เพชรบูรณ์-นทท.รุมจวกรถรางชมทุ่งกันหันลมเขาค้อ หลังเจอพฤติกรรมสุดแย่ เอาเปรียบ-แย่งผุ้โดยสาร-จะทำร้ายกัน จี้จัดระเบียบก่อนกระทบภาพลักษณ์ท่องเที่ยวเขาค้อ ด้านผู้ประกอบการฯแจงมีรถรางแค่กลุ่มเดียวที่วกกลับก่อน ปัดไม่เคยได้ยินเรื่องแย่งผู้โดยสาร-จะทำร้ายกัน
วันที่ 6 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกิดกระแสกระหึ่มสังคมโซเชียลมีเดีย เมื่อมีนักท่องเที่ยวโพสต์บนเฟสบุ๊คแจ้งเตือนถึงผู้ที่ต้องการจะนั่งรถรางเข้าทุ่งกันลมที่เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ ให้ระวังการถูกเอารัดเอาเปรียบอื่นๆโดยระบุว่า “เตือนผู้ที่จะขี่รถเที่ยวกังหันลมเขาค้อ เข้าไปข้างในอย่าซื้อตั๋วสีฟ้า เพราะจะไปได้แค่เทเลทับบี้ ไม่ไปส่งถึงจุดปลายทาง เขาจะปล่อยกลางทางเป็นการเอาเปรียบนักท่องเที่ยว ผู้ที่จะขึ้นขอแนะให้ซื้อใบม่วง” พร้อมทั้งยังโพสต์ภาพบัตรนั่งรถรางจำนวน 2 ใบราคาใบละ 60 บาทเผยแพร่อีกด้วย จนทำให้โพสต์ดังกล่าวถูกแชร์กันกระจายว่อนบนสังคมโซเชียลมีเดีย
จนทำให้มีผู้แสดงความคิดเห็นกระจายกันเป็นวงกว้าง โดยเสียงส่วนใหญ่ไม่เพียงตำหนิเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมแล้ว ยังเรียกร้องให้จัดระเบียบรถรางดังกล่าว เพื่อไม่ให้กระทบภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของเพชรบูรณ์ไปมากกว่านี้ อาทิ “ไปเที่ยวทุ่งกังหันลม 5 คน เสียค่าจอดรถ 20 บาท ค่าเข้า 40 บาท หมดไป 520 บาทไม่ได้อะไรเลย ยังไม่รวมของกินอีกไปครั้งเดียวพอ” ขณะเดียวกันนักท่องเที่ยวบางรายยังบอกเล่าประสบการณ์ที่ไม่ควรจะได้ประสบพบเจอด้วยว่า “พึ่งไปมาต้นเดือนธันวา คนขับแย่งกันรับผู้โดยสาร ขับรถแข่งกัน พอถึงจุดเทเลทับบี้ คนขับหยิบมีดจะแทงกันด้วย ไปกับครอบครัวกลัวมาก” หรือ “ทุบหม้อข้าวตนเองและราคาแพงเกินไป กะเอารวยปีนี้แล้วเลิกเลย”
ด้านนายอภิศักดิ์ อาคะณา ผู้ประกอบการสวนเทเลทับบี้ทุ่งกังหันเขาค้อ กล่าวว่า กลุ่มที่ดำเนินธุรกิจรถรางมีทั้งหมด 7 กลุ่ม โดย 6 กลุ่มวิ่งตามเส้นทางปกติพานักท่องเที่ยวไปจนสุดเส้นทาง มีเพียงกลุ่มเดียวเท่านั้นที่วิ่งจากป่าสนต้นทางมาถึงสวนเทเลทับบี้ จากนั้นวกกลับไปที่จุดชมหุ่นฟางคิงคอง ซึ่งน่าจะเป็นปมประเด็นที่ทำให้นักท่องเที่ยวคิดว่า ถูกเอาเปรียบและมีการร้องเรียนผ่านสื่อโซเชียล ส่วนสวนเทเลทับบี้นั้นพอดีอยู่ในเส้นทางผ่านจึงทำให้รถรางส่วนใหญ่จะวิ่งมาจอดหรือไม่จอดก็ได้ ทางเราจึงไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับปมที่มีการร้องเรียนอย่างใด และเนื่องจากสวนเทเลทับบี้เป็นธุรกิจต้องมีการลงทุน ฉะนั้นการจะเข้าชมก็จะเสียเงินซื้อตั๋วผ่านเข้าชมคนละ 60 บาท แต่ทั้งนี้ไม่ได้เป็นการบีบบังคับแต่อย่างใด
ข่าวน่าสนใจ:
“ส่วนประเด็นเรื่องที่นักท่องเที่ยงระบุว่าคันขับรถรางแย่งรับผู้โดยสารขับรถแข่งขันและยังจะใช้อาวุธทำร้ายกันนั้น เรื่องนี้ไม่ทราบเช่นกันแต่ทั้งนี้เข้าใจว่าไม่น่าจะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น เพราะคนขับรถรางต่างก็เป็นลูกจ้างและคนในหมู่บ้านที่ต่างก็รู้จักมักคุ้นกันดีทั้งสิ้น”นายอภิศักดิ์กล่าวและว่า สำหรับการจัดระเบียบรถรางและกำหนดเส้นทางวิ่งใหม่นั้น หลังสิ้นสุดระยะเวลาผ่อนผันในปลายเดือนมกราคมนี้แล้ว ทางอำเภอเขาค้อเตรียมเป็นเจ้าภาพดำเนินการตามข้อตกลง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: