เพชรบูรณ์-แขวงทางหลวงฯ จ่อเชือด 279 ร้านมะขามหวานริมทาง รุกล้ำถนนทางหลวง ด้านผู้ว่าฯไฟเขียวให้เคลียร์บริเวณโซนอันตราย แต่กำชับขอให้ทำความเข้าใจรื้อโยกย้ายเองก่อน พร้อมให้จัดทำแผนโซนนิ่งผ่อนนิ่งผ่อนปรน จี้อำเภอช่วยหาพื้นที่เหมาะสม
วันที่ 17 ม.ค.62 นายอลงกรณ์ พรหมศิลป์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงเพชรบูรณ์ที่ 1 กล่าวในที่ประชุมวาระยามเช้าก่อนหน้านี้ ถึงปัญหากรณีร้านขายมะขามริมทางหลวงรุกล้ำเขตทางหลวงว่า ทางแขวงฯรวบรวมข้อมูลร้านค้าริมถนนทางหลวงทั้งหมาย 21 และทางหลวงหมายเลข 12 จาก 5 อำเภอ ได้แก่ อ.เมือง อ.หล่มสัก อ.หล่มเก่า อ.เขาค้อและอ.น้ำหนาวมีจำนวน 279 ราย ที่รุกล้ำอยู่ ที่ผ่านมาได้ดำเนินการตามขั้นตอนของกรมทางหลวง โดยแจ้งเตือนร้านขายมะขามหวานเหล่านี้ไปทั้งหมด 3 ครั้งแล้ว ตอนนี้เหลืออยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดีเท่านั้น ปัญหาก็คือในบริเวณจุดเสี่ยงหรือเซฟโซนที่ผ่านมาได้พยายามเคลียร์ร้านค้ามะขามหวานออก เพราะมีสถิติการเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งทั้งรถของประชาชนที่ไปจอดซื้อมะขามรวมทั้งร้านค้าที่ขายมะขามหวาน
“อย่างเช่นบริเวณพื้นที่ต.แคมป์สน ที่เคยเกิดอุบัติเหตุใหญ่ก็มาจากปัญหาเหล่านี้ ฉะนั้นหากเป็นไปได้จึงขอความร่วมมือไปยังฝ่ายตำรวจและฝ่ายทหาร เพื่อให้ช่วยสร้างความเข้าใจกับประชาชน และร้านค้ามะขามหวานริมทางหลวงเหล่านี้ เพราะที่ผ่านมาหลังแขวงฯชี้แจงทำความเข้าใจกับร้านค้าเหล่านี้ไปหลายครั้ง ก็เหมือนจะเข้าใจ และพอถึงเวลาปฏิบัติจริงกับไม่ยินยอมย้าย แม้กระทั่งในจุดทางหลวงสาย 12 ราวกม.ที่ 349 ซึ่งมีเอกชนมาทำเป็นจุดขายมะขามนอกเขตทางหลวง ทางเจ้าหน้าที่พยายามรณรงค์ก็มีร้านค้าบางส่วนที่ยินยอมย้ายเข้าไป แต่อีกส่วนหนึ่งไม่ยินยอมทั้งที่ร้านตั้งอยู่ในจุดเสี่ยง โดยให้เหตุผลเพียงว่าขายในที่เอกชนต้องเสียเงิน แต่ขายริมทางหลวงฟรีและเข้าถึงง่ายกว่า”นายอลงกรณ์กล่าว
ทั้งนี้นายอลงกรณ์ยังกล่าวย้ำในที่ประชุมด้วยว่า ทางแขวงฯพร้อมจะปฏิบัติตามกฎหมายเพราะเป็นนโยบายของรมว.คมนาคมเรื่องนโยบายการรุกล้ำถนนทางหลวง แต่เกรงจะไปขัดกับการจัดงานเทศกาลมะขามหวานฯที่จะมีขึ้นในเดือนมกราคมนี้ หรือถูกมองว่าสวนนโยบายทางจังหวัด นอกจากนี้จำเป็นต้องประคองทั้งด้านสังคมและเศรษฐกิจจึงต้องหารือทางผู้ว่าราชการจังหวัดและส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ทำให้นายสืบศักดิ์ถึงกับออกปาก “เอาไงดี” จากนั้นโยนประเด็นดังกล่าวให้ประชุมช่วยกันพิจารณา จนมีข้อชี้แนะให้ทางแขวงฯควรกำหนดจุดโซนนิ่งให้ชัดเจน โดยให้เหตุผลว่าปัญหาการตั้งร้านค้าริมทางหลวงไม่ใช่มีแค่เพียงร้านค้ามะขามหวานเท่านั้น เพราะเมื่อถึงช่วงฤดูท่องเที่ยวก็จะมีร้านค้าชุมชน,ร้านสตรอว์เบอร์รีหรือร้านไก่ย่างวิเชียร มาตั้งขายบริเวณริมทางหลวง ตั้งแต่เขตพื้นที่อ.เชียรบุรีจนถึงอ.เขาค้อ โดยที่ประชุมเห็นว่าแม้อยากให้ชาวบ้านมีรายได้แต่ก็ต้องทำให้ถูกกฎหมายด้วย จึงควรกำหนดจุดหรือโซนนิ่งผ่อนปรนบริเวณใดบ้างให้ชัดเจน และควรกำหนดช่วงเวลาไม่ใช่ให้ขายกันทั้งปี
จนนายสืบศักดิ์สรุปขอให้แขวงฯสรุปข้อมูลและจัดทำแผน พร้อมให้นำเข้าคณะอนุกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกจังหวัดพิจารณา พร้อมทั้งไฟเขียวให้ทางแขวงฯเคลียร์ร้านค้าที่ตั้งอยู่ในเขตโซนอันตรายก่อน แต่กำชับโดยขอให้แจ้งร้านค้าเหล่านี้อีกครั้ง และกำหนดระยะเวลาโยกย้ายร้านออกจากริมถนนทางหลวงให้ชัดเจน ส่วนพื้นที่จัดโซนนิ่งร้านค้าเหล่านี้ได้ขอให้แต่ละอำเภอช่วยพิจารณาหาพื้นที่ที่เหมาะสม
