เพชรบูรณ์-ผู้ว่าฯ ถกแก้กังหันลม-รถรางเขาค้อ ขีดเส้น 30 มี.ค.ต้องขออนุญาตให้ถูกต้อง ด้าน หน.ชป.ศปป.4 กอ.รมน.เผยเคยติงผลประโยชน์มีมากจะทำให้ยิงกันตาย ฉะแหลกจนท.บางรายในพื้นที่เพิกเฉย ท้วง นโยบายคทช.แก้ที่ดินระวังชื่อนอมินีแฝงเพียบ จนเอื้อนายทุนแทนที่ชาวบ้านจะได้ประโยชน์
วันที่ 21 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสืบศักดิ์ เอี่ยมวิจารณ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบูรณ์ ร่วมประชุมแก้ไขปัญหาพื้นที่ทุ่งกังหันลมและรถรางเขาค้อ โดยมีผู้แทนจากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเมื่อวันที่ 20 ก.พ.ที่ผ่านมาที่ผ้องประชุมที่ว่าการอำเภอเขาค้อ โดยที่ประชุมได้ข้อสรุปว่าอำเภอเขาค้อกำหนดเขตพื้นที่การปกครองตามกฤษฎีกาใหม่ โดยที่ตั้งเสากังหันลมทั้ง 24 ต้น อยู่ในเขตตำบลทุ่งสมอทั้งหมด ทั้งนี้จะไม่มีผลกระทบกับประชาชนที่ได้รับค่าชดเชยตามสัญญาและผลประโยชน์ที่ อบต.ทั้ง 2 แห่งรับอยู่เหมือนเดิม ได้แก่ อบต.เขาค้อ ซึ่งเป็นที่ตั้งสถานีไฟฟ้ารวมทั้งแนวสายส่งไฟฟ้า และอบต.ทุ่งสมอซึ่งเป็นที่ตั้งเสากังหันลม ยังคงได้รับเงินจากกองทุนพลังงานเหมือนเดิม
ส่วนกรณีกลุ่มผู้ประกอบกิจการรถรางเดิมมี 7 กลุ่มมีรถรางรวม 34 คัน ยุบรวมเหลือเพียงกลุ่มเดียวจัดทำในรูปของวิสาหกิจชุมชนร่วมกันของทั้ง 2 ตำบล โดยอำเภอเขาค้อประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดเส้นทางเดินรถใหม่อยู่นอกเขตทุ่งกังหันลมและให้อบต.เขาค้อร่วมกับอบต.ทุ่งสมอขอใช้ประโยชน์พื้นที่จากกรมป่าไม้ภายในเดือนมีนาคมปี2562นี้ และให้บริษัทเขาค้อวินเพาเวอร์จำกัด ยื่นเรื่องขอใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้ใหม่ ผ่านอบต.เขาค้อและอบต.ทุ่งสมอ ตามกฎกระทรวงที่ออกมาใหม่ในปี2558 ซึ่งเดิมได้ขออนุญาตไว้เมื่อปี 2552 เพื่อสำนักการอนุญาตกรมป่าไม้จะดำเนินการออกใบอนุญาตให้ถูกต้องต่อไป
ทั้งนี้ที่ประชุมยังกำชับให้บริษัทฯต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขการใช้ประโยชน์จากกรมป่าไม้โดยเคร่งครัด ไม่ปล่อยปละละเลยให้มีการกระทำผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตอีก โดยในส่วนของผู้กระทำผิด 3 รายที่ปลูกสร้างอาคารร้านค้าภายในทุ่งกังหันลม บริษัทฯได้ติดประกาศให้รื้อถอนแล้วและต้องรับผิดชอบดูแลบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงโดยรอบด้วย หากพบการกระทำผิดต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ป่าไม้ทันที ทั้งนี้กรมป่าไม้โดยสจป.4 สาขาพิษณุโลก ดำเนินการสำรวจการถือครองที่ดินนอกเขตทุ่งกังหันลมและบังคับใช้กฎหมายโดยเคร่งครัด เพื่อป้องกันการบุกรุกใหม่และการยึดถือครอบครองที่ดินของกลุ่มทุน
ข่าวน่าสนใจ:
- กกต.อบจ.เพชรบูรณ์ ประกาศผลเลือกตั้ง "อัครเดช"รั้งแชมป์สมัย 7 ผู้ใช้สิทธิ์ไม่ถึงร้อยละ 50 ปชช.สงสัยผู้ใช้สิทธิกับบัตรลงคะแนน เลขเขย่งถามสาเหตุ
- เพชรบูรณ์ - ว่าที่ผู้สมัครชิง ส.อบจ.เพชรบูรณ์หน้าใหม่ บุกหนักขยันลงพื้นที่
- เพชรบูรณ์ - "ยุพราช"ชี้! นักการเมืองไม่จำเป็นต้องรวย แค่เคียงข้าง ปชช.ไม่ทุจริตโกงบ้านเมืองก็พอ
- หนุ่มวัย 21 นัดเคลียร์กับรุ่นน้องวัย 16 แต่คุยกันไม่ลงตัวเกิดชกต่อยกัน ก่อนชักมีดแทงรุ่นน้องดับ
ข่าวแจ้งว่า บรรยากาศการประชุมเป็นไปด้วยความเคร่งเครียด โดยเฉพาะเมื่อพ.อ.พงษ์เพชรจี้ให้บริษัทฯดำเนินการขออนุญาตใช้พื้นที่ให้ถูกต้องเนื่องจากมีการแจ้งเตือนก่อนหน้านี้ถึง 2 ครั้งแล้ว ส่วนกรณีธุรกิจรถรางทุ่งกังลม พ.อ.พงษ์เพชรยังระบุด้วยว่า เริ่มจากทางอำเภอฯดึงเข้ามาและเคยแจ้งเตือนก่อนหน้านี้หากคุมไม่อยู่ให้ระวังจะมีการยิงกันตาย เพราะมีผลประโยชน์มากมายมหาศาล กระทั่งเกิดเหตุยิงกันขึ้นจริงๆและหากยังเพิกเฉยก็จะมีเหตุการณ์ทำนองนี้เกิดขึ้นซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก
นอกจากนี้พ.อ.พงษเพชรยังแจ้งเตือนถึงกรณีจะมีการสำรวจการครอบครองที่ดิน เพื่อเสนอรัฐบาลให้ใช้นโบาย คทช.แก้ไขปัญหาที่ดินเขาค้อ โดยท้วงติงว่าหากเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนรู้เห็นและไปคาบเกี่ยวกับผลประโยชน์ อาจจะมีชื่อชาวบ้านที่เป็นนอมินีนายทุนแอบแฝงเข้ามา เนื่องเพราะที่ดินบนเขาค้อถูกซื้อขายเปลี่ยนมือไปอยู่กับนายทุนเป็นส่วนใหญ่แล้ว จึงต้องตรวจสอบให้เข้มงวด ไม่เช่นนั้นจะเป็นการเอื้อประโยชน์ต่อนายทุนมากกว่าช่วยชาวบ้าน
ขณะเดียวกันพ.อ.พงษ์เพชรยังชี้ด้วยว่า ปัจจุบันรูปแบบการลงทุนของนายทุนพยายามจะหลบเลี่ยงกฎหมาย โดยสิ่งปลูกสร้างจะพยายามใช้วิธีการปลูกสร้างแบบไม่ถาวร เพื่อเป็นการข้ออ้างต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งพ.อ.พงษ์ยังยกตัวอย่างกรณีสถานประกอบการรายหนึ่งที่สร้างบนที่ดินรอส. ทั้งที่รู้และเห็นว่านายทุนรายไหนอยู่เบื้องหลัง แต่ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ยังเพิกเฉย จนถูกชาวบ้านร้องเรียนว่ามีความลักหลั่นไม่เป็นธรรม นอกจากนี้กรณีธุรกิจท่องเที่ยวกังหันลมซึ่งมีผลประโยชน์มหาศาลจนกลายเป็นสาเหตุทำให้มีการยิงกัน และหากยังปละปล่อยไม่กำกับดูแลเหตุการณ์แบบนี้ยังจะมีเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามในที่ประชุมนายสืบศักดิ์ได้ขอให้ พ.อ.พงษ์เพชร ดำเนินจับกุมผู้ที่อยู่ในข่ายกระทำผิดกฎหมายเหล่านี้ ซึ่ง พ.อ.พงษ์เพชรกล่าวย้ำว่า ทางเจ้าหน้าที่ในพื้นที่สามารถดำเนินการบังคับใช้กฎหมายจับกุมได้ทันที แต่สาเหตุที่เจ้าหน้าที่จากส่วนกลางต้องลงมาดำเนินการ เพราะมีการแจ้งหรือร้องเรียนไปว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่เพิกเฉย ทางเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางจึงจำเป็นต้องลงมาดำเนินการ จนทำให้พ.อ.พงษ์เพชรไม่เพียงถูกเกลียดชังจากกลุ่มนายทุน และกลุ่มผู้สูญเสียผลประโยชน์เท่านั้น แม้กระทั่งข้าราชการบางรายและบางหน่วยงานก็แสดงความไม่พอใจ พร้อมทั้งแสดงออกด้วยการไม่ให้ความร่วมมืออีกด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: