X

ข้าวโพดราคาดิ่ง! ใครเจ็บสุด : เกษตรกร พ่อค้าคนกลาง หรือโรงงานอาหารสัตว์

เหตุการณ์กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ ที่ จ.เพชรบูรณ์ ซึ่งต่างพากันลุกฮือขึ้นมาชุมชุมเรียกร้องเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา เพื่อขอให้รัฐบาลช่วยพยุงราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ หลังราคาลดดิ่งลงฮวบฮาบแบบน่าใจหาย ซึ่งภาพเหตุการณ์ทำนองนี้ หากนับย้อนเวลากลับไปในอดีต ทุกครั้งที่ราคาข้าวโพดตกต่ำ จะมีภาพเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด พากันออกมากดดันให้รัฐบาลช่วยอุ้มมาเป็นระยะๆ

ปัจจุบันการบริโภคข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทย มีความต้องการเพิ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากอุตสาหกรรมปศุสัตว์ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เช่น การเลี้ยงหมู ไก่ และสัตว์อื่น ๆ ที่ใช้ข้าวโพดเป็นอาหารสัตว์หลัก แต่น่าแปลกใจที่แม้ความต้องการข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศจะสูงขึ้น ปริมาณข้าวโพดที่ผลิตได้กลับไม่พอใช้ จนทำให้ต้องนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศ

อย่างไรก็ตามราคาข้าวโพดในมือเกษตรกรกลับลดลงเรื่อย ๆ หรือเรียกได้ว่า “ดิ่งเหว” คำถามที่น่าสนใจคือ ใครคือผู้รับผลกระทบที่แท้จริงในสถานการณ์นี้ โรงงานอาหารสัตว์ พ่อค้าคนกลาง หรือเกษตรกร?

เกษตรกร : ผู้ผลิตที่รับภาระสูงสุด

สำหรับเกษตรกร ผู้ปลูกข้าวโพดที่พึ่งพาราคาตลาดเป็นหลักในการขายสินค้า เมื่อราคาข้าวโพดตกต่ำ พวกเขาเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เป็นผลผลิตที่ใช้เวลาในการปลูกและดูแล เกษตรกรต้องลงทุนทั้งเวลา ทรัพยากร และแรงงาน แต่เมื่อถึงเวลาเก็บเกี่ยว ผลตอบแทนที่ได้กลับน้อยกว่าที่คาดหวังไว้

ปัจจัยสำคัญที่กดดันราคาข้าวโพดในมือเกษตรกรคือ การนำเข้าข้าวโพดจากต่างประเทศ โดยเฉพาะข้าวโพดที่ราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน การนำเข้าในราคาที่ถูกกว่า ทำให้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปลูกภายในประเทศถูกมองข้าม ส่งผลให้เกษตรกรไทยไม่มีอำนาจในการต่อรองราคามากนัก ทำให้ราคาตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง

พ่อค้าคนกลาง : กลุ่มที่มีอำนาจการควบคุมราคามากกว่า

พ่อค้าคนกลางเป็นผู้ที่เชื่อมโยงระหว่างเกษตรกรและโรงงานผลิตอาหารสัตว์ ทำให้มีบทบาทสำคัญในการกำหนดราคาซื้อขายในตลาด ซึ่งในหลายกรณี พ่อค้าคนกลางอาจเป็นผู้ที่ได้กำไรจากความแตกต่างระหว่างราคาที่ซื้อจากเกษตรกรและราคาที่ขาย ให้กับโรงงานอาหารสัตว์ นอกจากนี้พ่อค้าคนกลางยังสามารถใช้สถานการณ์ราคาตกต่ำในการกดราคาซื้อจากเกษตรกรได้ ทำให้กลุ่มนี้ไม่ได้รับผลกระทบจากราคาตกเท่ากับเกษตรกร

โรงงานอาหารสัตว์ : ผู้ผลิตที่ได้เปรียบในราคาต่ำ

โรงงานอาหารสัตว์ต้องการวัตถุดิบที่มีคุณภาพในราคาที่ต่ำเพื่อที่จะผลิตอาหารสัตว์ได้ในราคาที่แข่งขันได้ในตลาด โรงงานเหล่านี้มีตัวเลือกในการซื้อข้าวโพด จากทั้งเกษตรกรภายในประเทศ และจากการนำเข้าจากต่างประเทศ ด้วยการนำเข้าข้าวโพดราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้าน โรงงานจึงสามารถกดดันราคาซื้อจากเกษตรกรในประเทศลงได้ นอกจากนี้โรงงานยังมักมองหาวัตถุดิบที่ต้นทุนต่ำที่สุด เพื่อเพิ่มกำไรของตนเอง ทำให้กลุ่มโรงงานอสหารสัตว์เหล่านี้ มีความได้เปรียบเมื่อราคาข้าวโพดในตลาดต่ำ

โดยสรุป : ใครคือผู้รับผลกระทบตัวจริง?

ในสถานการณ์นี้คงหนีไม่พ้นเกษตรกร คือ กลุ่มที่รับผลกระทบมากที่สุด เพราะต้องเผชิญกับการขาดทุนจากราคาข้าวโพดที่ตกต่ำ ขณะที่พ่อค้าคนกลางและโรงงานอาหารสัตว์ ยังสามารถหาทางลดความเสี่ยงและรักษาผลประโยชน์ของตนเองได้ โรงงานอาหารสัตว์มีทางเลือกมากกว่าในการจัดหาวัตถุดิบ ในขณะที่พ่อค้าคนกลางสามารถต่อรองราคาจากทั้งเกษตรกรและโรงงานได้ ทำให้เกษตรกรที่อยู่ในฐานะที่อ่อนแอที่สุดในห่วงโซ่อุปทานนี้ต้องรับภาระหนักมากกว่ากลุ่มอื่น

ดังนั้นทางออกของการแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรหาวิธีในการสนับสนุนเกษตรกรให้มีการจัดการที่ดีขึ้นในเรื่องของการกำหนดราคาขาย และพัฒนาช่องทางการตลาดที่ยั่งยืน เพื่อให้เกษตรกรมีอำนาจในการต่อรอง และสามารถดำรงชีวิตได้ในสถานการณ์ที่ราคาตลาดไม่เอื้ออำนวย

: ทีมข่าว 77ข่าวเด็ด รายงาน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน