เพชรบูรณ์-ตร.คุมตัวผู้ต้องหายิงแกนนำร้องรถรางเขาค้อ ทำแผนรับสารภาพ เจ้าตัวอ้างบันดาลโทสะหลังเคลียร์ไม่ลงตัว ยันไม่มีใครบงการหรือจ้างวาน
เวลา 12.00 น.วันที่ 12 ก.พ.62 พ.ต.อ.ฐเดช กล่อมเกลี้ยง รองผบก.ภ.จ.เพชรบูรณ์และพ.ต.อ.หทัยวัฒก์ จารุชัยนิวัฒน์ ผกก.สภ.เขาค้อ พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เขาค้อ นำนายธงชัย หวังดี ผู้ต้องหาคดียิงนายอภิรัฐ สินเช้า แกนนำร้องเรียนรถรางเขาค้อจนได้รับบาดเจ็บ ไปทำแผนประกอบสารภาพบริเวณสถานที่เกิดเหตุ หน้าบ้านพักนายอภิรัฐ หมู่ที่ 10 บ้านเพชรดำ ต.เขาค้อ อ.เขาค้อ ทั้งนี้นายธงชัยอ้างว่า นายอภิรัฐได้ไปต่อว่าพนักงานขายตั๋วรถราง จึงติดต่อไปให้มาคุยกันแต่นายอภิรัฐไม่ขึ้นมาจึงขับรถไปหา แต่ระหว่างพูดคุยสังเกตเห็นนายอภิรัฐล้วงเข้าไปในกระเป่า จึงเดินไปหยิบปืนพกในรถและเมื่อการพุดคุยตกลงกันไม่ได้ทำให้โมโหจึงชักปืนขึ้นมายิงรัวใส่แบบไม่ได้ตั้งใจ
นายธงชัยยืนยันว่า ไม่ได้รับคำสั่งหรือจ้างวานจากใครทั้งสิ้นแต่เพราะโมโหบันดาลโทสะนายอภิรัฐ เนื่องจากตนเป็นผู้จัดการดูแลรถรางและจะได้รับผลตอบแทนนอกจากเป็นเงินเดือนแล้ว หากยอดเงินการจำหน่ายตั๋วค่าโดยสารเพิ่มขึ้น ก็จะได้รับโบนัสพิเศษเพิ่มขึ้นด้วย อย่างไรก็ตามระหว่างการทำแผนฯมารดาของนายอภิรัฐได้เดินปรี่เข้าไปถามว่ายิงลูกชายทำไมจนทำให้ทางตำรวจต้องเร่งกันตัวออกไป อย่างไรก็ตามก่อนเดินทางกลับนายธงชัยได้ยกมือไหว้ขอโทษมารดานายอภิรัฐ จากนั้นทางทีมสืบสวนจึงรีบนำตัวรถพร้อมรีบเร่งเดินทางออกจากบ้านที่เกิดเหตุโดยทันที โดยไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆเกิดขึ้น ส่วนมารดาและญาตินายอภิรัฐรวมทั้งชาวบ้าน ต่างแสดงความชื่นชมและขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เร่งจับกุมคนร้ายรายนี้ได้อย่างรวดเร็ว
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ พ.ต.อ.ฐเดช ได้ร่วมประชุมกับ พ.ต.อ.หทัยวัฒก์และทีมสืบสวนสอบสวน สภ.เขาค้อ เพื่อวางแนวการสืบสวนสอบสวนและหาเบาะแสรวมรวมพยานหลักฐาน โดยเฉพาะประเด็นมีการเชื่อมโยงไปยังคนอื่นหรือมีการจ้างวานหรือไม่ หลังจากชาวบ้านยังปักใจเชื่อว่ายังมีผู้อยู่เบื้องหลังนายธงชัยมีส่วนรู้เห็นกับการก่อเหตุในครั้งนี้ด้วย เนื่องจากทางอำเภอเขาค้อได้สั่งระงับการเดินรถรางเข้าไปในทุ่งกังหันลมตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.62 แล้ว จนกว่าจะมีการจัดระเบียบกลุ่มธุรกิจรถรางเสร็จสิ้น แต่ก็ยังมีรถรางที่ฝ่าฝืนวิ่งรับส่งนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง จนเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุรุนแรงขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: