เพชรบูรณ์-กอ.รมน.ร่วมกับชุดพยัคฆ์ไพร บุกจับธรรมสถานป่าถ้ำฤษีสมบัติ รุกป่าสงวนฯเขาโปกหล่น
เวลา 10.00 น.วันที่ 18 มิถุนายน พ.อ.พงษ์เพชร เกษสุภะ หัวหน้าชุดปฎิบัติการ ศปป.4 กอ.รมน. ร่วมกับนายชาญชัย กิจศักดาภาพ หัวหน้าชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ ร่วมกันบูรณาการ และสนธิกำลังคณะเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ประมาณ 50 นาย เข้าดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีกรมป่าไม้ และกอ.รมน.ได้รับเรื่องร้องเรียนขอให้ตรวจสอบพระสงฆ์ที่เข้าไปบุกรุก ยึดถือครอบครอง ก่อสร้าง สถานปฏิบัติธรรมถ้ำฤาษีสมบัติ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตั้งอยู่บนเขาบริเวณถ้ำสมบัติ ซึ่งใช้เป็นที่เก็บรักษาสมบัติของชาติสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ครั้งที่รัฐบาลสมัยนั้นมีนโยบายจะย้ายเมืองหลวงมาอยู่ที่ จ.เพชรบูรณ์ ที่เกิดเหตุอยู่ในท้องที่ ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ว่าได้ดำเนินการโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
เมื่อคณะเจ้าหน้าที่เดินทางเข้าไปในพื้นที่บริเวณที่มีการร้องเรียนพบกลุ่มบุคคล จำนวน 3 คนอยู่ในพื้นที่ เป็นแม่ชี 2 คน และผู้ชาย 1 คน อ้างว่าเป็นลูกศิษย์พระ ทราบชื่อภายหลังว่า พระสกล โกสโล สังกัดวัดสันติวัฒนา อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งขณะตรวจสอบพระรูปดังกล่าวไม่อยู่ในพื้นที่ จึงขอให้ทั้ง 3 คน ให้ข้อมูลและนำเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ ซึ่งได้แจ้งว่าพระได้เข้ามาอยู่ในพื้นที่ดังกล่าวมาประมาณ 1 ปี ในปี พ.ศ. 2566
คณะเจ้าหน้าที่จึงตรวจวัดพิกัดรอบพื้นที่ จำนวน 37 จุด คำนวนเนื้อที่ได้ 17 – 0 – 88 ไร่ อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าเขาโปลกหล่น ม.8 ต.บุ่งน้ำเต้า อ.หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ พบสิ่งก่อสร้างในพื้นที่ สร้างถนนคอนกรีตกว้าง 3.30 เมตร ยาว 175 เมตร ขึ้นไปบนภูเขา มีอาคารศาลาปฏิบัติธรรม 2 ชั้น 1 หลัง โครงสร้างเหล็กหลังคาเมทัลชีท, ที่พักและสิ่งปลูกสร้างถาวร 8 หลัง โครงสร้างเหล็กหลังคาเมทัลชีท, สะพานเหล็ก 2 แห่ง และสิ่งปลูกสร้างชั่วคราว รวมจำนวน 24 รายการ ขณะเดียวกันเมื่อตรวจสอบการขออนุญาตใช้พื้นที่แล้วพบว่า ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์หรืออยู่อาศัย ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติแต่อย่างใด และตรวจสอบจาก อบต.บุ่งน้ำเต้า พบว่าไม่ได้ขออนุญาตก่อสร้างตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ แต่อย่างใด
คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้ว การสร้างสถานปฏิบัติธรรมถ้ำฤาษีสมบัติ เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 ประกอบมาตรา 31 , พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 ประกอบมาตรา 72 ตรี และ พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 21 ประกอบมาตรา 65 คณะเจ้าหน้าที่จึงร่วมกันตรวจยึดพื้นที่จำนวน 17 – 0 – 88 ไร่ และสิ่งปลูกสร้างทั้งหมด จัดทำบันทึกเรื่องราวนำแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก โดยกล่าวโทษพระสกล โกสโลและบริวาร เพื่อให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป…
