ว่ามีอะไรบ้าง ทรัพย์ที่ได้มาจากการบริจาคมีอะไรบ้าง ในระหว่างที่เป็นพระสงฆ์ โดยทรัพย์สินเหล่านี้จะต้องตกเป็นของวัดสังกัดของอดีตพระรูปนี้ และต้องมีการส่งกลับคืนไปยัง จ.หนองคาย ซึ่งจะมีการสำรวจจัดทำทะเบียน เพื่อส่งคืนในโอกาสต่อไป

ผอ.สำนักพุทธศาสนา จ.เพชรบูรณ์ กล่าวชี้แจงกรณีที่เพจสวนธุดงค์สถานฯ แจ้งเปลี่ยนชื่อใหม่เป็นสำนักบารมีพุทโธรักษาว่า เมื่อที่พักสงฆ์แห่งนี้ถูกสั่งปิดแล้ว การจะไปตั้งเป็นสำนักปฎิบัติธรรมจะกระทำมิได้ ต้องผ่านการตรวจสอบอนุญาตจากสำนักพุทธฯก่อนยิ่งปัจจุบันนี้ทางพระเจ้าคณะตำบล นิมนต์ให้พระลูกวัดที่อยู่ในที่พักสงฆ์แห่งนี้กลับวัดต้นสังกัดทั้งหมดเลย จึงทำให้ ณ ขณะนี้ที่พักสงฆ์ที่ถูกสั่งปิดแห่งนี้ไม่มีพระอยู่เลย และในวันพรุ่งนี้ก็เตรียมจะนำคำสั่งเจ้าคณะตำบลไปปิด ณ ที่พักสงฆ์แห่งนี้

“นอกจากนี้ยังได้รับแจ้งจากพระเลขาฯเจ้าคณะตำบลด้วยว่า พระที่ตกเป็นข่าวและได้ลาสิกขาไปก็ยังบอกด้วยว่า เป็นความประสงค์ของเขาเองที่จะปิดสถานที่แห่งนี้ ฉะนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะเปลี่ยนชื่อ เพื่อตั้งเป็นสำนักปฎิบัติธรรมอะไรก็ตาม ยิ่งจะมาเปลี่ยนตอนนี้คงทำไม่ได้” ผอ.สำนักพุทธศาสนา จ.เพชรบูรณ์กล่าว

นางสาวอัจฉรากล่าวว่า ในส่วนทางคดีนั้น ปัจจุบันพระรูปนี้ได้สึกเป็นฆราวาสแล้ว จึงไม่ได้เกี่ยวข้องกับทางคณะสงฆ์ ฉะนั้นหน้าที่คณะสงฆ์ในเวลานี้คือ ปิดที่พักสงฆ์แห่งนี้ และตรวจสอบทรัพย์สินว่ามีอะไรบ้าง จากนั้นประสานวะดที่ จ.หนองคาย ที่รับพระรูปนี้เข้าสังกัดเมื่อปี 2554 ส่วนอดีตพระที่ตกเป็นข่าวหลังสึกออกไปแล้ว ออกจากที่พักสงฆ์ไปแล้วตั้งแต่เมื่อวานนี้ ซึ่งหลังลาสิกขาแล้วได้แจ้งพระผู้ใหญ่ว่า เขาจะเดินทางไปต่างจังหวัด แต่ไม่ได้แจ้งว่าจะไปจังหวัดไหน

 

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน